ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
โรงแรมเมืองบุรีรัมย์ หยิบสูตร น้ำพริก หารายได้ ก่อนแตกไลน์สินค้า ตอบโจทย์ชาว WFH
จะเห็นได้ว่า ช่วงโควิดระบาดแบบนี้ หลายๆ คนเริ่มหันมาขายของกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น ของใช้ต่างๆ ขนมนมเนย รวมไปถึงอาหาร ที่ถือเป็นปัจจัย 4 ที่มนุษย์ยังคงมีความต้องการอยู่เสมอ ซึ่ง คุณตาจิตรพงศ์ และ คุณคริส-กฤตวิทย์ กฤตยเรืองโรจน์ ผู้เป็นลูกชาย เจ้าของโรงแรม เอกลดา ในจังหวัดบุรีรัมย์ ก็ได้ผันตัวมายึดอาชีพขาย น้ำพริก ในระหว่างที่โรงแรมยังไม่สามารถเปิดให้บริการได้ตามปกติ
ทั้งคู่ได้เล่าให้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ฟังว่า โรงแรม เอกลดา เปิดให้บริการอยู่ที่ อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ มาได้กว่า 8 ปีแล้ว มีพนักงานในความดูแลกว่า 20 ชีวิต โดยที่ผ่านมาเปิดให้บริการแก่นักท่องเที่ยวเป็นปกติ จนกระทั่งเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อปีที่แล้ว
“โควิดมันมาช่วงมีนา เมษา ปีที่แล้วใช่ไหมครับ ทางจังหวัดก็มีการปิดเมือง มี พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มันก็ทำให้ธุรกิจเงียบเหงาหน่อยๆ โรงแรมเราก็ได้รับผลกระทบเหมือนกับคนอื่นๆ นั่นแหละครับ แต่เราไม่ได้เครียดมาก เพราะเราดำเนินกิจการด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามรอยพ่อหลวง ร.9 มาตั้งแต่ที่เริ่มทำกิจการเลย คือมีเงินทุนเท่าไหร่ก็ใช้เงินตัวเอง ไม่ได้ไปกู้แบงก์หรือยืมใครมาทำ เลยไม่ได้มีหนี้กับใคร”
“แต่ก็นั่นแหละครับ พอโควิดมามันก็กระทบ ทางเราพ่อลูก ในฐานะเป็นเจ้านาย เป็นหัวหน้า ก็อยากดูแลลูกน้อง ดูแลพนักงานให้เขาอยู่ได้ เพราะเราทำงานด้วยกันมานาน อยู่กันจนนับกันเหมือนญาติพี่น้อง ก็มานั่งคุยกันว่า เราจะทำอะไรกันดี นึกไปนึกมาก็ตกตะกอนว่า ปกติโรงแรมเราก็ทำน้ำพริกเสิร์ฟลูกค้าที่มาใช้บริการเท่านั้น พอได้กิน ใครๆ ก็ชอบ ซึ่งสูตรเป็นของคุณพ่อที่ได้ตกทอดมา เลยตกลงหยิบเอาเมนูที่หาทานได้เฉพาะที่โรงแรมเราออกมาทำขายช่วงโควิดนี้เลย” คุณคริส และคุณตาจิตรพงศ์ ช่วยกันเล่า
โดยน้ำพริกของโรงแรม เอกลดา ใช้วัตถุดิบปลอดสารพิษ ไม่ใส่ผงชูรสหรือสารเคมีใดๆ เมื่อโพสต์ขายลงในกลุ่มฝากร้านของมหาวิทยาลัยที่เปิดขึ้นมาช่วยบรรดาศิษย์เก่า จึงได้รับผลตอบรับดีจากบรรดาพี่น้องร่วมสถานศึกษาในนั้น ทำให้ลูกค้าของพ่อลูกมีหลากหลายจังหวัด โดยเฉพาะชาวเมืองกรุง
“ตอนทำน้ำพริกขาย ตอนนั้นเป็นโควิดระลอกแรก ก็คิดว่ามันน่าจะเอาอยู่แหละ แต่พอรอบ 2 ก็เห็นแล้วว่า มันคงขายแค่อย่างเดียวไม่ได้แล้วแหละ คุณพ่อก็เรียกพนักงานมาประชุมเลย ว่าจะทำยังไงกันต่อดี จะทำอะไรเพิ่มกัน ก็เสนอกันมาเยอะมากครับ แต่ช่วงนี้คน work from home ทำงานที่บ้านและมักจะอาศัยอยู่ที่คอนโดฯ กันเสียเยอะ เพราะก็เป็นที่อยู่เดิมๆ ที่สั่งเข้ามา ก็คิดแล้วว่า ชาวคอนโดฯ น่าจะซื้อของมาทำกินเองยาก หรือซื้อมาก็เกิดปัญหาวัตถุดิบเหลือทิ้ง เลยคิดว่างั้นทำพวกพริกแกงอะไรแบบนี้ดีไหม แบบใช้ครั้งเดียวไม่เหลือทิ้ง ก็พอให้ธุรกิจเล็กๆ นี้ยังไปได้ต่อ” คุณคริส ว่า
แต่สถานการณ์ก็ไม่มีทีท่าว่าจะจบในรอบ 2 คุณคริส เผยอีกว่า เมื่อเกิดการแพร่ระบาดระลอก 3 ขึ้น ทำให้เขาต้องคิดผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ขึ้นมาเพิ่มเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า ซึ่งก็ออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ตัวที่ 3 และ 4 อย่าง ชุดผัดไทย ผัดหมี่โคราช และ ข้าวเม่าหมี่ทรงเครื่อง
“เราพยายามคิดไปเรื่อยๆ ว่าจะทำอะไรเพื่อเอาตัวรอดกันตลอดครับ ค่อยๆ ขยายกันไป อย่างตอนนี้เราก็กำลังนำกล้วยที่เราปลูกแบบเกษตรอินทรีย์ บนพื้นที่ 100 ไร่หลังโรงแรม มาแปรรูปเป็นกล้วยหนึบออกขายเพิ่มเติม และวางแผนไว้เหมือนกันว่า จะผลิตสินค้าพวกนี้ขายเป็นธุรกิจจริงจังเลย แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องดูว่า วิกฤตจะจบลงจริงๆ เมื่อไหร่ และจะทำอะไรต่อ” คุณคริส ว่าอย่างนั้น
สนใจสั่งซื้อน้ำพริก หรือสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เฟซบุ๊ก Akelada Kitchen
เผยแพร่เมื่อ วันอังคารที่ 8 มิถุนายน พ.ศ.2564