รมต.วิทย์ฯ เปิดศูนย์เทคโนโลยียืดอายุลำไย แก้ผลผลิตล้นตลาด

วันนี้  26 พ.ย. 2559 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลเหล่ายาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน   ดร.พิเชฐ   ดุรงคเวโรจน์   รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   มาเป็นประธานเปิดศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยียืดอายุลำไยเพื่อการส่งออก  ทั้งนี้เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของเอกชน และชุมชนเกษตรกรลำไย ให้สามารถประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม เพื่อแก้ไขปัญหาลำไยล้นตลาด โดยมีนางสาวปาณี นาคะนาท รองผู้ว่าราชการจังหวัดลำพูน นำหัวหน้าส่วนราชการจังหวัด และประชาชน ต.เหล่ายาว ให้การต้อนรับ

ดร.พิเชฐ กล่าวว่า จากการที่สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย ได้รับมอบหมายจากกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ให้จัดทำโครงการปรับปรุงคุณภาพและบริหารจัดการลำไยให้ได้มาตรฐานการส่งออก เนื่องจากประเทศคู่ค้ามีมาตรฐานการส่งออกลำไยที่เข้มงวดขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพ การคัดแยกตามเกรด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปริมาณสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไยของไทยต้องไม่เกินมาตรฐาน รวมทั้งเกษตรกรยังประสบปัญหาในดานการเพาะปลูก และปริมาณผลผลิตลำไยที่ล้นตลาด เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรและแก้ปัญหาผลผลิตลำไยล้นตลาด สถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย จึงได้จัดทำโครงการ ยืดอายุลำไยเพื่อแก้ไขปัญหาลำไยล้นตลาด และได้จัดตั้งศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยียืดอายุลำไยเพื่อการส่งออก แห่งนี้ขึ้น โดยได้รับความร่วมมือจากจังหวัดลำพูน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเกษตรกรผู้ปลูกลำไยเป็นอย่างดี

สำหรับศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยียืดอายุลำไยเพื่อการส่งออก ที่อบต.เหล่ายาว อ.บ้านโฮ่ง จ.ลำพูน นับเป็นโรงรมลำไยด้วยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ต้นแบบที่ได้มาตรฐานเพื่อการส่งออกลำไย โดยมีการออกแบบระบบที่สามารถปรับทิศทางการไหลของก๊าซ สามารถควบคุมสภาวะพร้อมเครื่องผลิตก๊าซส่งให้เกิดประสิทธิภาพสูงในการช่วยลดปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ที่อาจตกค้างในเนื้อลำไยได้ รวมทั้งช่วยลดกำมะถัน และลดปริมาณก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ออกสู่อากาศ ทำให้ไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมในชุมชน

นอกจากนี้  ยังให้บริการที่ปรึกษาเพื่อการพัฒนาโรงรมให้ได้มาตรฐาน GMP ผลิตแรงงานคุณภาพสำหรับโรงรม และการประยุกต์ใช้โทรศัพท์อัจฉริยะถอดรหัส QR CODE เพื่อตรวจสอบลำไย รวมทั้งการทำงานวิจัยและการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพจากลำไย การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ลำไย การทำแนวกันชนระหว่างโรงรมและพื้นที่อ่อนไหว เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงจากก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์และการตรวจติดตามและประเมินผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมด้วย

ที่มา : มติชนออนไลน์