“แตงโม”สุดช็อก! เปิดใจถึง ต่าย ชีวิตเวทนาต้องขอทาน เผยอยากเจอเพื่อนรัก

“แตงโม” สุดช็อก! เปิดใจถึง ต่าย ชีวิตเวทนาต้องขอทาน เผยอยากเจอเพื่อนรัก

กลายเป็นภาพสะเทือนใจ สำหรับอดีตดาราสาว ต่าย มนัสนันท์ ที่ล่าสุดพบอยู่ในสภาพไม่เหลือเค้าดาราสาวสวยในอดีต โดยมานั่งอยู่ริมถนน เพื่อขอเงินคนเดินผ่านไปมา บอกหิวข้าว ขอเงินไปซื้อข้าว

โดยมีคนจำนวนมากเห็นสภาพดังกล่าวแล้วต่างแสดงความเห็นใจ ไม่อยากให้ซ้ำเติมอดีตดาราสาว รวมทั้งอยากให้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปช่วยเหลือ พาไปรักษาอาการป่วยด้วย

หากย้อนดูเส้นทางชีวิต ต่าย-มนัสนันท์ ปานดี เคยแสดงภาพยนตร์เรื่องดัง แสบสนิทศิษย์ส่ายหน้า และ โกยเถอะโยม โดยเป็นคนในตัวเมืองชลบุรี หลังจากเรียนจบไปเป็นนางแบบและดาราตัวประกอบ รวมทั้งเดินสายร้องเพลงตามผับที่กรุงเทพฯ ได้ค่าตัวหลายแสนบาทต่อเดือน กระทั่งชีวิตพลิกผันสุดๆ

สำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 5 มี.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังซอยชุมชนวัดเขาแตงอ่อน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ซึ่งเป็นที่อยู่อาศัยของอดีตดาราสาว ต่าย มนัสนันท์ ที่ใช้ชีวิตสุดรันทดอยู่กับคุณแม่ ภายในเพิงพักที่ใช้ผ้าใบมุงหลังคา และไร้ฝาบ้านบังแดดบังฝน ส่วนบริเวณโดยรอบเต็มไปด้วยกองขยะที่เก็บมาคัดแยกขยะขาย เพื่อนำเงินมาใช้ประทังชีวิตของอดีตดาราสาวและคุณแม่

ขณะที่ ต่าย มนัสนันท์ ยังคงปฏิเสธอยู่ตลอดเวลาว่าไม่ได้เป็นอะไร ซึ่งยังคงจำเพื่อนในวงการชื่อแตงโมได้ โดยคิดถึงแตงโมมาก รวมทั้งยังคิดถึงเพื่อนดาราที่ร่วมแสดงทุกคน ตอนนี้ไม่ได้ติดยาเสพติดแล้ว แม้จะมีการบังคับก็ตาม ส่วนตอนนี้อยากได้รถจักรยานยนต์ไว้ขี่ รวมทั้งอยากหายบ้าเร็วๆ และอยากกลับไปเล่นหนังอีก

ล่าสุดดาราสาวตงโม-นิดา พัชรวีระพงษ์ โพสต์ไอจีถึง ต่าย มนัสนันท์ พร้อมลงรูปอดีตดาราสาวและระบุว่า “ไม่รู้ระหว่างทางมึงเจอไรมาบ้าง ไม่เป็นไร…กูไม่สนใจ ตอนนี้เป็นห่วงมาก จะพยายามช่วยเท่าที่จะทำได้…ยัยแฝด”

ก่อนดาราสาว แตงโม นิดา เปิดใจกับข่าวสดออนไลน์ว่า “รู้จักกับต่ายค่ะ เพื่อนหนูเอง ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นไปได้ สงสารมาก เห็นจากที่มีข่าวออกมาว่าเขายังจำโมได้และบอกว่าอยากเจอโมด้วย โมรู้จักกับต่ายตั้งแต่ก่อนเข้าวงการ เหมือนคนที่เข้ามาในช่วงยุคเน็ตไอดอลเแรกๆ ช่วงนั้นยังเป็นเด็กๆ วัยรุ่นอยู่เลย ตอนนั้นไปแคสต์งาน อารมณ์แบบเด็กแต่ละโมเดลลิ่งก็มาเจอกัน ซึ่งแต่ก่อนก็จะมีแต่เด็กหน้าซ้ำๆ เดิมๆ วนเวียนแคสต์งานก็เลยจะรู้จักกันไปเอง แล้วต่ายกับโมสมัยก่อนดันหน้าเหมือนกันด้วยไง หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันเข้าวงการ เห็นต่ายไปเล่นหนังแป๊บนึงแล้วก็หายไปเลย คือพอตอนที่โมเริ่มเข้าวงการเต็มตัวก็ไม่ได้เจอต่ายแล้ว ตอนนั้นก็ไม่รู้จะไปติดต่อเขาทางไหน ยังคิดอยู่เลยว่าน่าจะสุขสบายดี เลยไม่ได้ไปตามเบอร์หรือถามใครว่าต่ายเป็นยังไงบ้าง”

มารู้ว่าเพื่อนตกระกำลำบากเมื่อไหร่?
“ก่อนหน้านี้ที่มีข่าวว่าโดนจับ เพราะไปขโมยของอะไรเนี่ยอะค่ะ ตอนนั้นก็ตกใจว่าเฮ้ย! นั่นมันเพื่อนเรานี่หว่า แต่ยังไม่ทันได้ติดต่อสอบถามอะไรข่าวนั้นมันก็มาแป๊บนึงแล้วหายไป แต่รอบนี้เหมือนจะหนักกว่ารอบที่แล้ว เนื่องจากสภาพเพื่อนของเราก็แย่กว่าเดิมด้วย ถึงขนาดไปนั่งขอทานเลย ยอมรับว่าช็อกมาก ไม่คิดว่าเพื่อนที่เราเคยแคสต์งานมาพร้อมๆ กันจะมาเป็นแบบนี้ ตอนนี้ห่วงเรื่องอาการป่วยของเพื่อนที่สุดค่ะ”

ถ้ามีโอกาสอยากไปเจอเพื่อนไหม?
“อยากมากค่ะ แต่ไม่รู้จะติดต่อยังไง เท่าที่ติดตามอ่านข่าวเหมือนเพื่อนเราบอกว่าเลือกเส้นทางผิด โมว่ามันก็ส่วนหนึ่ง แต่อีกส่วนหนึ่งก็มีความรู้สึกว่าสังคมทำให้เพื่อนเราเป็นแบบนี้หรือเปล่า เหมือนเพื่อนเราจะกลับคืนสู่สังคมยากกว่าคนอื่นหรือเปล่า เลยบีบให้เขาไปมีชีวิตแบบนี้ เพราะเชื่อว่าลึกๆ แล้วคนทุกคนไม่ได้อยากเป็นแบบนี้หรอก สำหรับโมไม่อายเลยที่จะบอกว่าคนนี้คือเพื่อนเรา อยากช่วยเหลือมากกว่า อยากเปิดบัญชีให้ อยากพาไปหาหมอค่ะ”

อยากให้เพื่อนกลับสู่วงการบันเทิงไหม?
“เอาจริงๆ นะคะ ไม่อยากเลยค่ะ เนื่องจากสภาพเพื่อนเราไม่พร้อม ต่อให้ได้รับการรักษาหรือเยียวยาแล้ว ถ้าได้เข้ามาวงการก็จะถูกบีบบังคับให้ไปเป็นแบบเดิมอีก เพราะคนที่ถูกตัดสินว่าเป็นบ้าไปแล้วคงกลับมาได้ยากมาก แล้วด้วยยุคสมัยนี้การอยู่ในวงการมันยากและน่ากลัว ดราม่าอะไรกันง่ายมาก ถ้าตั้งรับไม่ได้ก็ไปกันใหญ่ อีกอย่างก็ไม่รู้ว่าสภาพจิตใจข้างในของเขามันอ่อนไหวขนาดไหน ที่สำคัญคือต้องให้โอกาสและกำลังใจกันมากๆ ค่ะ”