เมื่อวันที่ 21 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านคาละแมะ ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ พบว่าชาวบ้านในพื้นที่หลายคนในหมู่บ้าน หลังจากที่ว่างเว้นจากการทำไร่นาและเกี่ยวข้าวเสร็จใหม่ๆ ช่วงกลางคืนต่างพากันนำเอาหลอดไฟ ซึ่งเป็นสีน้ำทะเลออกไปติดไว้ตามทุ่งนาคนละ 5-6 จุด หรือบางคนก็เป็น 10 จุด เพื่อดักจับแมลงต่างๆที่ออกมาเล่นไฟไว้ขายเพื่อเป็นรายได้เสริม ซึ่งแมลงก็มีหลากหลายชนิด อาทิ ตั๊กแตน แมงตับเต่า จิ้งหรีด และแมงดา เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า อุปกรณ์หนึ่งชุดจะมีหลอดไฟ แผ่นถุงพลาสติกใส และกะละมัง 2 อันวางไว้รองรับแมลงต่างๆ เวลาที่แมลงบินมาหาหลอดไฟก็จะชนกับพลาสติกใสที่กางมัดขึงไว้กับไม้ทำเหมือนกับจอหนัง พอแมลงบินมาชนก็จะร่วงลงกะละมังที่ใส่น้ำไว้ด้านล่าง จากนั้นจะนำตะแกรงมาคัดกรองเอาแมลงที่ต้องการและทานได้ออกมา ซึ่งช่วงนี้ในแต่ละคืนจะมองเห็นเป็นแสงระยิบระยับเป็นแสงของหลอดไฟนีออนที่ออกเป็นสีของน้ำทะเลติดตั้งไว้ทั่วทุ่งนาเลยทีเดียว

ที่สำคัญชาวบ้านแต่ละคนสามารถจับแมลงต่างๆมาขายได้คืนละกว่า 10 กิโลกรัม โดยราคาต่างกันไป เช่น แมลงตับเต่า จะขายราคากิโลกรัมละ 60 บาท แมงมันและตั๊กแตน จิ้งหรีด แมงสะดิ้ง จะอยู่ที่ราคากิโลกรัมละ 100 บาท เลยทีเดียว โดยตอนเช้ามืดก็จะมีพ่อค้าแม่ค้ามารับซื้อถึงที่ เพื่อนำไปใส่ถุงขายอีกต่อหนึ่ง มีรายได้แต่ละวันๆละ 200-300 บาท บางวันก็ได้ถึง 1,000-1,500 บาท แล้วแต่ว่าใครมีชุดไฟมากน้อยแค่ไหน ประกอบกับหากวันไหนอากาศเย็นแมลงจะบินมาลงน้อย แต่วันไหนอากาศร้อนอบอ้าวแมลงจะออกหากินเยอะมาก ถือว่าสามารถสร้างรายได้ให้กับชาวบ้าน ในช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าวช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี

นางหทัยกาญ จินพละ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 81 หมู่ที่ 1 บ้านคาละแมะ ต.คาละแมะ อ.ศีขรภูมิ จ.สุรินทร์ บอกว่า ในช่วงนี้จะจับแมลงได้มาก แต่ละคืนได้ประมาณ 10 กิโลกรัม ราคาก็จะต่างกันไป แมงตับเต่าจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60 บาท ส่วนจิ้งหรีด แมงสะดุ้ง และตั๊กแตน ราคาจะสูงอยู่ที่กิโลกรัมละ 100 บาท วันไหนอากาศร้อนอบอ้าวแมงจะลงเยอะมาก จะจับได้มาก ตนลงเพียง 10 หลอดเท่านั้น แต่เพื่อนบ้านอีกหลายเจ้าก็มีมากในช่วงนี้ พอมีรายได้เลี้ยงครอบครัวได้บ้าง หลังเกี่ยวข้าวเสร็จ

ที่มา มติชนออนไลน์