SCG ลดเหลื่อมล้ำ ชูการตลาดรอดจน ด้วยชุมชนที่แข็งแกร่งอุดรธานี

SCG ลดเหลื่อมล้ำ ชูการตลาดรอดจน ด้วยชุมชนที่แข็งแกร่งอุดรธานี

เอสซีจี เดินหน้าลดเหลื่อมล้ำ สร้างโอกาสส่งต่อความรู้คู่คุณธรรม ผ่าน “โครงการพลังชุมชน” มุ่งให้ชุมชนเปลี่ยนวิธีคิด เพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เสริมแกร่งการตลาด
เสิร์ฟสินค้าหลากหลายมัดใจลูกค้าเป็นการตลาดรอดจน หนุน 140 ชุมชนสร้างเครือข่ายเข้มแข็ง ร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น เลิกจนยั่งยืน 

นางวีนัส อัศวสิทธิถาวร ผู้อำนวยการ สำนักงาน Enterprise Brand Management เอสซีจี กล่าวว่า เอสซีจี มุ่งแก้จน ลดความเหลื่อมล้ำสังคม ผ่านโครงการพลังชุมชน อบรมเสริมความรู้สร้างอาชีพยั่งยืน
น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต เน้นพึ่งพาตนเอง ส่งเสริมชุมชนให้เห็นคุณค่า และพัฒนาศักยภาพตนเอง แปรรูปเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เข้าใจลูกค้าและตลาดก่อนผลิตและจำหน่าย 

นางวีนัส อัศวสิทธิถาวร ผู้อำนวยการ สำนักงาน Enterprise Brand Management เอสซีจี

บริหารจัดการความเสี่ยง สร้างภูมิคุ้มกัน ปัจจุบัน พลิกชีวิต 140 ชุมชน กว่า 10,000 คน ใน 14 จังหวัด ปลดหนี้ มีรายได้เพิ่ม อาชีพมั่นคง ทั้งต่อยอดความรู้จนสามารถพัฒนาเป็นการตลาดรอดจนซึ่งมีรูปแบบเฉพาะตัว พร้อมแบ่งปันความรู้ขยายเครือข่ายชุมชนเข้มแข็ง และเป็นต้นแบบส่งต่อแรงบันดาลใจให้ชุมชนอื่นๆ ต่อไป 

นายยศวัจน์ ผาติพนมรัตน์ หรือ พี่เก๋ ประธานกลุ่มวิสาหกิจวังธรรมผลิตและแปรรูปปลาครบวงจร อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี (ปลาส้มวังธรรม)

นายยศวัจน์ ผาติพนมรัตน์ หรือ พี่เก๋ ประธานกลุ่มวิสาหกิจวังธรรมผลิตและแปรรูปปลาครบวงจร อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี (ปลาส้มวังธรรม) กล่าวว่า “โครงการพลังชุมชนสอนให้มีความรู้ ทำการตลาดครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ (ผลิต) – กลางน้ำ (แปรรูป) – ปลายน้ำ (จัดจำหน่าย) ซึ่งช่วยลดต้นทุน มีแหล่งวัตถุดิบแปรรูปผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นให้มีมูลค่าเพิ่ม และควบคุมสินค้าให้มีคุณภาพสูง กลายเป็น หลักการตลาดรอดจน ประกอบด้วย 

1. ทำสิ่งที่ถนัด นำความชอบและความเชี่ยวชาญการทำอาหาร มาแปรรูปปลาส้มเพื่อเพิ่มมูลค่า 2. มัดใจลูกค้า คิดค้นปลาส้มหลากหลายสูตร เช่น สูตรโบราณ สูตรดั้งเดิม สูตรพริกไทยดำ สูตรอูมามิ (ไร้น้ำตาล) และนักเก็ตปลาส้ม เพื่อเสิร์ฟของอร่อยให้ลูกค้าจนกลายเป็นขาประจำ 3. เน้นตลาดออฟไลน์ จำหน่ายสินค้าในตลาดรอบชุมชนรัศมี 45 กิโลเมตร จึงรู้จักลูกค้าเป็นอย่างดี นำพฤติกรรมการบริโภคมาปรับปรุงคุณภาพปลาส้มให้ดีขึ้น  

ขณะเดียวกัน ส่งเสริมให้ชุมชนเลี้ยงปลาเพื่อนำมาแปรรูปเป็นปลาส้ม สร้างรายได้ให้ชุมชนเฉลี่ย 200,000-300,000 บาทต่อเดือน นอกจากนี้ ยังถ่ายทอดความรู้ด้านการเพิ่มมูลค่าสินค้าท้องถิ่นให้แก่นักเรียนโรงเรียนน้ำโสมวิทยาคม นำไปทำเป็นโครงงานวิชาการเข้าประกวด และได้รับรางวัลชนะเลิศระดับประเทศ”

นางเขียว จอดนอก หรือ พี่บัว ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรน้ำหมักเอนไซม์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ บ้านหนองเป็ด อ.เมือง จ.อุดรธานี กล่าวว่า จากความรู้ ความเชี่ยวชาญด้านสมุนไพรพื้นบ้านที่มี จึงได้นำมาแปรรูปเป็นน้ำหมักเอนไซม์สมุนไพร ใช้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย และตอบเทรนด์ลูกค้าที่รักสุขภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ความงาม สุขภาพ ทำความสะอาด ปรับอากาศ และปศุสัตว์ ทั้งนี้ โครงการพลังชุมชนได้สอนให้นำความต้องการของลูกค้ามาช่วยพัฒนาผลิตภัณฑ์ก่อนผลิตและจำหน่าย ปัจจุบันได้ก่อตั้งเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรน้ำหมักเอนไซม์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ บ้านหนองเป็ด เป็นแหล่งรวมความรู้ และถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่นด้านสมุนไพร พืชผักผลไม้พื้นบ้าน เพื่อชุมชนนำไปสร้างอาชีพ ทำเป็นสินค้าท้องถิ่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม”

นางเขียว จอดนอก หรือ พี่บัว ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเกษตรกรน้ำหมักเอนไซม์สมุนไพรเพื่อสุขภาพ บ้านหนองเป็ด อ.เมือง จ.อุดรธานี

เอสซีจี เชื่อมั่นว่า หากชุมชนลุกขึ้นมาพึ่งพาตนเอง ใช้ความรู้คู่คุณธรรม ด้วยการปรับเปลี่ยนวิธีคิด ทำสิ่งที่ตนเองเชี่ยวชาญ สร้างสรรค์สินค้าจากผลิตภัณฑ์ใกล้ตัวที่หาได้ในท้องถิ่นให้ตรงใจลูกค้า ตามความต้องการของตลาด ช่วยสร้างอาชีพ รายได้เพิ่ม ขับเคลื่อนเศรษฐกิจท้องถิ่น นำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจน และลดเหลื่อมล้ำในสังคม” นางวีนัส กล่าวสรุป