มีจริง! หมู่บ้านแปรรูปของแปลกตามฤดู ส่งนอกทำเงินอื้อ! ทั้งปลิง-ไส้เดือน-ตุ๊กแก

หนาวมาเยือน โอกาสทอง ชาวบ้านแปรรูปไส้เดือนส่งนอกทำเงิน

เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2559 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ในช่วงนี้ภายหลังจากสภาพอากาศหนาวเย็นต่อเนื่อง มีอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยที่ประมาณ 15 -16 องศาเซลเซียส ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านหลายพื้นที่ประสบปัญหาภัยหนาว แต่สำหรับชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม หรือที่เรียกกันว่าหมู่บ้านอาชีพแปลก ถือเป็นโอกาสทอง ของชาวบ้าน จะได้มีรายได้ จากการทำอาชีพแปลก แปรรูปไส้เดือน มาตากแห้ง ส่งขายต่างประเทศ ปลายทาง คือ จีน ไต้หวัน ถือเป็นหมู่บ้านแห่งเดียวในโลก ที่มีอาชีพแปลกหมุนเวียนตลอดทั้งปี ตามฤดูกาล คือ ฤดูแล้ง จะทำการแปรรูปตุ๊กแก ฤดูฝนจะแปรรูปปลิง และในฤดูหนาวจะแปรรูปไส้เดือน ทำมานานกว่า 30 ปี ส่งผลให้มีเงินหมุนเวียนสะพัด จากการทำอาชีพปริศนาปีละหลาย 10 ล้านบาท

เช่นเดียวกันในปีนี้ภายหลังเข้าสู่ฤดูหนาว เป็นโอกาสทองของชาวบ้านในพื้นที่ บ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม ต่างเร่งทำเงิน ด้วยการไปหาไส้เดือน รวมถึงรับซื้อมาจากชาวบ้าน เนื่องจากในช่วงฤดูหนาว โดยธรรมชาติไส้เดือน ช่วงเช้าหรือสภาพอากาศหนาว มีหมอกชื้น จะมีการเคลื่อนย้าย ที่อยู่อาศัยไปอยู่ในที่ชุ่มชื้น ทำให้ชาวบ้านไปเก็บไส้เดือน มาส่งขาย ในราคากิโลกรัมละประมาณ 30 บาท ก่อนนำไปแปรรูป ชำแหละทำความสะอาด และนำไปตากแห้ง ส่งขายต่างประเทศ กิโลกรัมละประมาณ 280 -300 บาท หากครอบครัวไหนขยัน จะสามารถทำเงินได้เดือนละ 20,000 – 30,000 บาท ซึ่งจะมีพ่อค้ามารับออเดอร์ ส่งต่อไปขายปลายทาง ประเทศ จีน ประเทศไต้หวัน เพื่อนำไปปรุงเป็นยาจีนชูกำลังตามความเชื่อ และมีออเดอร์ รับไม่อั้น ทำให้ช่วงฤดูหนาวทุกปี ชาวบ้านจะมีรายได้จากการแปรรูปไส้เดือน จำนวนมาก

นายเหลี่ยม ปาทา อายุ 56 ปี กำนันตำบลนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม กล่าวว่า สำหรับอาชีพแปรรูปไส้เดือนส่งออก ของชาวบ้านตาล ต.นาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เป็นอาชีพแปลกทำมานานกว่า 30 ปี เริ่มจากมีพ่อค้า ชาวจีน ไต้หวัน มารู้จักกับพ่อค้าในหมู่บ้าน และมีการส่งเสริมให้ทำอาชีพแปลกตามฤดูกาลมาต่อเนื่อง หมุนเวียนไปตามฤดูกาล มีหน้าฝนแปรรูปปลิง หน้าร้อนแปรรูปตุ๊กแก และหน้าหนาวแปรรูปไส้เดือน แต่สำหรับฤดูหนาว ชาวบ้านตาลประมาณ 200 หลังคาเรือน จะเร่งทำเงิน จากการแปรรูปไส้เดือน ก่อนนำไปตากแห้ง และส่งขายให้กับพ่อค้า แบบครบวงจร มีทั้งไปหาเก็บไส้เดือน รวมถึงรับซื้อมาจากหลายจังหวัดของภาคอีสาน ราคากิโลกรัมละ ประมาณ 30 บาท แต่เมื่อนำมาแปรรูปแล้วตากแห้ง จะขายในราคา กิโลกรัมละ 300 บาท ถือเป็นอาชะที่สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านเป็นอย่างดี มีงานทำตลอดทั้งปีไม่ต้องไปทำงานต่างถิ่น ครอบครัวไหนขยัน มีรายได้เดือนละ 30,000 – 40,000 บาท และกลายเป็นอาชีพเสริมที่มีการจ้างงานตลอดปี

51-1-768x512

ที่มา : มติชนออนไลน์