ผู้เขียน | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
อ.จุฬาฯ ชี้ชัด เพื่อไทย มีความชอบธรรม ตั้งรัฐบาลได้ทันที หยุดอ้าง ‘ป๊อบปูลาร์โหวต’
ผศ.ดร.พรสันต์ เลี้ยงบุญเลิศชัย นักวิชาการด้านกฎหมายมหาชน กฎหมายรัฐธรรมนูญและสถาบันการเมือง จากภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ถึงกรณี ที่พรรคพลังประชารัฐ อ้างถึงคะแนนดิบ หรือ “ป๊อปปูลาร์โหวต (Popular Vote)” รวม 350 เขต กว่า 8 ล้าน คะแนน แต่ได้ ส.ส.เขต รวม 97 ที่นั่ง ว่าได้มากกว่า พรรคเพื่อไทย ซึ่ง ส่ง ผู้สมัคร ส.ส. เพียง 250 เขต จาก 350 เขต และได้คะแนน 7 ล้าน 5 แสนกว่าคะแนน แต่ได้ ส.ส.ระบบเขต 137 ที่นั่ง โดยพรรคพลังประชารัฐ อ้างผลคะแนน “ป๊อปปูลาร์โหวต (Popular Vote)” เป็นเหตุผลในการจัดตั้งรัฐบาล โดยระบุว่า
ผมขออนุญาตให้ความเห็นในเชิงวิชาการ 3 ข้อ เกี่ยวกับการอ้างคะแนน Popular Vote ของพรรคพลังประชารัฐเพื่อการจัดตั้งรัฐบาลว่าไม่สอดคล้องกับหลักวิชาดังนี้
1. “ระบอบประชาธิปไตยระบบผู้แทน” หรือ “Representative democracy” ซึ่งรัฐธรรมนูญไทยได้มีการรับรองไว้ เป็นระบอบที่ถือเอา “ผู้แทนประชาชน” (Representative) เป็นสำคัญ หาใช่ “ระบอบประชาธิปไตยทางตรง” หรือ “Direct democracy” ที่ถือเอาการแสดงออกของตัวประชาชนโดยตรงเป็นสำคัญ
การกล่าวอ้างถึงความชอบธรรมว่า มีคะแนนเสียงของประชาชนที่เลือกพรรคพลังประชารัฐมาโดยตรงมากกว่าพรรคอื่น จึงเป็นการอ้างถึงระบอบการปกครองที่ผิดฝาผิดตัว อีกทั้งยังสร้างปัญหาให้เกิดขึ้นมากมายหากพรรคอื่นๆ จะมีการกล่าวอ้างเช่นเดียวกัน เช่น พรรค ก. ได้คะแนน Popular vote ในกรุงเทพฯ หรือภาคเหนือ ฯลฯ มากที่สุดย่อมมีความชอบธรรมในการดูแลกรุงเทพฯ หรือภาคเหนือ ฯลฯ มากกว่าพรรคอื่น
ทั้งหมดจะนำไปสู่ความขัดแย้งแตกแยก ที่สะท้อนถึงความไม่สอดคล้องกับระบอบการปกครองที่ถูกต้อง ดังนั้น ในระบอบประชาธิปไตยในระบบผู้แทนจึงต้องยึดจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นหลัก
2. การกล่าวอ้างถึงเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญเชื่อมโยงกับระบบเลือกตั้ง (Voting system) ที่ไม่ต้องการให้มีการเทคะแนนเสียงทิ้งน้ำนั้นถือเป็นคนละเรื่องเดียวกัน ในทางกลับกัน การที่พรรคพลังประชารัฐใช้เหตุผลของการนำเอาทุกคะแนนเสียง ที่เลือกพรรคตนเพื่อสร้างความชอบธรรมในการจัดตั้งรัฐบาล
โดยหาได้ให้ความสำคัญกับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรนั้นกลับชี้ให้เห็นถึง “ข้อบกพร่องของระบบการจัดสรรปันส่วนผสมเอง” ที่ก่อให้เกิดสภาวะเช่นนี้ กล่าวอีกนัยหนึ่ง การที่ผลคะแนน Popular vote ไม่สอดคล้องกับจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่ได้รับเป็นเรื่องของระบบเลือกตั้ง ที่มีการออกแบบและบังคับใช้ที่ไม่ได้ตามเป้าประสงค์ของผู้ออกแบบระบบเลือกตั้ง
3. การให้พรรคที่ได้จำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากการเลือกตั้งมากที่สุดอันดับ 1 ทำการจัดตั้งรัฐบาลก่อน ตามหลักกฎหมายรัฐธรรมนูญแล้ว แม้จะมิได้มีการบัญญัติไว้อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร แต่ถือเป็น “ธรรมเนียมปฏิบัติทางรัฐธรรมนูญ” หรือ “Constitutional convention”
ซึ่งอาจเรียกเป็นภาษาพูดว่า “มรรยาท ทางการเมืองสากล” ไม่ว่าจะเป็นประเทศที่มีรัฐธรรมนูญเป็นลายลักษณ์อักษรแบบประเทศสหรัฐอเมริกาก็ดี ซึ่งรวมถึงประเทศไทยด้วย หรือประเทศที่ไม่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นลายลักษณ์อักษรแบบประเทศอังกฤษก็ดี ก็ปฏิบัติกันมาเช่นนี้ ดังนั้น การที่จะฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามธรรมเนียมทางการเมืองข้างต้น จึงเป็นการสร้างบรรทัดฐานทางการเมืองที่ไม่เหมาะสมยิ่ง
อนึ่ง ผมคิดว่าพรรคการเมืองต่างๆ พึงต้องเข้าใจต่อหลักการที่ถูกต้องตามรัฐธรรมนูญและการเมืองข้างต้นนี้ด้วยเช่นเดียวกันครับ
ที่มา ข่าวสดออนไลน์