ไอเดียต่อยอดอาชีพ! ขายยำบนรถจักรยาน กุ้ง แซลมอน หอยนางรม สดๆ หมดเร็วสุดใน 1 ชั่วโมง

แม้จะตกงานจากอาชีพนักร้องในสถานบันเทิงเมื่อ 3 ปีก่อน เพราะโควิด แต่ความไม่ท้อ ทำให้ คุณจอย-ศรัญย่า นวลวัน อายุ 34 ปี มองหาอาชีพใหม่ ด้วยการขายอาหารออนไลน์ ก่อนแจ้งเกิดด้วยเมนูกุ้งดอง จากความสำเร็จนี้ ทำให้เมื่อ 3 เดือนก่อน เธอได้ต่อยอดโปรดักต์ใหม่ คือการขายยำบนรถจักรยานคันสีแดงสะดุดตา ที่เริ่มขายมาได้เพียง 3 เดือน แต่สร้างผลตอบรับดีมากๆ

“หลังตกงาน เราเลือกขายอาหารออนไลน์ในบ้านเพราะชอบทำอาหารอยู่แล้ว ทั้ง ลูกตาลนมสด อาหารตามสั่ง ปลานึ่ง หอยแครงลวก ฯลฯ จนมาแจ้งเกิดด้วยเมนูกุ้งดอง แซลมอนดอง ที่ขยายสาขาแบบขายในบ้านไปมากกว่า 60 จุด

ซึ่งการเลือกขายอาหาร เพราะช่วงโควิดคนอยู่บ้าน ขายออนไลน์มันน่าจะตอบโจทย์ที่สุด และที่ลองทำกุ้งดองเพราะตอนนั้นผูกปิ่นโตกับออฟฟิศ เขาบอกให้ทำกุ้งดองมาให้กิน พอลองทำแล้วมันเวิร์ก ลองขายออนไลน์ ขายในกลุ่ม คนก็ซื้อซ้ำเยอะมากๆ เลยทำตรงนี้มาตลอด”

หลังจากขายกุ้งดอง แซลมอนดอง ในแบรนด์ครัวบ้านจอยมาได้ 3 ปี เมื่อถึงช่วงโควิดซา คุณจอยได้ต่อยอดโปรดักต์ใหม่ คือการขายยำบนรถจักรยาน ที่เริ่มต้นมาจากการขายยำบนรถเข็น

“เรามีของดีอยู่แล้ว คือน้ำจิ้มซีฟู้ดที่ลูกค้าติดมากๆ เลยเอามาขยายผลต่อเป็นยำกุ้งแซ่บ ตอนแรกขายบนรถเข็น เข็นไปขายตรงปากซอยลาดปลาเค้า 29 ห่างจากบ้าน 300 เมตร ลองดูว่าผลตอบรับเป็นยังไง ลูกค้าชอบไหม กลับมาซื้อซ้ำเท่าไหร่ ใช้เวลาทดลองประมาณ 1 เดือน ปรากฏว่ามันไปต่อได้ ขายได้ คนกลับมาซื้อซ้ำ แต่เพราะเมนูที่เราขายมันเหมือนคนอื่น สิ่งเดียวที่จะทำให้คนจดจำเราได้ง่ายที่สุดคือการสร้างความแตกต่าง เลยต่อยอดมาเป็นการขายยำบนรถจักรยาน”

จักรยานคันสีแดงของคุณจอย ใช้เงินลงทุนไปประมาณ 15,000-20,000 บาท จำนวนนี้เป็นเงินจากการต่อเติมเรื่อยๆ โดยพี่ชายที่เป็นช่าง จนกลายมาเป็นจักรยานที่สามารถบรรทุกของขายได้

“จุดเด่นของการขายของบนรถจักรยาน และการแสดงเมนูชัดเจนบนป้าย ช่วยให้คนเห็นแล้วจำเราได้ทันทีตั้งแต่ครั้งแรก ปัจจุบันมีเมนู กุ้งแซ่บ หอยนางรมแซ่บ กุ้งดอง แซลมอนดอง ทีเด็ดของเราคือน้ำจิ้มที่ใช้มะนาวสด ไม่ใส่ผงชูรส เป็นรสชาติกลางๆ ทานได้เรื่อยๆ ซดน้ำได้เลย ราคาเริ่มต้น 60 บาท เมนูขายดีจะเป็นกุ้งแซ่บ หอยนางรมแซ่บ แซลมอนกุ้งแบบรวม”

สำหรับวิธีการขาย ไม่ต้องห่วงเรื่องความสดใหม่ เพราะคุณจอยใส่ใจตั้งแต่กระบวนการคัดสรรวัตถุดิบ ส่งตรงจากฟาร์มและแหล่งที่ได้มาตรฐาน เช่น หอยนางรมรับจากฟาร์ม แซลมอนซื้อจากแม็คโคร เป็นต้น

พร้อมทำความสะอาดวัตถุดิบ และนำมาขายด้วยการแช่น้ำแข็งตลอดเวลาตั้งแต่ก่อนออกขายกระทั่งขายหมดก็ยังมีน้ำแข็งอยู่ ส่วนน้ำจิ้มก็แช่อยู่ในน้ำแข็งด้วยเช่นกัน รวมถึงมีฝาปิดมิดชิด แม้กระทั่งกระบวยตัก นั่นคือความสด ความสะอาดที่ลูกค้ามองเห็นได้จากพื้นที่การขายเล็กๆ

ส่วนขั้นตอนการทำก็ไม่มีอะไรยาก เพราะเธอนำวัตถุดิบบรรจุถุง เพื่อช่วยให้รู้ต้นทุนและขายได้ง่ายมากขึ้น เพียงแค่ตัด เท ราด เป็นอันเสร็จ โดยจะบรรจุหอยนางรม 70-120 กรัมต่อถุง กุ้ง 4-8 ตัวต่อถุง แซลมอน 80 กรัมต่อถุง

“การทำงานในแต่ละวัน ช่วงเช้าทำครัวบ้านจอย ช่วงบ่ายเตรียมกุ้ง หอยนางรม แซลมอน ปั่นน้ำจิ้ม และผักสด ก่อนออกขายวันจันทร์ถึงศุกร์ ช่วง 5 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่มครึ่ง ถ้าหมดก่อนก็เก็บเร็ว หมดเร็วสุด 1 ชั่วโมง ถ้าเป็นลูกค้าประจำจะโทรและไลน์มาสั่งก่อน

เราเจาะเวลาช่วงเย็นเพราะเป็นเวลาที่พนักงานเลิกงาน และเป็นเมนูที่เหมาะกับการขายช่วงเย็น ถ้าขายกลางวันไม่น่าได้ เพราะพฤติกรรมของพนักงานออฟฟิศ ต้องการอาหารที่อิ่มท้อง เขาจะเลือกทานข้าวมากกว่า

และจริงๆ อยากเจาะเวลาขายช่วงอื่นด้วย คือ การขายแฟรนไชส์ ที่ไม่ได้มีแค่จักรยานอย่างเดียว ยังมีรถเข็น รถแคมป์ มีหลายตัวให้เลือกมากๆ ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงทดลองและพัฒนาระบบหลังบ้าน

เราอยากทำให้ขายได้จริงและยั่งยืน เพราะของแซ่บมันคู่กับคนไทยอยู่แล้ว และสิ่งที่โฟกัสจริงๆ ไม่ใช่เรื่องจักรยานแต่คือรสชาติ ดูว่าคนมาซื้อซ้ำไหม การที่ลงไปขายเอง ทำให้เห็นทุกอย่าง ฟีดแบ็กแต่ละวันมีลูกค้าประจำเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผลตอบรับดีมากๆ”

ตลอดเวลา 3 เดือนที่ผ่านมากับการขายยำบนรถจักรยาน ไม่เพียงแค่สร้างความอร่อยให้กับลูกค้า แต่ยังสร้างความภูมิใจให้กับคุณจอยจากการที่โปรดักต์ใหม่ของเธอมีผลตอบรับที่ดี

“ของเราขายได้ เลยไม่รู้สึกเหนื่อย แต่สนุกและเอนจอยมากๆ ไม่คิดว่าสิ่งที่ตัวเองตั้งใจจะเกิดขึ้นเร็วขนาดนี้ สิ่งที่ตั้งใจคือการทำให้คนจดจำและรู้จักเรา นี่แหละคือสิ่งที่มาเร็วกว่าที่คิด”

และทิ้งท้ายว่า

“ถ้าใครอยากขายของ หรือกำลังขายในสิ่งที่มีอยู่แล้วในตลาด สิ่งเดียวที่จะทำให้คนจดจำได้ คือการสร้างความแตกต่าง แต่ปัจจัยที่ทำให้เราอยู่ได้ยั่งยืนจริงๆ ไม่ใช่จักรยาน มันคือเรื่องรสชาติมากกว่า ถ้ามีรสชาติดี เราค่อยไปต่อยอดเรื่องการสร้างภาพลักษณ์ เรื่องการตลาด แล้วถ้าไม่เห็นผล ต้องย้อนกลับไปมองว่าของคุณอร่อยไหม ดีพอไหม มีคุณภาพไหม ลูกค้าชอบไหม” นั่นคือคำแนะนำจากคุณจอย ครัวบ้านจอย