กรินนี่ ขนมอบกรอบไส้ทะลัก นวัตกรรมจากผลผลิตเกษตรกรไทย สร้างรายได้สิบล้านต่อปี

กรินนี่ ขนมอบกรอบไส้ทะลัก นวัตกรรมจากข้าวกล้องหอมมะลิ ผลผลิตเกษตรกรไทย สร้างรายได้หลักสิบล้านต่อปี 

หากเดินเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ จะมีอยู่หนึ่งโซนที่ถือว่าเป็นโซนที่กินพื้นที่ร้านมากที่สุด นั่นคือ โซนขนม ที่มีมากกว่า 2 เชลฟ์เลยทีเดียว ซึ่งถ้ามานั่งมองกันดีๆ จะเห็นว่า บนเชลฟ์มีขนมขบเคี้ยววางขายอยู่หลากหลายยี่ห้อ ซึ่ง กรินนี่ ก็เป็นหนึ่งในนั้น

คุณเมนี่-สุวิมล สิระนาท วัย 26 ปี กรรมการบริหาร บริษัท เติมเนเจอร์ อินดัสตรี้ จำกัด หรือ เจ้าของแบรนด์ขนมดังกล่าว ให้สัมภาษณ์กับ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ถึงที่มาที่ไปของแบรนด์ขนมนี้ว่า กรินนี่ คือ ขนมขบเคี้ยวที่ปราศจากกลูเต็น เพราะทำจากข้าวกล้องหอมมะลิ ซึ่งเป็นผลผลิตจากเกษตรกรไทย มีคุณค่าทางอาหารสูง

คุณเมนี่-สุวิมล สิระนาท วัย 26 ปี เจ้าของแบรนด์ กรินนี่

ซึ่งที่มาที่ไปของขนมดังกล่าว มาจากการที่เธอได้ทุนให้เปล่าจากในหลวง ร.9 ซึ่งถือเป็นภาษีจากประชาชนคนไทยด้วย ไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ และรู้สึกอยากตอบแทนในหลวงและเงินจากภาษีของคนไทย จึงอยากนำความรู้ที่ได้มา ทำอะไรสักอย่างเพื่อหาเงินเข้าประเทศ

“ก็รู้สึกว่า ทุนนี้ในหลวงให้เรา ซึ่งมันก็เป็นเงินภาษีของคนไทยเหมือนกัน มาเรียนนะ พอจบมาก็ทำงานในบริษัทต่างชาติ มันก็เป็นการเอาความรู้มาทำให้บริษัทเมืองนอก ซึ่งที่เรามีทุกวันนี้ ก็เพราะเงินจากประเทศบ้านเราไม่ใช่หรอ งั้นกลับไทยดีกว่าไหม แล้วเอาความรู้ที่ได้ มาทำอะไรหาเงินเข้าประเทศดีกว่า” คุณเมนี่ เล่าอย่างนั้น

เธอเล่าต่อว่า เมื่อคิดแบบนั้น จึงทำเรื่องจัดการธุระให้เรียบร้อยและเดินทางกลับประเทศบ้านเกิด นั่งคิดนอนคิดจนตกผลึก จนพบว่า ผลผลิตทางการเกษตรของไทย มีความน่าสนใจ สามารถนำมาต่อยอดได้หลากหลาย และยังเป็นสินค้าที่ต่างชาติชื่นชอบ จึงเริ่มต้นจากจุดนี้

“ผลผลิตทางการเกษตรของไทยมีจุดเด่นหลากหลาย และอยากช่วยเกษตรกรด้วย ก็มีการรับทำ OEM มาก่อน ทำไปทำมาก็อยากมีแบรนด์เป็นของตัวเอง เพราะเมนี่อยากทำขนมที่ทุกคนสามารถทานได้ทุกวัน โดยที่ทานเข้าไปไม่รู้สึกผิด ให้ขนมของเราสามารถเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของคนได้ แล้วคนไทยติดข้าว ต้องกินข้าว เวลาทานข้าวเขาก็จะมีความสุขกัน เลยเลือกข้าว ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสินค้าที่เด่นๆ ของประเทศ มาทำเป็นขนมอบกรอบ”

“พยายามขยายตลาด ไม่ใช่แค่เอาข้าวมาแปรรูป แต่เราอยากช่วยเกษตรกรให้ได้มากที่สุด เท่าที่สามารถช่วยได้ ก็พยายามนำสินค้าทางการเกษตรหลายๆ อย่างมาแปรรูปค่ะ อย่างไส้ข้างใน ก็ใช้วัตถุดิบจริงๆ มาทำ มะม่วงก็มะม่วงจริงๆ ทุเรียนก็ทุเรียนจริงๆ มากวนเอง แล้วใช้นวัตกรรมทำให้ผลิตภัณฑ์มันสามารถอยู่ได้เป็นปีๆ แล้วขนมเรา เด็กเล็กๆ ตั้งแต่ 1 ขวบก็ทานได้ ก็ทำส่งขายต่างประเทศ เพราะถ้าในประเทศ การแข่งขันมันก็ค่อนข้างเยอะ” สาวเจ้าของแบรนด์ ว่าอย่างนั้น

เป็นเวลากว่า 2 ปีที่กรินนี่ได้ออกวางขาย จนสามารถเข้าไปในตลาดโมเดิร์นเทรดได้เกือบทั่วประเทศ สามารถสร้างรายได้กว่าหลักสิบล้านต่อปี แต่ก็ต้องสะดุดเพราะสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งคุณเมนี่เล่าว่า ตนเองยังโชคดีที่มีลูกค้าอยู่แทบทุกทวีป ไม่ว่าจะจีน เวียดนาม มาเลเซีย สิงคโปร์ ออสเตรเลีย อเมริกา รวมถึงยุโรป

“โควิดมาก็ได้รับผลกระทบเหมือนกันหมดนะคะ แต่เราโชคดีที่ว่า ลูกค้ามีอยู่ทุกทวีป ประเทศนั้นกระทบเราก็ยังมีลูกค้าจากประเทศอื่นอะไรแบบนี้ เพราะขนส่งบางอย่างมันก็ยังส่งได้อยู่ มันก็มีที่ส่งออกไม่ได้ ก็อาศัยการกระจายความเสี่ยงเอานี่แหละ” คุณเมนี่ ว่า

คุณเมนี่ ยังเผยว่า นอกจากพยายามปั้นยอดให้แบรนด์แล้ว มีการผลิตสินค้าออกมาในรูปแบบใหม่ เพื่อให้ครอบคลุมกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

“นอกจากขนมเราก็มีรับทำ OEM ซึ่งมีออร์เดอร์เข้ามาเรื่อยๆ เมนี่พยายามเพิ่มการผลิตให้ครอบคลุมขึ้น แต่ยังคงคอนเซ็ปต์เฮลตี้ และขยายตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น ตอนนี้ก็มีผลิตภัณฑ์ใหม่ออกมา เป็นลักษณะแท่งๆ ราคา 5 บาท เจาะตลาดขนมสำหรับเด็กมากขึ้น ก็วางจำหน่ายในโรงเรียนก่อนค่ะ เราพยายามทำของดีๆ ราคาไม่แพง ให้คนไทยได้กิน เพราะถ้าส่งออกอย่างเดียว เมนี่มองว่ามันไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ เน้นค่อยๆ ก้าว เอาคนในโรงงานให้เขาอยู่ได้ ถ้าเขาอยู่ได้ โรงงานมีออร์เดอร์เข้ามาเรื่อยๆ เดี๋ยวก็มีกำไรเข้ามาแน่นอน”

ขนมอบกรอบสอดไส้  ตรา กรินนี่ มีอยู่ด้วยกัน 10 รสชาติ ได้แก่ 8 รสชาติยอดนิยม อย่าง สตรอว์เบอร์รี่ ชาเขียว ชาไทย ซาวน์ครีม ช็อกโกแลต ชีส และอีก 2 รสที่เป็นผลไม้ตามฤดูกาลของไทย อย่าง มะม่วง และทุเรียน จำหน่ายในราคา 20 บาท

หากสนใจสอบถามสั่งซื้อได้ที่ เฟซบุ๊ก Grinny ขนมอบกรอบ ไส้ทะลัก