ทำเลหน้าบ้าน เปิดร้านไก่กระเทียม-ลาบหมู ห่อละ 30 บาท ขาย 3 ชั่วโมง รายได้เฉียดครึ่งหมื่น 

จากข้าวแกงกะหรี่ เมนูกู้วิกฤตของครอบครัวชาวประมงที่ลูกๆ ช่วยกันทำขายในช่วงโควิด จนชื่อเสียงของ ไต๋ไต๋ แกงกะหรี่ เป็นที่รู้จักในจังหวัดสมุทรสาคร แต่เมื่อเวลาเปลี่ยน เมนูเดิมที่เคยขายได้อาจไม่ดีเหมือนแต่ก่อน การปรับตัวจึงเป็นกลยุทธ์สำคัญที่จะนำพาธุรกิจให้อยู่รอด 

คุณเนย-ภัทราพร โพธิ์เพียรทอง เจ้าของร้านไต๋ไต๋ แกงกะหรี่ เล่าให้ฟังว่า ยอดขายของไต๋ไต๋เริ่มซบเซาลง จากเดิมขายได้วันละ 7,000 บาท จำนวนนี้ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่าย ลดเหลือ 2,500 บาท เป็นอย่างนี้อยู่ครึ่งปี ประกอบกับเป็นเมนูเฉพาะกลุ่ม มีราคาค่อนข้างสูง ทำให้อยากลองหาลูกค้าใหม่ที่ซื้อง่ายขายคล่อง เพื่อกระตุ้นยอดขายกลับมา

“ยอดขายตกกระทบหลายอย่างเลย เรือประมงก็ไม่ได้ออกแล้ว ยกเลิกกิจการไปแล้ว รายได้เลยไม่เพียงพอ ในยุคเศรษฐกิจแบบนี้ ต้องทำอะไรที่ซื้อง่ายขายคล่อง เราเริ่มกำหนดราคาก่อนที่จะคิดด้วยซ้ำว่าจะขายอะไร โจทย์คือราคา 30 บาท เป็นราคาที่หาค่อนข้างยากสำหรับร้านอาหารในจังหวัด ถ้าขายราคาสูงกว่านี้เราอาจจะไม่ได้ลูกค้า และถ้าขายราคานี้ได้ปริมาณเยอะ กำไรก็จะตามมาเอง

พอกำหนดราคาแล้ว ก็เริ่มหาวัตถุดิบที่ทำให้เราสามารถมีกำไร และตอบโจทย์ลูกค้าได้ด้วย ก็เลือกเป็นไก่ เพราะต้นทุนไม่สูงมาก ตอนนี้กิโลละ 65 บาท

อุปกรณ์ครัวก็ใช้ที่มีเพราะเปิดร้านอาหารอยู่แล้ว เลยประหยัดงบเรื่องนี้ไปได้ ส่วนทำเล ไม่ต้องไปไหนไกล ตั้งร้านคีออสหน้าบ้าน ไม่ต้องเสียค่าเช่า ด้วยทำเลที่หลายคนเตือนว่าขายไม่ได้หรอก แต่เราก็เลือกที่จะไม่เชื่อคำพูดของใครต่อใคร ขอลองทำก่อนดีกว่า” คุณเนย เล่าให้ฟังถึงการเริ่มต้น

เมื่อได้ราคาและวัตถุดิบอย่างที่ตั้งใจไว้ การนำมาปรุงเมนู คุณเนยเลือกทำไก่ทอดกระเทียมพริกสด เป็นเมนูแรกของร้าน ตามมาด้วย หมูกระเทียมพริกไทย และลาบหมู

โดยมีแนวคิดว่า “ราคาจับต้องง่าย แต่คุณภาพต้องไม่ถูกตามราคา เราต้องการให้ลูกค้าอุดหนุนกันไปยาวๆ จะทำลวกๆ ไม่ได้ ต้องทำเหมือนที่ทำกินเอง”

และว่า “การทำกระเทียมให้กรอบ ไม่ขม เป็นเรื่องท้าทายมาก ไต๋ไต๋ เคยทำเมนูของทะเลทอดกระเทียม เคยโดนคอมเพลนว่ากระเทียมขมไป เราก็เลยเอามาเป็นโจทย์ท้าทายตัวเอง ต้องทำให้ได้ กระเทียมไม่ขม กรอบ เหลือง ทอง เคล็ดลับมีตั้งแต่การควบคุมไฟ ขนาดของกระเทียม หลายปัจจัยมากกว่าจะทำขายได้ ทิ้งไปหลายกระทะอยู่

หนึ่งห่อใส่ข้าวหอมคัดพิเศษหรือข้าวเหนียว เลือกได้เลย แล้วใส่กับให้แน่นๆ บางคนซื้อไปบอกกินได้ 2 วันเลย ฟีดแบ็กวันแรก 30 ห่อขึ้นไป ขายแค่หน้าร้านอย่างเดียว ไม่ลงแอป เน้นช่วงเวลาที่ผู้คนเร่งรีบ เช่น คนทำงาน นักเรียน เขาก็จะแวะซื้อ ขายตั้งแต่ตี 5 ครึ่ง ถึง 8 โมงครึ่ง ต่อวันใช้ไก่สดประมาณ 20 กิโล หมูพริกไทย 1 กิโล และลาบหมูอีก 1 กิโล

พอมีของคาวแล้วก็มีของหวานต่อ เราทำขนมปังปิ้งขายด้วย ลูกค้ามากินคือครบจบ พกแค่แบงก์ 50 มาแค่นั้นก็อิ่มแล้ว คืนทุนตั้งแต่ 2 อาทิตย์แรก เพราะใช้ของที่มีในบ้าน ขายที่บ้าน ประหยัดงบได้เยอะ

นอกจากขายหน้าร้านแล้ว เรายังรับออร์เดอร์ล่วงหน้าด้วย ออร์เดอร์แต่ละวันเลยไม่เท่ากัน บางวันมากบางวันน้อย มีรายได้ต่อวัน จากเมนูทั้งคาวหวาน เฉลี่ยอยู่ที่ 4,000-4,800 บาท”

ในส่วนของการโปรโมตร้าน จากการที่โดนทักเรื่องทำเลว่าขายไม่ได้ เจ้าของร้านไต๋ไต๋ แก้เกมด้วยการทำคอนเทนต์ให้ลูกค้ารับรู้ เช่น การโพสต์ลงกลุ่มจังหวัดสมุทรสาคร ลงเพจของร้าน รวมถึงทำคลิปสั้นลงติ๊กต็อกด้วยมือถือเครื่องเดียว

“ลูกค้าจากไกลๆ มาอุดหนุน มารอตั้งแต่ตี 5 ให้เราเปิดร้าน ตามมาจากติ๊กต็อก ตามมาจากกลุ่มจังหวัดสมุทรสาคร”

สุดท้ายนี้ คุณเนย แนะนำว่า “อย่าหยุดคิดและอย่ากลัวที่จะลงมือทำ โลกเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เศรษฐกิจเปลี่ยนไปเรื่อยๆ เราก็ยังต้องปรับตัวไปเรื่อยๆ ไม่ว่าใครจะพูดอะไร ให้ลงมือทำก่อน จะสำเร็จ จะถึงเป้าหรือไม่ถึงเป้า อย่างน้อยก็ได้ลงมือทำ ได้เรียนรู้ ได้ประสบการณ์จากตรงนั้น และสินค้าที่ออกไปจากเราต้องมีคุณภาพ ลูกค้ารู้สึกคุ้มค่ากับเงินที่จ่าย ถึงจะขายแค่ 30 บาทก็ตาม”

ร้านไต๋ไต๋ แกงกะหรี่ เปิดขายเมนูข้าวห่อละ 30 บาท ตั้งแต่ 05.30-08.30 น. ทุกวันจันทร์ถึงวันศุกร์ ตื่นสายมีอดกิน เพราะไม่ได้เข้าร่วมแอปดีลิเวอรีไหนเลย

ติดตามได้ที่เพจ ไต๋ไต๋ แกงกะหรี่ และ TikTok kimnoey.com

ข้าวแกงกะหรี่ เมนูกู้วิกฤตครอบครัวชาวประมง สองพี่น้อง ช่วยกันทำขาย