เคยนิคะ ‘จับกะปิออกจากกระปุก’ สู่นวัตกรรมครั้งแรกในตลาดซอสปรุงรส

เคยนิคะ ‘จับกะปิออกจากกระปุก’ สู่นวัตกรรมครั้งแรกในตลาดซอสปรุงรส
เคยนิคะ ‘จับกะปิออกจากกระปุก’ สู่นวัตกรรมครั้งแรกในตลาดซอสปรุงรส

จากแนวคิด “เอากะปิออกจากกระปุก” ของ คุณสุขศิริ ฤทธิเดช เจ้าของผลิตภัณฑ์ซอสกะปิสำเร็จรูป ภายใต้แบรนด์ ‘เคยนิคะ’ ที่ต่อยอดภูมิปัญญาการทำกะปิแบบดั้งเดิมด้วยนวัตกรรม สู่ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากความต้องการที่จะแก้ปัญหาผู้บริโภคยุคใหม่ให้เข้าถึงง่ายกับกะปิในการทำอาหารมากขึ้น โดยใช้การลองผิดลองถูก และทดลองสูตรด้วยตัวเอง จนสามารถแปลงร่างกะปิมาเป็นซอส ซึ่งใช้งานได้หลากหลาย เพิ่มมูลค่าให้กับกะปิใต้ดั้งเดิม พร้อมตอบโจทย์การทำอาหารที่ง่าย หลากหลาย สะดวกสบาย ใครก็ทำได้ ไม่ว่าจะเมนูไหนก็อร่อยด้วยขวดเดียว

ไม่พลาดทุกข้อมูล ข่าวสารที่น่าสนใจ อย่าลืมกดไลก์ Facebook bangkokbanksme 

สร้างสตอรี่ให้สะดุดตาผู้บริโภค

คุณสุขศิริ เล่าถึงจุดเริ่มต้นที่มาทำซอสกะปิ ‘เคยนิคะ’ มาจากธุรกิจที่เริ่มต้นจากคุณแม่กับคุณยายที่มีสูตรกะปิขัดน้ำกรรมวิธีแบบโบราณ ซึ่งเป็นสูตรตกทอดจากเพื่อนสนิทของคุณแม่ โดยพัฒนาปรับเปลี่ยนลองผิดลองถูกมาเรื่อยๆ ตั้งแต่ใส่กะละมังตักขาย จนพัฒนาใส่กระปุกภายใต้ชื่อแบรนด์ ‘กะปิแม่ยินดี’ จนต่อยอดมีโรงงานเป็นของตนเองในที่สุด

ซึ่งเธอถือว่าเป็นทายาทรุ่นที่ 3 ที่เข้ามาสานต่อธุรกิจครอบครัว แม้กะปิแม่ยินดีจะอร่อยไม่แพ้ใคร แต่เมื่อการแข่งขันที่เพิ่มขึ้น บวกกับยุคสมัยที่เปลี่ยนไป ทำให้เด็กนอกในวัย 27 ปี ที่ไปเรียนและทำงานอยู่ประเทศอังกฤษประมาณ 7 ปี หวนกลับบ้านเกิดที่จังหวัดพัทลุง เพื่อต่อยอดธุรกิจผลิตกะปิของครอบครัวที่ทำมาหลายสิบปี สู่นวัตกรรมซอสกะปิและน้ำปลาหวาน ในชื่อแบรนด์ ‘เคยนิคะ’ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกะปิดั้งเดิมที่มีอยู่ ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างตลาดใหม่จากรากเหง้าสู่โกลบอลได้อย่างดี

ยุคสมัยเปลี่ยน แต่สิ่งที่ไม่อยากให้หายไปคือรากเหง้าของเรา อย่างน้อยๆ แม่ยินดีก็ไม่หายไปไหน เพราะแม่ยินดีอยู่ในซอสกะปิเคยนิคะ

ต่อยอดภูมิปัญญา สู่นวัตกรรมครั้งแรกในตลาดซอสปรุงรส

ถือได้ว่าเป็นนวัตกรรมครั้งแรกในตลาดซอสปรุงรสที่ทำมาจากกะปิ โดยการต่อยอดจากภูมิปัญญาแบบดั้งเดิม ด้วยการนำกะปิซึ่งเป็นอัตลักษณ์ของคนใต้ มาผ่านกระบวนการการย่อยสลายโดยเอนไซม์ ย่อยโปรตีนและไขมันจากกุ้งเคย ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางเคมี และจุลินทรีย์ในกระบวนการหมักโดยเน้นนวัตกรรมธรรมชาติ ช่วยทำให้เกิดกลิ่นหอมและรสชาติกลมกล่อมคงเอกลักษณ์การเป็นกะปิไว้

จึงกลายเป็นซอสที่สามารถทำอาหารได้หลากหลายเมนู ทั้งผัด หมัก ตำ ยำ แกง และน้ำพริก ไม่ว่าจะทำเมนูไหนก็อร่อย

ไม่เพียงเท่านี้ คัดสรรเคยจากแหล่งคุณภาพ ผลิตจากโรงงานที่ได้มาตรฐาน ผ่านการพาสเจอไรซ์ทุกขวด เก็บได้นาน 1 ปี ไร้สารเติมแต่ง ซึ่งจะทำให้เป็นโอกาสขยายช่องทางการตลาดได้ไกลอีกด้วย

นวัตกรรมของเราคงเป็นกระบวนการที่ทำมาจากซอส เราจับกะปิออกจากกระปุก โดยมีกรรมวิธีพิเศษที่ผ่านนวัตกรรมอย่างได้มาตรฐาน และยังได้ร่วมพัฒนากับนักวิจัยและมหาวิทยาลัยต่างๆ อีกด้วย

นอกจากนี้ เคยนิคะ ยังสร้างโรงงานที่มีมาตรฐาน พร้อมทั้งมีเครื่องจักรที่สามารถผลิตสินค้าได้ 100,000 ขวดต่อเดือน

สร้างไอเดียเจาะกลุ่มคนยุคใหม่

ซอสกะปิ ถือว่าเป็นไอเดียตอบโจทย์วิถีชีวิตคนรุ่นใหม่มากขึ้น โดยจะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาการใช้งานกะปิในรูปแบบเก่าที่ใช้งานยุ่งยาก ต้องมีขั้นตอนการเตรียมและการชั่งตวงที่ยุ่งยากไม่เหมาะกับในยุคสมัยปัจจุบัน

คุณสุขศิริ เล่าว่า จากการลงพื้นที่ทำการสำรวจทั้งแบบออฟไลน์และออนไลน์โดยการออกบู๊ธต่างๆ ทำให้รู้ว่าเด็กยุคใหม่ไม่ค่อยกินกะปิ ซึ่งสาเหตุมาจากกะปิมีกลิ่นเหม็น และบางทีต้องตักออกมาตวงก่อนถึงจะประกอบอาหารได้ จึงทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าเกิดความยุ่งยาก

จนทำให้ ‘เคยนิคะ’ พัฒนาสินค้าที่ตอบโจทย์คนยุคใหม่มากขึ้น พร้อมเจาะกลุ่มคนไลฟ์สไตล์เร่งรีบ ช่วยให้การทำอาหารเป็นเรื่องที่ง่าย จบความอร่อยด้วยขวดเดียว โดยมีเป้าหมายเจาะกลุ่มคนวัย 22-45 ปี เนื่องจากเป็นช่วงวัยทำงานและมีเงินตัดสินใจซื้อสินค้าซอสกะปิในราคาเพียง 79 บาท

โดยก่อนจะมาเป็นซอสกะปิก็มีการลองผิดลองถูก พัฒนามาทั้งกะปิแบบผง แบบก้อน แต่ก็ยังไม่ตอบโจทย์ลูกค้า แต่พอมาเป็นซอสทำให้ผู้บริโภคจับต้องได้ง่าย สะดวกสบายมากขึ้น

เราเป็นสินค้าใหม่ รวมถึงแพ็กเกจจิ้งที่เราคิดก็น่าจะสะดุดตาผู้บริโภค พยายามแต่งตัวสินค้าให้สวยให้ลูกค้าหันมามองจนซื้อไปลอง รับรองว่าติดใจ คุ้มค่า อีกอย่างเราเป็นซอสกะปิแท้ดั้งเดิมที่ไม่มีกลิ่นเหม็น

กระจายความอร่อยสู่ตลาดโลก

แม้เป้าหมายหลักคือคนไทยและชาวเอเชียที่นิยมบริโภคกะปิ แต่ในอนาคตก็มีความตั้งใจที่จะขับเคลื่อน ‘เคยนิคะ’ ให้กระจายความอร่อยไปในตลาดโลก

เป้าหมายคือคนไทยและชาวเอเชียที่นิยมบริโภคกะปิ เช่น จีน อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย ต่างก็ใช้กะปิ ทุกที่ในภูมิภาคของเรารู้จักกะปิกันทั้งนั้น แต่เขายังไม่มีนวัตกรรมซอสกะปิแบบเรา นับว่าเป็นโอกาสที่ดีในการไปเจาะกลุ่มตลาด

นอกจากนี้ คุณสุขศิริ ยังมองโอกาสซอสกะปิ ‘เคยนิคะ’ ยังมีพื้นที่ให้ขับเคลื่อนไปได้อีกเยอะมาก กับตลาดซอสปรุงรสหลายหมื่นล้าน พร้อมเจาะกลุ่มตลาดออนไลน์ด้วยเหล่าคนดังสร้างการรับรู้ให้ผู้บริโภคยุคใหม่เพิ่มขึ้น

เราคือซอสกะปิเจ้าแรกของประเทศไทย คู่แข่งของเราคือกะปิ แต่เราไม่ได้ไปแข่งกับกะปิ เพราะว่าเราอยากให้คนทานกะปิมากขึ้น บวกกับตลาดเครื่องปรุงมันอยู่ 2 หมื่นกว่าล้าน ซึ่งมองความเป็นไปได้ค่อนข้างคุ้มค่ากับการลงทุน

และจากการเข้าร่วมโครงการ สุดยอดธุรกิจนวัตกรรมประเทศไทยประจำปี 2564 รอบภูมิภาค (Thailand INNO BIZ Champion 2021 Regional Round) หรือ นิลมังกรแคมเปญ ซึ่งห้างหุ้นส่วนจำกัด เคยนิคะ ได้รับรางวัลชนะเลิศจากภาคใต้ คุณสุขศิริ เชื่อว่า จะสามารถผลักดันให้ซอสกะปิ ‘เคยนิคะ’ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

สำหรับช่องทางการจำหน่าย ปัจจุบัน ซอสกะปิเคยนิคะ ขนาด 290 กรัม ราคาขวดละ 79 บาท มีจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ และช่องทางโมเดิร์นเทรดอย่างโฮมเฟรชมาร์ท ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ และวิลล่า มาร์เก็ต

ส่วนด้านยอดขายการเติบโตมีอัตรายอดขายที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ มีตัวแทนที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นสินค้าใหม่ ทำให้คนอยากรู้อยากลอง แม้จะมียอดขายที่เพิ่มขึ้นเรื่อย แต่กลับไม่โตในภาวะที่เราวางไว้เท่าที่ควรเนื่องจากปัญหาโควิด-19

จากการพัฒนาซอสกะปิจากการนำอาหารใต้สู่อาหารโลก โดยใช้นวัตกรรมผสมผสานรากเหง้าของอาหารท้องถิ่นมาเป็นจุดขาย ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์ให้กับวงการซอสปรุงรสที่มีพื้นที่ทางการตลาดหลายหมื่นล้าน สู่การเป็นผู้ส่งออกได้สำเร็จ

รู้จัก ‘เคยนิคะ’ ได้เพิ่มเติมที่ https://www.facebook.com/KAPI.KHOEINIKHA/