เช็กด่วน! 10 ธุรกิจดาวเด่น ยุคโควิด-19 อาชีพไหนมาแรง SMEs ไทยต้องรู้

เช็กด่วน! 10 ธุรกิจดาวเด่น ยุคโควิด-19 อาชีพไหนมาแรง SMEs ไทยต้องรู้
เช็กด่วน! 10 ธุรกิจดาวเด่น ยุคโควิด-19 อาชีพไหนมาแรง SMEs ไทยต้องรู้

เช็กด่วน! 10 ธุรกิจดาวเด่น ยุคโควิด-19 อาชีพไหนมาแรง SMEs ไทยต้องรู้

เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ เปิด 10 ธุรกิจดาวเด่น ยุคโควิด-19 โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย ธุรกิจทางการแพทย์ ธุรกิจฆ่าเชื้อโรค และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ นำโด่งแรงแซงโค้ง 

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลายธุรกิจได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อม ประกอบกับประชาชนต้องหยุดกิจกรรมทางเศรษฐกิจและปรับเปลี่ยนการดำเนินชีวิตหลายด้าน ส่งผลให้การใช้จ่ายเกิดการชะลอตัวในช่วงครึ่งปีแรก ทั้งนี้ เมื่อรัฐบาลเริ่มผ่อนคลายมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ธุรกิจต่างๆ จึงเริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยเฉพาะธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสุขอนามัย ธุรกิจทางการแพทย์ และธุรกิจอีคอมเมิร์ซ”

สำหรับธุรกิจดาวเด่นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 จะมีความเกี่ยวข้องกับความต้องการขั้นพื้นฐานและเทคโนโลยีเป็นหลัก เช่น อาหาร ยารักษาโรค และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง รวมถึงธุรกิจขนส่งอาหารและสินค้า ประกอบด้วย 10 ธุรกิจ คือ

1. ธุรกิจการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ด้านสุขอนามัยหรือเภสัชกรรมที่ทำจากยาง
2. ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์
3. ธุรกิจการฆ่าเชื้อและกำจัด
4. ธุรกิจ e-Commerce
5. ธุรกิจการขายส่งอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์
6. ธุรกิจการบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคาร
7. ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์
8. ธุรกิจขนส่งสินค้าและพัสดุ
9. ธุรกิจการขายส่งสินค้าทั่วไป
และ 10. ธุรกิจเกี่ยวกับบัญชี การทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี

โดยทั้ง 10 ธุรกิจดาวเด่น สามารถจำแนกออกเป็นกลุ่มธุรกิจได้ดังนี้

ธุรกิจการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ด้านสุขอนามัยที่ทำจากยางพารา การขายสินค้าทางเภสัชภัณฑ์ทางการแพทย์ และธุรกิจการฆ่าเชื้อโรค/กำจัด จากสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจใหม่ พบว่า ในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค. 63) ธุรกิจกลุ่มนี้มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 37 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค. 62) โดยเฉพาะธุรกิจที่ผลิตสิ่งของเครื่องใช้ด้านสุขอนามัยที่ทำจากยางพารา เช่น ถุงมือยาง พบว่าเพิ่มขึ้นมากกว่า 12 เท่า

ธุรกิจ e-Commerce จากสถิติจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค. 63) เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค. 62) เห็นได้ชัดว่าการสั่งซื้อสินค้าทางอินเตอร์เน็ตและการขนส่งทางไปรษณีย์เป็นสิ่งที่ผู้บริโภคยอมรับมากขึ้น ทั้งนี้ พฤติกรรมการบริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากในช่วงเวลาอันสั้น แสดงถึงการปรับตัวและการยอมรับเพื่อเข้าสู่วิถีชีวิตใหม่ หรือ New Normal

โดยกระทรวงพาณิชย์เล็งเห็นถึงความสำคัญและมุ่งหมายในการพัฒนาส่งเสริมผู้ประกอบการกลุ่มนี้ จึงได้จัดโครงการเพิ่มศักยภาพผู้ประกอบการเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ได้แก่ โครงการ Offline 2 Online โครงการ Thailand e-Commerce (Hackathon) 2020 ฯลฯ เป็นต้น

ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์และแอพพลิเคชั่น มีการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค. 63) เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยจำนวนที่เพิ่มขึ้นสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับการเติบโตของธุรกิจ e-Commerce และพฤติกรรมการใช้เทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น แสดงให้เห็นถึงแนวโน้มการประกอบธุรกิจที่ผู้ค้าออนไลน์เริ่มให้ความสนใจในการพัฒนาแพลตฟอร์มช่องทางการค้าหรือประยุกต์การใช้เทคโนโลยีเพื่อส่งเสริมช่องทางการค้าออนไลน์ของตัวเองมากยิ่งขึ้น

ธุรกิจขนส่งอาหารและเอกสาร จากสถานการณ์ที่ผู้บริโภคต้องเว้นระยะห่างทางสังคม ความนิยมในการสั่งซื้อสินค้าและอาหารทางออนไลน์ ทำให้ธุรกิจขนส่งอาหาร เอกสาร และสิ่งของ เติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยมีจำนวนการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจช่วง 7 เดือนแรก (ม.ค.-ก.ค. 63) ถึง 1,544 บริษัท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค. 62) ถึงร้อยละ 10

ธุรกิจอื่นๆ เช่น บริการทำความสะอาด ขายส่งอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขายส่งสินค้าทั่วไป และธุรกิจเกี่ยวกับบัญชี การทำบัญชี การตรวจสอบบัญชี และการให้คำปรึกษาด้านภาษี โดยธุรกิจกลุ่มนี้เป็นธุรกิจที่มีความเสี่ยงต่ำเนื่องจากบริการจัดทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชีเป็นสิ่งที่นิติบุคคลส่วนใหญ่ต้องใช้บริการ โดยมีแนวโน้มการจดทะเบียนจัดตั้งใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงขึ้นถึงร้อยละ 5 จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

สำหรับ 10 ธุรกิจดาวเด่นข้างต้น มีผู้ประกอบธุรกิจมาจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มสูงขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.ค. 62) แม้อยู่ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ประกอบด้วย

1. ธุรกิจการผลิตสิ่งของเครื่องใช้ด้านสุขอนามัยหรือเภสัชกรรมที่ทำจากยาง จำนวน 13 บริษัท เพิ่มขึ้น 12 เท่า (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 1 บริษัท)
2. ธุรกิจการขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ จำนวน 438 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 150 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 175 บริษัท)
3. ธุรกิจการฆ่าเชื้อและกำจัด จำนวน 67 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 49 บริษัท)
4. ธุรกิจ e-Commerce จำนวน 508 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 377 บริษัท)
5. ธุรกิจการขายส่งอุปกรณ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ จำนวน 150 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 126 บริษัท)
6. ธุรกิจการบริการทำความสะอาดทั่วไปของตัวอาคาร จำนวน 123 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 19 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 103 บริษัท)
7. ธุรกิจจัดทำซอฟต์แวร์ จำนวน 338 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 294 บริษัท)
8. ธุรกิจขนส่งสินค้าและพัสดุ จำนวน 1,544 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 1,400 บริษัท)
9. ธุรกิจการขายส่งสินค้าทั่วไป จำนวน 393 บริษัท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 365 บริษัท)
และ 10. ธุรกิจเกี่ยวกับบัญชี การทำบัญชีและการตรวจสอบบัญชี การให้คำปรึกษาด้านภาษี จำนวน 498 บริษัท ลดลงร้อยละ 5 (ม.ค.-ก.ค. 62 จำนวน 524 บริษัท)