รู้ยัง…เกียวโตมี “แท็กซี่เงียบ” เอาใจผู้โดยสารไม่ชอบฟังโชเฟอร์ช่างจ้อ

แท็กซี่ นับเป็นการเดินทางที่สะดวกสบายอย่างหนึ่งของคนไม่ชอบขับรถ คนไม่มีรถขับ และคนที่เบื่อกับการขับวนหาที่จอดรถ ยิ่งเวลาต้องเดินทางไปในย่านธุรกิจซึ่งหาที่จอดรถยาก หรือหากมี ก็เป็นที่จอดรถที่มีการเก็บค่าจอดรถแพงมหาโหด

แต่ปัญหาอย่างหนึ่งเวลาใช้บริการรถแท็กซี่ก็คือ บางครั้งนั่งแล้วรู้สึกทรมานยิ่งกว่าขับรถเอง หากไปเจอโชเฟอร์แท็กซี่ช่างจ้อ ที่พูดไม่หยุด หรือชอบชวนผู้โดยสารคุยไปตลอดทางตั้งแต่ขึ้นรถ ยันลงรถ แถมยังคุยในเรื่องที่ผู้โดยสารไม่สนใจ ไม่ได้อยากจะรู้ หรืออยากจะฟังเลยสักนิด ซึ่งจุดนี้เอง ที่ทำให้บริษัทผู้ให้บริการรถแท็กซี่ชื่อว่า “มิยาโกะ” ในเมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ได้จับมาเป็น “จุดขาย” ทดลองนำมาแตกไลน์เป็นบริการใหม่เรียกว่า “ไซเลนซ์ แท็กซี่” หรือ “แท็กซี่เงียบ” ที่โชเฟอร์จะพูดกับผู้โดยสารเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และจะปล่อยให้ผู้โดยสารได้นั่งเงียบๆ ไปตลอดทางตามความต้องการ

ใครจะคิดล่ะว่า เรื่องเล็กๆ แบบนี้ จะมีผู้ให้บริการแท็กซี่ใส่ใจ และหยิบมาหาเงินกับลูกค้าอีกกลุ่มได้ ซึ่งเราเชื่อว่า น่าจะมีผู้โดยสารประเภทนี้อยู่ไม่น้อยเชียวล่ะ

จากรายงานข่าวเล่าว่า บริษัทมิยาโกะ ซึ่งมีรถแท็กซี่ในสังกัดวิ่งให้บริการอยู่ในเมืองเกียวโตราว 350 คัน ได้แบ่งรถแท็กซี่จำนวนหนึ่งมาทำเป็น “แท็กซี่เงียบ” ทดลองวิ่งรับส่งผู้โดยสารในเมืองเกียวโต ตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เพื่อจะดูกระแสตอบรับว่าดีมั้ย เพื่อจะได้นำไปเป็นข้อมูลในการตัดสินใจต่อไปว่า ควรจะเพิ่มจำนวนรถแท็กซี่แบบนี้หรือไม่?

“นี่เป็นบริการที่อยู่ในช่วงทดลอง ด้วยเป้าหมายที่เราต้องการสร้างบรรยากาศภายในรถแท็กซี่ให้ผู้โดยสารรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุดตลอดเส้นทาง โดยปราศจากเสียงพูดคุยของโชเฟอร์” บริษัทมิยาโกะ กล่าวในแถลงการณ์

แล้วผู้โดยสารจะรู้ได้อย่างไรว่า รถแท็กซี่คันไหนเป็นแท็กซี่เงียบ?

จากข้อมูลที่ปรากฏในรายงานข่าวของเว็บไซต์ rocketnews24.com เล่าว่า แท็กซี่เงียบ จะเหมือนกับแท็กซี่ทั่วไปทุกอย่าง เพียงแต่จะมีป้ายข้อความแปะติดไว้ตรงบริเวณที่พิงศีรษะด้านหลังเบาะผู้โดยสารข้างเบาะที่นั่งคนขับว่า นี่เป็นแท็กซี่เงียบ

ทั้งนี้ภายใต้กฎกติกาโชเฟอร์แท็กซี่เงียบ จะพูดกับผู้โดยสารแค่กล่าวทักทาย สวัสดี จากนั้นก็จะพูดกับผู้โดยสารถึงเรื่องจุดหมายปลายทางที่ต้องการให้ไปส่งแค่นั้น ต่อจากนั้นก็จะปล่อยให้ผู้โดยสารได้นั่งเงียบๆ ไปจนถึงจุดหมายปลายทาง ยกเว้นแต่หากเกิดเหตุฉุกเฉิน หรือเหตุจำเป็นเร่งด่วนที่ต้องแจ้งให้ผู้โดยสารรู้ โชเฟอร์จึงจะบอกผู้โดยสาร

ส่วนผู้โดยสาร หากนึกอยากจะพูดอะไรกับโชเฟอร์ หรืออยากชวนโชเฟอร์คุย ก็สามารถทำได้ตลอดเวลา เพราะไม่มีกฎห้าม

ทั้งนี้ บริษัทมิยาโกะ บอกว่า อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ตัดสินใจทดลองนำบริการรถแท็กซี่เงียบมาวิ่งให้บริการดูก็เพราะคิดว่าสำหรับคนท้องถิ่น ที่อาศัยอยู่ในเมืองเกียวโต ที่รู้จักสถานที่ต่างๆ ในเมืองเกียวโตดีอยู่แล้ว คงไม่ต้องการให้ใครมาบรรยายประวัติความเป็นมาของสถานที่ต่างๆ ให้ฟัง แต่น่าจะอยากนั่งฟังเพลง นั่งทอดอารมณ์ หรือหลับตางีบผ่อนคลายระหว่างนั่งรถแท็กซี่มากกว่า