หมูแพงกระทบร้านดัง ขอปรับราคา นายกสมาคมเลี้ยงสุกร เผย ราคาขึ้นตามกลไกตลาด

หมูแพงกระทบร้านดังขอปรับขึ้นราคา ด้านนายกสมาคมเลี้ยงสุกร เผยราคาหมูขยับขึ้นตามกลไกตลาด ยืนยันตรึงราคาหน้าฟาร์มไม่เกิน 80 บาท แม้ว่าเกษตรกรจะมีต้นทุนการเลี้ยงหมูสูงถึง 71 บาทแล้วก็ตาม

จากสถานการณ์ราคาเนื้อหมูที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ได้ส่งผลกระทบร้านอาหารต่างๆ ล่าสุด นางจงใจ กิจแสวง หรือเจ๊จง เจ้าของร้านหมูทอดชื่อดังขวัญใจคนงบน้อย ประกาศปรับขึ้นราคา ผ่านเพจเฟซบุ๊ก “ร้านหมูทอดเจ๊จง” ระบุว่า “เจ้ต้องขอโทษด้วยนะคะหมูขึ้นราคามาหนักมาก เจ้ขอปรับราคาขึ้น เฉพาะ ราดข้าวใส่ถุง กะหมูทอด ถ้าหมูลงราคา เจ้สัญญาว่า เจ้จะปรับลงมาให้เหมือนเดิมค่ะ”

ด้าน นายสุนทราภรณ์ สิงห์รีวงศ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ เปิดเผยถึงสถานการณ์สุกรในปัจจุบันว่า ราคาสุกรมีชีวิตหน้าฟาร์มของเกษตรกรทั่วประเทศยังคงยืนราคาที่ 78-79 บาทต่อกิโลกรัม โดยเกษตรกรภาคเหนือยืนยันรักษาระดับราคาสุกรขุนไม่ให้เกิน 80 บาทต่อกิโลกรัม ตามที่ให้สัญญากับกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ไว้ว่าจะร่วมกันดูแลไม่ให้ราคาสูงจนกระทบค่าครองชีพประชาชน ขณะที่ต้นทุนการเลี้ยงสุกรยังมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่ต่างปรับตัวขึ้น ที่สำคัญ เกษตรกรทั้งประเทศยังต้องต่อสู้กับ โรคแอฟริกันสไวน์ฟีเวอร์ หรือ ASF ในสุกร ทำให้มีต้นทุนการป้องกันและเฝ้าระวังโรคเพิ่มขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

นายกสมาคมผู้เลี้ยงสุกรภาคเหนือ กล่าวว่า เน้นย้ำให้กลุ่มผู้เลี้ยงรักษาระดับราคาภายในประเทศเพื่อไม่ให้ประชาชนเดือดร้อน แม้ว่าเกษตรกรจะมีต้นทุนการเลี้ยงหมูสูงถึง 71 บาทแล้วก็ตาม และพร้อมให้ความร่วมมือกับสมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งชาติ ส่งตรงหมูสดจากฟาร์มถึงมือผู้บริโภค โดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง พร้อมกันทุกภูมิภาค วันที่ 7 สิงหาคม ศกนี้

“หมูไทยราคาไม่ได้สูงไปกว่าประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศที่ต้องรับมือกับโรค ASF ที่ระบาดอย่างหนักอย่างจีน เวียดนาม เมียนมา ที่ราคาปรับเพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว จากการขาดแคลนหมูอย่างหนัก เพราะภาวะโรค ช่วงนี้ที่ราคาหมูขยับขึ้นตามกลไกตลาด ขอให้ประชาชนเข้าใจและเห็นใจเกษตรกรที่ต้องเผชิญปัญหาราคาหมูตกต่ำจากผลผลิตล้นตลาดนานกว่า 3 ปี หากเห็นว่าหมูราคาสูงทุกท่านยังมีทางเลือกรับประทานโปรตีนอื่นๆ ทดแทนได้ ทั้งปลา ไข่ ไก่ แต่พวกเรามีอาชีพเลี้ยงหมูอาชีพเดียวเท่านั้น ขอให้กลไกตลาดได้ทำงาน หากถูกควบคุมมากจนเกินไปเกษตรกรอาจไม่สามารถไปต่อในอาชีพนี้ได้” นายสุนทราภรณ์ กล่าว./