รับเทรนด์โสดโปรดเสิร์ฟ ร้านอาหารเจาะกลุ่ม “ฉายเดี่ยว”

        หลายๆ คนแอบเขินเวลาจะเดินเข้าร้านอาหารคนเดียว ทั้งๆ ที่อยากกินเมนูโปรดใจจะขาด แต่ก็ไม่กล้านั่งกินตามลำพัง เพราะกลัวคนอื่นจะมองด้วยสายตาแปลกๆ คล้ายเป็นพวกไม่มีใครคบ

        การกินอาหารแบบฉายเดี่ยวที่พอรับได้ก็เลยมีแค่สั่งดีลิเวอรี่มากินที่บ้าน หรืออุดหนุนบริการไดร์ฟทรูเพื่อแก้หิวระหว่างขับรถ

        แต่ตอนนี้ การกินอาหารในร้านคนเดียวไม่ใช่เรื่องต้องหลบซ่อนอีกต่อไป เพราะจำนวนคนที่ใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยกตัวอย่าง คนอเมริกันวัยผู้ใหญ่ ทุกๆ 1 ใน 7 คน ก็เคยชินกับการอยู่โดดเดี่ยว ส่งผลให้ความรู้สึกเขินอายที่จะนั่งกินข้าวคนเดียว ค่อยๆ หายไปจากสังคม

        แอรอน อัลเลน ที่ปรึกษาธุรกิจร้านอาหาร บอกกับบีบีซี ว่า สังคมที่เปลี่ยนไป ทำให้ผู้คนคุ้นเคยกับการกินอาหารในร้านตามลำพังมากขึ้น ซึ่งนี่ก็เป็นโอกาสสำหรับร้านอาหารที่เข้าใจเทรนด์ที่กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก และหันมาเอาอกเอาใจคนกลุ่มนี้ ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบที่นั่งในลักษณะบาร์เพื่อรองรับลูกค้ากลุ่มฉายเดี่ยว แทนที่จะมีเฉพาะโต๊ะอาหารสำหรับแขก 2-4 คน รวมถึงการกำชับให้พนักงานเอาใจใส่ลูกค้าที่มาคนเดียวมากขึ้นกว่าเดิม

        สตีเฟน เบคตา เจ้าของร้านอาหาร 3 แห่ง ในกรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา มองว่า ร้านอาหารที่ดีควรจะให้ความสำคัญกับลูกค้ากลุ่มฉายเดี่ยว ซึ่งเป็นแขกคนพิเศษที่ไม่อาจมองข้าม

        

        ดังนั้น ร้านอาหารทั้ง 3 แห่งของเขา ได้แก่ เบคตา เพลย์ และจีเซลลิก จึงวางตัวเป็นแม่เหล็กเรียกแขกกลุ่มฉายเดี่ยว โดยไม่ใช่แค่การตกแต่งที่นั่งแบบบาร์ที่เอื้อให้แขกที่มาตามลำพังเท่านั้น ทางร้านยังมีเมนูอาหารไซซ์เล็กที่เหมาะกับการกินคนเดียวให้ลูกค้าลิ้มลองมากถึง 8 เมนู เพราะลูกค้ากลุ่มนี้ไม่ได้มาฉลองกับเพื่อนหรือเดตกับแฟน ก็ไม่จำเป็นต้องปรุงอาหารจานใหญ่สำหรับกินหลายคน

        ที่มากกว่านั้น พนักงานของร้านก็พร้อมที่จะตอบสนองความต้องการของลูกค้ามาเดี่ยว ไม่ว่าจะอยากได้เพื่อนคุยแก้เหงา หรืออยากอยู่เงียบๆ คนเดียว เพื่อให้ลูกค้าอิ่มอร่อยและมีความสุขกับการมากินข้าวในร้าน

        อีกเรื่องที่ทางร้านไม่ละเลย คือ ลูกค้าที่ต้องเผชิญกับเหตุไม่คาดฝัน โทรมาจองโต๊ะล่วงหน้าสำหรับมื้อกลางวันกับคนพิเศษ แต่กลับต้องผิดแผนนั่งกินข้าวคนเดียว ทางร้านก็จะปลอบใจด้วยการให้กินฟรีในมื้อนั้น ซึ่งก็ต้องอาศัยความเชื่อใจว่าลูกค้าจะไม่ใช้มุกตลกบริโภค ขณะเดียวกัน ก็ไม่โปรโมตเรื่องนี้ให้เอิกเกริก

        น่าสังเกตว่า เหตุผลที่มีส่วนผลักให้ผู้คนหันมากินข้าวตามลำพังในร้านอาหารมากขึ้นคือ อัตราการหย่าร้างที่เพิ่มขึ้น และการที่ผู้คนระมัดระวังกับการแต่งงาน กว่าจะตัดสินใจใช้ชีวิตคู่ ก็คิดแล้วคิดอีกจนอายุล่วงเลย

        

        ปัจจัยเหล่านี้ทำให้มีคนโสดพร้อมเสิร์ฟจำนวนมาก ซึ่งคนกลุ่มนี้ก็มีฐานะมั่นคง พร้อมจะควักกระเป๋าใช้จ่ายสำหรับอาหารและความเป็นอยู่ที่ดี

        ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแรงงานของอังกฤษ พบว่า บรรดาคนโสดมีอำนาจซื้อมหาศาล โดยในแต่ละปีคนโสดชาวอเมริกันใช้จ่ายมากถึง 1.9 ล้านล้านดอลลาร์ ส่วนในลอนดอน คนที่อยู่คนเดียวมีสัดส่วนเกือบๆ 1 ใน 3 

        ของครัวเรือนทั้งหมด ขณะที่ในนิวยอร์กและปารีส มีสัดส่วนคนที่อยู่ตามลำพังมากกว่าครึ่ง

        หมายความว่า แม้หลายๆ คนจะเดินเข้าร้านอาหารกับเพื่อนและคนในครอบครัว แต่มีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่สั่งจองโต๊ะสำหรับคนเดียว และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น

        เมื่อผู้บริโภคจำนวนมากเต็มใจที่จะเดินเข้าร้านอาหารแบบฉายเดี่ยว ร้านอาหาร Eenmaal ในกรุงอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ ก็เลยผุดไอเดียจัดโต๊ะเก้าอี้สำหรับ 1 ที่เท่านั้น ตอบโจทย์ลูกค้าที่มาคนเดียว กินคนเดียว ต้องการความสันโดษ ให้เวลากับตัวเอง ซึ่งถือเป็นร้านอาหารแห่งแรกในโลกที่มีคอนเซ็ปต์แบบนี้

        ที่สำคัญ ร้านนี้ได้รับการตอบรับอย่างดี มีลูกค้าจองโต๊ะเต็มหมดทุกๆ วัน นับตั้งแต่เปิดมาได้ 1 ปี และภายในปีนี้เตรียมผุดสาขาในเมืองอื่นๆ เช่น ลอนดอน เบอร์ลิน นิวยอร์ก

        มารินา ฟาน กอร์ เจ้าของไอเดียร้าน Eenmaal เล่าย้อนว่า แนวคิดนี้เกิดขึ้นเพราะไม่มีพื้นที่สาธารณะสำหรับผู้ที่ต้องการอยู่คนเดียวบ้าง ท่ามกลางสังคมทุกวันนี้ที่เสพติดการติดต่อสื่อสารมาก

        

        ขณะที่ร้านท็อป ออฟ เดอะ มาร์เก็ต ในซานดิเอโก ก็เป็นอีก 1 แห่งที่เริ่มหันมาเอาใจลูกค้ากลุ่มฉายเดี่ยวมาตั้งแต่ปีที่แล้ว โดยเน้นความใกล้ชิดระหว่างคนทำและคนกินอาหาร

        อิวาน ฟลาวเวอร์ เชฟประจำร้าน บอกว่า ร้านอาหารหลายแห่งมีที่นั่งแบบบาร์อยู่หน้าห้องครัวแบบเปิด รวมถึงที่ร้านท็อป ออฟ เดอะ มาร์เก็ต ด้วย แต่กลับไม่มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างลูกค้าและพ่อครัวเท่าที่ควร ทำให้ดีไซน์ร้านแบบนี้ไม่เกิดประโยชน์อะไร

         ทางร้านจึงปรับเปลี่ยนให้มีกิจกรรมตอบโต้ระหว่างเชฟและลูกค้ามากขึ้น เหมือนได้ดูรายการโชว์แบบใกล้ชิดติดขอบจอ ทั้งการปรุงอาหาร ให้ชิม และพูดคุยกับเชฟ

        หากลูกค้าสนใจ เชฟก็จะถามไถ่ว่าต้องการทดลองทำเมนูที่กำลังปรุงอยู่หรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วลูกค้าที่มาคนเดียวมักจะสนใจดูการทำอาหารของเชฟที่น่าทึ่ง ทั้งในแง่เทคนิคและความเร็วขั้นเทพ เมื่อเชฟปรุงอาหารเสร็จ พวกเขาก็จะถามวิธีการสำหรับนำไปทดลองทำที่บ้าน รวมถึงเทคนิคต่างๆ เช่น ระวังไม่ให้ไฟแรงจนอาหารไหม้ หลังจากนั้น เชฟก็จะขออีเมลของลูกค้าเพื่อจัดส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้ในภายหลัง

        กิจกรรมนี้ทำให้ลูกค้าลืมว่าตัวเองมาคนเดียว และจดจำมื้อพิเศษนี้ได้มากกว่าแค่มากินอาหารเพียงอย่างเดียว