เผยธุรกิจดาวรุ่งปี60ก่อสร้าง-ยานยนต์-บริการสุขภาพ

คุณขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย  เผยว่า ภาพรวมเศรษฐกิจปี 2560 จะมีแนวโน้มขยายตัวได้ใกล้เคียงกับปีนี้ คือ จีดีพีโต 3.3% มีปัจจัยหนุน คือ การใช้จ่ายและการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐ ที่คาดว่าจะขยายตัว 8.5% ส่วนการลงทุนภาคเอกชนจะขยายตัว 2.8% ตัวเลขจากนักท่องเที่ยวต่างชาติจะยังเติบโตได้ที่ 4.8% ซึ่งเป็นเกณฑ์ที่ค่อนข้างดี แม้จะชะลอตัวลงจากฐานที่สูงในปี 2559 ด้านการส่งออกคาดว่าจะขยายตัวประมาณ 0.8%

03-%e0%b9%80%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%a9%e0%b8%90%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b9%84%e0%b8%97%e0%b8%a2-2560-484x620

ทั้งนี้ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ความเสี่ยงจากเศรษฐกิจต่างประเทศ อาทิ อังกฤษจากเหตุการณ์ BREXIT และความเปราะบางภายในยุโรป การทยอยปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ที่จะกระทบต่อเงินทุนเคลื่อนย้ายและทำให้เงินบาทมีโอกาสอ่อนค่า เศรษฐกิจจีนที่อาจยังคงชะลอตัว ส่วนปัจจัยในประเทศมาจากปัญหาการสะสมของหนี้ครัวเรือนที่จะจำกัดอำนาจการซื้อของภาคครัวเรือน ทำให้การใช้จ่ายของภาคเอกชนจะยังฟื้นตัวในกรอบที่จำกัด คาดว่าการบริโภคภาคเอกชนปีหน้าจะโต  2.2% อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ 1.8%

นางสาวขัตติยากล่าวว่า สำหรับทิศทางธุรกิจกลุ่มธุรกิจลูกค้าผู้ประกอบการ (SME) ตั้งเป้าสินเชื่อเติบโต 4-6%  เน้นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับมาตรฐานกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเติบโตของประเทศเพื่อนบ้านและการค้าชายแดน อาทิ ก่อสร้างและวัสดุก่อสร้าง ฮาร์ดแวร์

“คาดว่าธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตได้ในปี 2560 คือ ธุรกิจก่อสร้าง จากบรรยากาศการลงทุนที่ค่อย ๆ ฟื้นตัว และโครงการของรัฐ ธุรกิจยานยนต์ จากการที่โครงการรถคันแรกทยอยสิ้นสุดลง น่าจะเป็นผลดีต่อยอดขายในประเทศ ขณะที่การส่งออกรถยนต์และชิ้นส่วนมีโอกาสฟื้นตัวโดยเฉพาะตลาดอาเซียนและออสเตรเลีย ธุรกิจบริการสุขภาพ ได้รับอานิสงส์จากกลุ่มลูกค้า Medical Tourism ซึ่งไทยมีความได้เปรียบหลายประเทศในภูมิภาค และธุรกิจท่องเที่ยวที่บางตลาดมีแนวโน้มดีขึ้น อาทิ รัสเซีย และสแกนดิเนเวีย”

02-kbank-2560_%e0%b8%a2%e0%b8%b8%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%a8%e0%b8%b2%e0%b8%aa%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5-484x620

ด้านคุณธีรนันท์ ศรีหงส์ กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ในปี 2560 ธนาคารกสิกรไทยตั้งงบประมาณด้านไอทีไว้สำหรับการพัฒนาด้านนวัตกรรมใหม่ ประมาณ 10% ของกำไรสุทธิ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท และการลงทุนในรูปแบบ Venture Capital (VC) เพื่อการพัฒนานวัตกรรมใหม่ อีกประมาณ 2% ของกำไรสุทธิ หรือ 1,000 ล้านบาท  เดินหน้าแผนงานด้านเทคโนโลยี โดยมีกสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป หรือ KBTG เป็นหน่วยงานสำคัญในการขับเคลื่อน

ทั้งนี้ในปี 2560 ธนาคารกสิกรไทยจะขยายการลงทุนในฟินเทคและสตาร์ทอัพ ผ่านบริษัท Venture Capital โดยมีงบประมาณลงทุนประมาณ 1,000 ล้านบาท ทั้งการลงทุนโดยตรง ในสตาร์ทอัพของไทยและภูมิภาคเอเชีย ซึ่งจะช่วยให้ธนาคารมีส่วนร่วมในการพัฒนานวัตกรรมหรือโมเดลธุรกิจใหม่ และการลงทุนผ่านกองทุนเพื่อการระดมทุน (Fund of Fund) ช่วยให้ธนาคารได้เข้าถึงแนวคิดนวัตกรรมระดับโลกได้อย่างรวดเร็ว โดยธุรกิจที่เป็นเป้าหมายการลงทุน อาทิ ธุรกิจเทคโนโลยีการเงิน (Financial Technology), ธุรกิจที่สร้างความผูกพันและประสบการณ์กับลูกค้า (Customer Engagement & Experience), ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์(AI/Machine Learning), ธุรกิจที่ใช้เทคโนโลยี Big Data & Analytics, รวมถึงการลงทุนเพื่อการพัฒนาไอทีสำหรับองค์กร โครงสร้างพื้นฐาน และความปลอดภัย