ผู้เขียน | หนังสืออาหารอร่อย ร้าน 100 ปี ,กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม |
---|---|
เผยแพร่ |
ช่วงนี้หันไปทางไหนก็มักเจอกับเทศกาลอาหารที่ขนมาให้ลองลิ้มชิมรสกันแบบจุใจ.. มาถึงคราวนี้ “ประชาชาติธุรกิจออนไลน์” ขออินเทรนด์เรื่องอาหารกันบ้าง เพราะวันนี้จะพามารู้จัก 8 ร้านเด็ดรอบกรุงเทพฯ ที่มีตำนาน และอายุเกิน 100 ปี!!
ส่วนจะมีร้านไหนบ้างเรามาดูกันเลย…
หมี่กรอบจีนหลี สมัย ร.5
ร้านเก่าแก่ประจำตลาดพลู เปิดมากว่า 130 ปี เปิดขายตั้งแต่สมัย ร.5 และเป็นร้านที่สมเด็จรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดมากเรียกติดปากชื่อร้านว่า หมี่กรอบ ร.5 อยู่ท่าน้ำตลาดพลู
จากร้านหมี่กรอบเจ้าดังยุคสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ได้รับการกล่าวขานถึงมายาวนาน จนวันนี้สืบทอดกิจการมาจนถึงรุ่นที่ 4 แต่รสชาติและความอร่อยตามคำร่ำลือยังคงได้รับการกล่าวขานถึงไม่เปลี่ยนแปลง ทีเด็ดของสูตรยกนิ้วให้กับการนำเอาเส้นหมี่ขนาดเล็กมาทำหมี่กรอบ โดยที่เวลาทอดจะต้องทอดเส้นหมี่ให้กรอบโดยไม่พองตัว (ไม่เหมือนหมี่กรอบที่อื่น) นำมาผัดปรุงรส ทำให้เส้นหมี่กรอบเคลือบน้ำซอส ให้รสชาติกลมกล่อม หวานอมเปรี้ยว
ส่วนอาหารแนะนำของร้านคือ หมี่กรอบ, โรตีกล้วย, ทอดมันปลากราย, ราดหน้าหมู, ลาบปลาทู, แกงป่าไก่, โกยซีหมี่
ประจักษ์เป็ดย่าง
เก่าจัด เก่าจริง เพราะร้าน “ประจักษ์เป็ดย่าง” เปิดขายมานั้นระดับกว่า 104 ปี ขายกันมานานถึง 3 ชั่วอายุคนเลย ซึ่งเคล็ดลับที่ทำให้ขายมาได้นานขนาดนี้ ก็คงหนีไม่พ้นสูตรที่ใช้หมักเป็ดย่างเป็ดที่มัดใจลูกค้าได้อย่างยาวนาน
เริ่มกันตั้งแต่ “เป็ด” พิถีพิถันคัดเป็ดเชอร์รี่เกรดดี เอามาล้างทำความสะอาดแล้วหมักด้วยเครื่องรสที่ผสมเครื่องเทศแบบไทย ๆ ลงไปด้วย แล้วจึงเอาไปย่าง จนได้เป็ดย่างหนังสีน้ำตาลบาง ๆ กับเนื้อที่ชุ่มฉ่ำไม่แห้งเกินไป เอามากินน้ำราดที่ปรุงด้วยเต้าเจี้ยวคุณภาพดี น้ำตาลปิ๊บ เครื่องพะโล้ และเครื่องเทศแบบไทย ๆ ทำให้ได้น้ำราดที่รสชาติเข้มข้น จะสั่งเป็ดมากินกับข้าว หรือสั่งเป็นบะหมี่เกี๊ยว หรือจะสั่งมากินคู่กับเมนูอื่น ๆ ของร้านอย่าง “หมูแดง” “หมูกรอบ” “ขาหมูยัดไส้” “กุนเชียง” และ “เป็ดย่างสุญญากาศ”
ใครอยากลองไปพิสูจน์ความอร่อยของเป็ดย่างในตำนาน ก็ไปได้เลย ไม่ยาก ร้านอยู่ตรงข้ามโรบินสัน บางรัก
จูโจว เป็ดพะโล้ 100 ปี
สูตรน้ำเป็ดพะโล้ที่มีรสเค็มตามแบบฉบับจีนแต้จิ๋ว…ณัฐชัย จารุประวิทย์ อดีตวิศวกร เจ้าของร้านคนปัจจุบันเล่าว่าคุณปู่ของตน นายโจวเต๊กฮง จีนแต้จิ๋ว เดินทางมาจากประเทศจีน และได้มาเปิดร้านขายเป็ดพะโล้ครั้งแรกที่ท่าดินแดง คลองสาน เมื่อ พ.ศ. 2460 ต่อมาได้ย้ายร้านมาอยู่ที่วงเวียนใหญ่ และมาอยู่ ณ ร้านปัจจุบันที่ถนนสตรีวิทยา 2 ซอย 15 นับเป็น แห่งที่ 3
สำหรับเป็ดพะโล้ของร้านจูโจว เป็นเป็ดพะโล้สูตรจีนแต้จิ๋วแท้ ๆ…เป็นน้ำเป็ดพะโล้ที่มีรสเค็ม ผสมด้วยสูตรเฉพาะของทางร้าน คือ สมุนไพร 7-8 ชนิด และเนื่องจากน้ำเป็ดพะโล้ที่มีรสเค็ม ไม่มีน้ำตาล จึงทำให้สามารถเก็บน้ำเป็ดพะโล้ไว้ได้นานหลายสิบปี โดยทำการอุ่นทุกวัน เติมน้ำ เครื่องปรุงและสมุนไพร
ทั้งนี้ ร้านในสมัยคุณปู่สามารถเก็บน้ำเป็ดพะโล้ไว้ได้นานถึง 30 ปี คนจีนแต้จิ๋วรุ่นเก่าในย่านลาดพร้าวเมื่อได้ลิ้มลองเป็ดพะโล้ของที่ร้านแล้วบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า “ใช่” ปัจจุบันทางร้านยังคงรักษาสูตรดั้งเดิมนี้ไว้
เลี่ยว เลี่ยง เซ้ง (ไอศกรีมราชวงศ์ 555)
นับเป็นร้านไอศกรีมเจ้าแรกของเมืองไทยสำหรับ “เลี่ยว เลี่ยง เซ้ง “…ทำอาหารอย่างพิถีพิถันด้วยฝีมือทุกขั้นตอน โดยใช้เตาถ่านแบบโบราณ
ร้านนี้ก่อตั้งโดยนายกวางสูง แซ่เลี่ยว จีนแต้จิ๋ว เข้ามาอยู่เมืองไทยตั้งแต่อายุ 14 ปี โดยสมเด็จเจ้าฟ้า กรมพระยานริศรานุวัติวงศ์ ทรงออกทุนเปิดร้านให้ก่อนในตึกแถวของพระองค์ท่าน 1 คูหา ตรงสำเพ็ง ถนนราชวงศ์ เมื่อประมาณ พ.ศ. 2434-2435 เพื่อให้นายกวางสูง แซ่เลี่ยว ขายไอศกรีม จึงนับเป็นไอศกรีมเจ้าแรกของเมืองไทย
โดยเริ่มแรกขายไอศกรีมเพียงอย่างเดียว ต่อมาได้ย้ายร้านมาอยู่สามย่าน จึงได้เริ่มขายอาหาร โดยคิดทำรายการอาหารใหม่ ๆ เช่น พระกระโดดกำแพง และอาหารแต้จิ๋วอื่นๆ และได้ย้ายร้านมาอยู่ ณ สถานที่ปัจจุบันที่เยื้องศาลเจ้าเห้งเจีย เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย โดยยังคงเอกลักษณ์การทำอาหารตามแบบฉบับดั้งเดิม อย่างพิถีพิถันด้วยฝีมือทุกขั้นตอน
ยิ้ม ยิ้ม ภัตตาคาร
เดิมเป็นร้านเล็ก ๆ อยู่ในย่านเยาวราช และได้ย้ายมาอยู่งหัวมุมถนนพาดสาย เขตสัมพันธวงศ์ ซึ่งนับเป็นรุ่นที่ 4 ปัจจุบันร้านนอกจากจะขายอาหารจีนแล้ว ยังรับจัดโต๊ะแชร์ จัดเลี้ยง จัดงานแต่งงาน เป็นต้น โดยคงไว้ซึ่งรสชาติและความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารจีนแต้จิ๋วค่อนข้างครบถ้วนสมบูรณ์
ส่วนเมนูแนะนำคือ ปลาดิบแต้จิ๋ว (ฮื่อแซ), หูฉลามน้ำแดง, แห่กึ้นสดทอด, ขาห่านอบหม้อดิน, แพะเย็นเสิร์ฟคู่กับสลัดแต้จิ๋ว, หัวปลาหม้อไฟเผือก
คั้นกี่น้ำเต้าทอง
ร้านตำนาน ตำรับยาขม ยาชง ยาเม็ด เครื่องดื่มสมุนไพร ที่อยู่คู่คนไทยมานาน 116 ปี บริเวณห้าแยกหมอมี… คั้นกี่น้ำเต้าทอง รู้จักกันในนามของ ผู้ผลิตยาขมน้ำเต้าทอง ซันโฮ่วโล้วเลี่ยงเต๊ อันเป็นสูตรยาขมที่แพร่หลายในประเทศจีนตอนใต้และในประเทศไทย ยาขมน้ำเต้าทองเป็นยาจากสมุนไพรตำรับขึ้นชื่อลือนามที่ใช้รับประทาน เพื่อแก้ร้อนใน แก้ไข้ กระษัย และทำให้เจริญอาหาร
ยาขมน้ำเต้าทองได้ก่อร่างสร้างตัวมาตั้งแต่ พ.ศ. 2444 มีประวัติอันยาวนานถึง 4 ชั่วคน และได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ยาขมน้ำเต้าทอง เป็นการบรรจุยาสมุนไพร ยาขมที่โม่บดละเอียดในซองกระดาษกรอง ขายสู่ท้องตลาดทั่วประเทศ ให้ผู้ใช้ต้มเองที่บ้าน จึงนับได้ว่าเป็นการพัฒนาตำรับยาขม ยาสมุนไพรก้าวแรกและยังเป็นก้าวที่นำหน้ากว่าใครอื่น และเป็นแบบอย่างให้ผู้ผลิตสมุนไพรต่างๆ ในปัจจุบันใช้กระดาษกรุง ชนิดเดียวกันนี้ทั่วประเทศ
ขนมสายบัวแดง ร้านโกวจัน ตลาดเก่าหัวตะเข้
ขนมสายบัวแดงที่ปัจจุบันหากินค่อนข้างยาก แต่สามารถหาได้ที่ร้าน “โกวจัน” ที่มีอายุกว่า 110 ปี…เพราะด้วยกระบวนการทำค่อนข้างยุ่งยากและใช้เวลานานมาก จึงไม่ค่อยมีคนนิยมทำขนมสายบัวแดงเพื่อรับประทานหรือจำหน่าย มีเพียงร้านของโกวจัน ยังคงอนุรักษ์วิธีการทำแบบดั้งเดิม จึงยังคงรสชาติความอร่อยมาจนถึงปัจจุบัน
ร้านขนมใบไม้ ขนมเปี๊ยะพงษ์จิวานิช
ร้านในตำนานอีกหนึ่งร้านอายุ 115 ปี…”พงษ์จิวานิช” เป็นร้ายขายขนมเปี๊ยะ และขนมใบไม้ ตั้งอยู่ในซอยลาดกระบัง 17บริเวณท้ายตลาดอุดมผล จุดสังเกตคือร้านจะอยู่เชิงสะพานข้ามคลองประเวศบุรีรมย์ไปยังตลาดเก่าหัวตะเข้ เปิดมาตั้งแต่ พ.ศ. 2445
ปัจจุบันมีนายสุทิน พงษ์จิวานิช (เฮียทิน) ทายาทรุ่นที่ 3 เป็นเจ้าของร้าน ยังคงสูตรใบการทำขนมแบบดั้งเดิม เช่น ขนมเปี๊ยะที่เนื้อแป้งใช้วัตถุดิบหลักคือแป้งหมี่ น้ำตาล และน้ำมัน นำมาผสมกันด้วยสัดส่วนที่พอเหมาะ เพื่อไม่ให้แป้งแข็งหรือนิ่มเกินไป นำไปใส่ไส้ มีไส้ฟัก ถั่วเหลือง และไข่แดง ประทับตราร้านสีแดงด้านบนขนม จากนั้นทาด้วยน้ำมันและไข่แดงบนขนมและเมื่อนำไปย่างจะทำให้ขนมมีความเงาและมีกลิ่นหอมน่ารับประทาน
ขอบคุณที่มาข้อมูลและภาพ: หนังสืออาหารอร่อย ร้าน 100 ปี ,กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม