ศบค. ยัน ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อของปลาแซลมอนในประเทศไทย

ศบค. ยัน ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อของปลาแซลมอนในประเทศไทย แนะนำควรทานอาหารปรุงสุก 

ศบค. – เว็บไซต์ สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ข่าว นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. กล่าวว่า กรณีการพบเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในเขียงแล่ปลาของประเทศจีนนั้น ในส่วนของปลาแซลมอนในประเทศไทย ยังไม่มีรายงานการติดเชื้อ แต่ยอมรับว่าโอกาสติดเชื้อเกิดขึ้นได้หลายจุด แม้ว่าไม่ได้ติดอยู่ที่ตัวปลา ก็อาจจะมีที่เขียง หรือมีดได้

ดังนั้น หากรับประทานอาหารควรเลือกทานแบบปรุงสุกจะปลอดภัยกว่า ขณะเดียวกัน จะเห็นว่าการใช้บริการสถานที่ต่างๆ ผ่านระบบไทยชนะ หากมีรายงานการติดเชื้อ เจ้าหน้าที่จะสามารถเข้าตรวจพื้นที่และติดตามผู้ที่มีความเสี่ยงมาตรวจได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วมากขึ้น ซึ่งตามปกติเจ้าหน้าที่มีการลงพื้นที่ตรวจอยู่แล้ว แต่หากประชาชนช่วยกันแจ้งก็จะรวดเร็วมากขึ้น

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค.

ส่วนกรณีการจัดเลี้ยงในงานบวช หรืองานแต่งงาน สามารถจัดงานได้ เนื่องจากไม่มีข้อห้าม แต่ต้องยึดมาตรการควบคุมหลัก ประกอบด้วย รักษาระยะห่าง สวมใส่หน้ากากอนามัย หมั่นล้างมือ ไม่แออัด ดูแลความสะอาดของสถานที่ รวมถึงใช้ระบบไทยชนะ ก็จะเป็นแนวทางที่ช่วยป้องกันควบคุมโรคได้อย่างปลอดภัย ขณะเดียวกัน ร้านอาหารต่างๆ ที่ได้ขออนุญาตอย่างถูกต้อง ทั้งการขายอาหาร ขายสุราและเล่นดนตรี ก็สามารถเปิดเล่นดนตรีได้

กรณี Travel Bubble หรือการจับคู่ประเทศเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างประเทศที่สามารถจัดการโรคโควิด-19 ได้ดีเท่าๆ กัน ยอมรับว่ามีข้อกังวลในเรื่องของการระบาดระลอกใหม่ในต่างประเทศ ซึ่งหากดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง ต้องพร้อมยอมรับความเสี่ยงที่จะเกิดขึ้นด้วย ดังนั้น ต้องพิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบ หลากหลายด้าน ทั้งการป้องกันโรค ระบบติดตามนักท่องเที่ยว ระบบตรวจคัดกรองและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยกลางสัปดาห์นี้ ศบค.ชุดเล็กจะหารือให้ได้ข้อสรุป ก่อนนำเสนอ ศบค.ชุดใหญ่พิจารณาต่อไป

สำหรับกรณีคนไทยในซาอุดีอาระเบียและอียิปต์ที่มีผู้ติดเชื้อนั้น อาจจะยังไม่ได้เดินทางกลับมาประเทศไทย เนื่องจากมีข้อกำหนดของสายการบินระหว่างประเทศ รวมถึงกรอบความปลอดภัยทั้งคนไทยที่อยู่บนเครื่องบินและคนไทยที่อยู่ในประเทศ ซึ่งขณะนี้ทางกงสุลใหญ่ฯ ได้ประสานงานดูแลแล้วและส่วนใหญ่เป็นผู้ป่วยอาการเบา