ความฝันของด้อน! อยากเป็นนักกายภาพฯ ส่งต่อความรู้ ผู้ป่วย-ผู้สูงอายุ ดูแลตัวเองได้

ความฝันของด้อน! อยากเป็นนักกายภาพฯ ส่งต่อความรู้ ผู้ป่วย-ผู้สูงอายุ ดูแลตัวเองได้

ด้อน-รอมมาฎอน สองเมือง นักศึกษาชั้นปีที่ 3 คณะกายภาพบําบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิต ในฐานะเป็นผู้ได้รับทุนพระราชทานสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ประจําปีการศึกษา 2562 และได้รับรางวัลด้านคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น ประจำปีการศึกษา 2562 จากสภาสถาบันการศึกษากายภาพบำบัดแห่งประเทศไทย เผยว่า ตัวเขาเองมักช่วยงานอาจารย์ที่โรงเรียนทำงานในสภานักเรียน และช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 4 ได้เข้าเป็นแกนนำเยาวชน To Be Number 1 ของจังหวัดภูเก็ต

“การทำกิจกรรมจิตอาสา เปลี่ยนทัศนคติและบุคลิกของผมไปในทางที่ดี จากเมื่อก่อนที่เป็นคนเก็บตัว ขี้อาย เข้าสังคมไม่เก่ง งานจิตอาสาทำให้ได้เปิดพื้นที่ใหม่ และกล้าที่จะเข้าสังคมมากขึ้น เพราะการทำงานจิตอาสานั้นต้องเจอผู้คนมากมาย จึงทำให้ต้องกล้าแสดงออก ไม่ปิดกั้นตัวเองอยู่ในกรอบ พอเข้ามาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยรังสิต ผมยังคงสานต่อการทำกิจกรรมจิตอาสา พร้อมกับการทำกิจกรรมทั้งของคณะและมหาวิทยาลัย เช่น ผู้นำเชียร์ลีดเดอร์ ผู้รับผิดชอบโครงการพี่ติวน้อง โครงการเพื่อนติวเพื่อน แม้ว่าบางกิจกรรมหลายคนอาจมีข้อกังขา เพราะตัวผมเป็นมุสลิม” ด้อน บอกอย่างนั้น

ด้อน-รอมมาฎอน สองเมือง

และว่า อย่างไรก็ตาม ข้อบังคับทางศาสนาของแต่ละคนไม่เท่ากัน แต่เวลาจะทำกิจกรรมอะไร ต้องคิดทุกครั้งว่า ถ้าไม่ติดขัดกับหลักศาสนาจะทำให้อย่างเต็มที่ หรือถ้าไม่มั่นใจก็จะโทรปรึกษาคุณพ่อคุณแม่ว่าทำได้หรือเปล่า แต่ส่วนใหญ่ที่บ้านสนับสนุน

สำหรับเหตุผลที่เลือกเรียนคณะกายภาพบําบัดและเวชศาสตร์การกีฬา มหาวิทยาลัยรังสิตนั้น ด้อน บอก “ต้องย้อนไปในช่วงมัธยมที่อยู่ในโครงการ To Be Number 1 ได้มีโอกาสไปทำงานจิตอาสาที่บ้านพักคนชรา เมื่อเห็นผู้สูงอายุที่นั่นไม่มีลูกหลานมาดูแล มีเพียงพยาบาลคอยดูแล แต่ก็เป็นจำนวนน้อยเมื่อเทียบกับจำนวนผู้สูงอายุแล้วนั้น อาจทำให้ได้รับการดูแลที่ไม่ทั่วถึง จึงเกิดความคิด อยากศึกษาต่อในด้านที่สามารถนำความรู้ความสามารถมาช่วยเหลือผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุได้ ในอนาคตประเทศเราจะกลายเป็นสังคมผู้สูงอายุ แต่จำนวนบุคลากรที่จะมาดูแลหรือทำอาชีพตรงนี้ยังมีไม่มาก จึงตัดสินใจเรียนกายภาพบำบัด เพราะดูแลผู้อื่น และอยากนำความรู้ส่งต่อให้เขาสามารถดูแลตัวเองได้ครับ”

รับรางวัลน่าภาคภูมิใจ

สุดท้าย ด้อน กล่าวถึงความภาคภูมิใจ ที่เป็นนักศึกษาทุนพระราชทานและได้รับรางวัลด้านคุณธรรมจริยธรรมดีเด่น

“ตั้งปณิธานกับตนเองไว้ จะทำเพื่อสังคมไปตลอด ไม่ใช่แค่ภายใน 4 ปีที่ได้รับทุน แต่เมื่อเรียนจบไปจนทำงานแล้ว ก็ยังทำเพื่อสังคมต่อไป ไม่เกี่ยวข้องกับว่าจะนับถือศาสนาอะไร แค่เรามีจิตใจที่อยากจะช่วยคน คิดว่าไม่ผิดหลักศาสนาอยู่แล้ว สำหรับคุณธรรมและจริยธรรมในความหมายของผมมันอาจไม่ได้พิเศษอะไรมาก เพราะทุกคนมีคุณธรรมจริยธรรมอยู่ในตัวอยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าจะดึงออกมาใช้อย่างไร เช่น รับผิดชอบต่อหน้าที่ของตัวเอง ขยันหมั่นเพียร ปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม ก็เหมือนกับเรามีคุณธรรมต่อตนเองและมีคุณธรรมต่อผู้อื่นด้วย”