พืชเศรษฐกิจ ตัวใหม่ บัวบก ศาลายา 1 ดีต่ออัลไซเมอร์ ฟื้นฟูปอดหลังป่วยโควิด

พืชเศรษฐกิจ ตัวใหม่ บัวบก ศาลายา 1 ดีต่ออัลไซเมอร์ ฟื้นฟูปอดหลังป่วยโควิด
พืชเศรษฐกิจ ตัวใหม่ บัวบก ศาลายา 1 ดีต่ออัลไซเมอร์ ฟื้นฟูปอดหลังป่วยโควิด

พืชเศรษฐกิจ ตัวใหม่ บัวบก ศาลายา 1 ดีต่ออัลไซเมอร์ ฟื้นฟูปอดหลังป่วยโควิด

มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล จัดงานเสวนาวิชาการในหัวข้อ “บัวบก พันธุ์ศาลายา 1 โอกาสสู่พืชเศรษฐกิจตัวใหม่ของประเทศไทย” โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิ ทั้งภาครัฐและเอกชน เข้าร่วมการเสวนา และมีผู้ประกอบการและประชาชนทั่วไป ร่วมรับฟังผ่านระบบออนไลน์ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. ที่ผ่านมา

รศ.ดร.พิสิฐ เขมาวุฒิ จากคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ กล่าวว่า บัวบก เป็นสมุนไพรที่มีศักยภาพ ที่ผ่านมามีงานศึกษาวิจัยเกี่ยวกับการสมานแผล และเสริมสร้างความจำ แต่เมื่อลองไปทบทวนงานวิจัยในช่วงนี้ ก็เห็นศักยภาพของบัวบก ที่น่าจะนำมาใช้ในผู้ป่วยหลังเป็นโควิด เพราะจากงานวิจัยในตอนนี้ พบว่า บัวบกมีฤทธิ์ลดการอักเสบ เพิ่มการสร้างหลอดเลือด เสริมภูมิคุ้มกัน ที่น่าจะวิจัยเพื่อช่วยเสริมสมรรถภาพปอดในผู้ป่วยหลังโควิด

รศ.ดร.ภก.สมภพ ประธานธุรารักษ์ รองอธิการบดี และอาจารย์ประจำภาควิชาเภสัชพฤกษศาสตร์ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวถึง การทดสอบบัวบกพันธุ์ศาลายา 1 เบื้องต้น พบว่า มีจุดเด่นเหนือกว่าบัวบกทั่วไป และบัวบกแม่พันธุ์นนทบุรี ในหลายๆ ด้าน เช่น ปริมาณสารสำคัญสูงกว่าต้นแม่พันธุ์ 1.5-2.5 เท่า ผลผลิตน้ำหนักแห้งต่อพื้นที่เพาะปลูกสูงกว่าต้นแม่พันธุ์ 3 เท่า สารสำคัญกลุ่ม triterpenoids รวมสูงกว่าต้นแม่พันธุ์ 5 เท่า ขนาดใบมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 11 เซนติเมตร และที่ใหญ่สุดมีเส้นผ่านศูนย์กลางถึง 15 เซนติเมตร จะเห็นว่ามีศักยภาพมากในการนำมาพัฒนาต่อในเชิงพาณิชย์

ดร.ภญ.ผกากรอง ขวัญข้าว ผู้ช่วยผู้อำนวยการ โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า มูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร เป็นธุรกิจเพื่อสังคม มีเป้าหมายในการนำสมุนไพรมาแก้ปัญหาของสังคม ด้วยความตระหนักว่ายาที่ใช้ในการรักษาโรคจำนวนมากที่ประเทศต้องนำเข้า ไม่สามารถผลิตได้แม้กระทั่ง สารตั้งต้นของกระบวนการผลิตยา ความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายที่สำคัญคือ ยกระดับสมุนไพรของประเทศไทยให้ใช้ประโยชน์ได้ใน 3 ทาง

บรรยากาศการประชุม

คือ ใช้เพื่อดูแลสุขภาพโดยประชาชนเอง ใช้เพื่อการให้บริการในระบบสุขภาพ และใช้เพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการทางพานิชย์ โดยเบื้องต้นเรามองถึงการต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ในตลาดผู้สูงอายุ และจำหน่ายสารสกัดให้ผู้ประกอบการที่สนใจได้ ภายใน 1 ปี ในขณะเดียวกัน ก็เร่งวิจัยพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อผู้ป่วยหลังโควิด การมียาที่มีประสิทธิผล สามารถผลิตได้เองในประเทศ

ดร.ภญ.สุภาภรณ์ ปิติพร เลขาธิการมูลนิธิโรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร กล่าวว่า จากการคลุกคลีกับชาวบ้าน และการวิจัยในระบบ พบว่า บัวบก มีผลต่อระบบประสาท เช่น ช่วยเรื่องฟื้นฟูความจำ ช่วยเพิ่มกลไกการทำงานของระบบต่อต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งดีต่อโรคอัลไซเมอร์ รวมถึงมีฤทธิ์ที่ดีต่อโรคพาร์กินสัน ที่พบในผู้สูงอายุ ผิวหนังเหี่ยวย่นมีริ้วรอย

บัวบก มีฤทธิ์สมานผิว ลดรอยแผลเป็น เพิ่มระดับสารต้านออกซิเดชั่น ลดกระบวนการอักเสบ กระตุ้นการสร้างคอลลาเจน ล่าสุดมีงานวิจัยในการนำบัวบกมาใช้ในผู้ป่วยหลังโควิด ซึ่งดูมีแนวโน้มที่ดีในการลดพังผืดที่ปอด ซึ่งในขณะนี้มีผู้ป่วยในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นมาก และยังไม่มียารักษา

บัวบก

“บัวบก มีประโยชน์มากมาย ครอบคลุมหลายมิติ การศึกษาวิจัยคุณประโยชน์ของบัวบกครั้งนี้ ถือว่ามาถูกทาง เพราะจะเกิดประโยชน์สูงสุดทั้งต่อเกษตรกร ที่จะช่วยให้ชาวบ้านพึ่งตัวเองได้อย่างยั่งยืน ดีต่ออุตสาหกรรมที่สามารถพัฒนาเป็นสารสกัดที่มีสารสำคัญสูงส่งออกได้ รวมถึงในด้านการปศุสัตว์ ที่จะพัฒนาสู่อาหารสัตว์ต่อไปในอนาคต” ดร.ภญ.สุภาภรณ์ กล่าว

ดร.ผลบุญ นันทมานพ กรรมการผู้จัดการ บริษัท คริมสัน คอนซัลติ้ง จำกัด เผยว่า ในทางการตลาดมองว่า พืชบัวบกมีโอกาสทางการตลาด เนื่องจากเป็นพืชที่มีคุณค่าสูง มีประโยชน์ในหลายด้านและมีมูลค่าสูง จากการวิจัยที่พบว่ามีสารสำคัญสูงกว่าบัวบกพันธุ์ทั่วไปถึง 5 เท่า เป็นพืชที่ปลูกง่ายให้ผลผลิตคุ้มค่าเมื่อเทียบกับพืชชนิดอื่น สามารถสร้างงาน สร้างคุณค่าให้ประชาชน ให้เกษตรกรได้อย่างยั่งยืน ไม่สร้างผลข้างเคียงต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม มีแนวโน้มที่จะสามารถส่งออกได้