อดีตเชฟ เปิดธุรกิจ “หมูทอดดีลิเวอรี่” เนื้อนุ่มฉ่ำใน ขายดีเดือนละ 5 หมื่น

หมูทอด เมนูพื้นๆ ที่ทุกคนชอบทาน นอกจากทำทานแล้ว ยังทำขายเป็นอาชีพได้เงินหลายบาทเลยทีเดียว อีกหนึ่งร้านหมูทอดเปิดใหม่ ที่เชื่อว่าหากได้ชิมแล้วต้องติดใจ เพราะร้านนี้ชูคอนเซ็ปต์ “หอม นุ่ม ชุ่มฉ่ำใน” ขายส่งแบบดีลิเวอรี่อย่างเดียว ถึงอย่างนั้นยอดขายก็พุ่งกระฉูดยิ่งกว่าเปิดหน้าร้าน โดย คุณดนย์-ปัณณวิชญ์ ศุภศิริเรืองชัย ชายหนุ่มผู้หลงรักและซึมซับการทำอาหารมาตั้งแต่เด็ก ย้อนไปเมื่อหลายสิบปีก่อน คุณดนย์มักติดตามคุณแม่ที่แต่ก่อนเป็นอาจารย์สอนทำอาหารที่ศูนย์ฝึกอาชีพและธุรกิจ มติชน มาสอนทำอาหารอยู่บ่อยๆ ซึ่งปัจจุบันศูนย์แห่งนี้ได้พัฒนาเป็นมติชน อคาเดมี

เมื่อโตขึ้นจึงเลือกเรียนเชฟที่วิทยาลัยดุสิตธานี จากนั้นเข้าทำงานเป็นเชฟที่โรงแรมห้าดาวอยู่นาน 7 ปี ทำงานวันละ 10-12 ชั่วโมง หนักเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน กระทั่งหันกลับมาต่อยอดธุรกิจครอบครัวคือขายส่งหมูปิ้ง ด้วยการเปิดธุรกิจ “หมูทอดชั้นเทพ”

“ผมโตมากับศูนย์ฝึกอาชีพและธุรกิจ มติชน ตามแม่ไปสอนทำอาหารพวกติ่มซำ ขนมจีบ ตั้งแต่เด็ก เลยคิดว่าถ้าจะทำธุรกิจสักอย่างต้องทำที่ตนเองถนัดและมีพื้นฐานอยู่แล้ว อย่างหมูทอดชั้นเทพ ผมคิดสูตรหมูทอดขึ้นด้วยตนเอง พยายามทำรสชาติให้แตกต่างจากที่มีขายทั่วไป จนได้รสชาติที่อร่อยลงตัว เพราะเราเชื่อว่าเราเป็นเทพเรื่องหมูตามชื่อแบรนด์”

ความอร่อยที่ได้นอกจากสูตรแล้ว ยังอยู่ที่การเลือกใช้วัตถุดิบ คุณดนย์เลือกใช้หมูสามชั้น และสันคอผสมกัน หมักตามสูตร เมื่อนำไปทอดจะมีน้ำมันหมูออกมา ได้เนื้อชุ่มฉ่ำ ทานอร่อย แต่ถ้าใช้หมูส่วนอื่นจะแห้งและแข็งกว่านี้

จุดเด่นของหมูชั้นเทพ คือ เมื่อกัดเข้าไปคำแรกจะสัมผัสได้ถึงความนุ่มและความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมู รวมทั้งได้กลิ่นหอมจากการหมักด้วยสูตรเข้มข้น ขนาดชิ้นพอดีคำไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ทานแล้วหยุดไม่ได้ ซึ่งคุณดนย์คัดสรรวัตถุดิบหลักอย่างเนื้อหมูด้วยตัวเองจากเขียงหมูคุณภาพ

สำหรับช่องทางการขาย ชายหนุ่ม ระบุว่า ขายส่งแบบดีลิเวอรี่ และรับงานจัดเลี้ยง โดยไม่มีหน้าร้าน อดีตเชฟ ให้เหตุผลว่า ที่ไม่เปิดหน้าร้านเพราะปัจจุบันพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไป คนไม่ชอบออกมาซื้อของด้วยตนเอง ทั้งอากาศร้อน และรถติด จึงนิยมใช้บริการสั่งซื้ออาหารมาทานที่บ้านมากขึ้น จากการขายดีลิเวอรี่เพียงอย่างเดียว ช่วงที่ขายดีใช้เนื้อหมูมากถึงวันละ 40-50 กิโลกรัม

“ธุรกิจเราเพิ่งเริ่มต้นจึงไม่มีหน้าร้าน ซึ่งการไม่มีหน้าร้านมีข้อเสียเหมือนกัน เพราะลูกค้าบางกลุ่มไม่อยากสั่งดีลิเวอรี่ แต่อยากมาซื้อด้วยตนเองที่หน้าร้าน ในอนาคตเลยคิดไว้ว่าจะต้องเปิดหน้าร้าน ตั้งใจสร้างเป็นแลนด์มาร์กก่อน 1 ร้าน จากนั้นจะเริ่มเปิดแฟรนไชส์”

ราคาขายมีหลากหลายให้เลือก ถ้าลูกค้าอยากทานแค่สันคอ หรือสามชั้นอย่างเดียว มีขายแยกเป็นขีด ขีดละ 55 บาท แต่แนะนำให้ทานผสมกันจะอร่อยมาก แบบกล่อง เซตข้าวเหนียวกับหมู 2 ขีด 120 บาท กล่องใหญ่ ข้าวเหนียวกับหมู 3 ขีด 180 บาท และกล่องใหญ่หมูล้วน 3 ขีด 160 บาท

ด้วยการขายส่งแบบดีลิเวอรี่ และงานจัดเลี้ยงตามบริษัทที่แต่ละครั้งมักสั่งมากถึง 200-300 กล่อง ทำให้หมูชั้นเทพ สร้างรายได้ต่อเดือนเฉลี่ย 50,000 บาท ซึ่งคุณดนย์ บอกว่า รายได้นี้มากกว่าตอนทำงานเป็นเชฟเสียอีก

“เศรษฐกิจไม่ดีก็จริง พนักงานเงินเดือน หรือข้าราชการเขาอาจไม่นำเงินไปซื้อของใหญ่ๆ ก็จริง แต่เรื่องของกินคนยังมีกำลังซื้ออยู่ ได้ทานอาหารอร่อยมันช่วยเพิ่มพลังการทำงานได้จริง อีกอย่างผมคิดว่าเทรนด์การสั่งอาหารไปทานที่บ้านจะยังคงอยู่อีกหลายปี นั่นทำให้เราขายได้”

ถามถึงการเปลี่ยนบทบาท จากเชฟสู่การเป็นเจ้าของธุรกิจ ชายหนุ่ม บอกว่า ต่างกันมาก เชฟต้องมีความรับผิดชอบสูง ต้องรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง ใช้พลังเยอะ ทำงานหนักวันละ 10-12 ชั่วโมง

“เป็นเจ้าของธุรกิจ งานหนักเหมือนกัน ไม่มีใครมาคอยคุม แต่เครียด ต้องทำงานตลอดเวลา แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งมีมาให้แก้ทุกวัน ต้องคุมคุณภาพ รสชาติ ดูแลยอดขาย งบการเงิน ทำแทบทุกอย่างเลย สนุกดีเหมือนกัน ที่สำคัญ ผมได้ครอบครัวช่วยเป็นทีมสนับสนุนอยู่เสมอ”

ในอนาคต นอกจากการเปิดหน้าร้านและแฟรนไชส์แล้ว คุณดนย์ยังไม่คิดเพิ่มเมนูใหม่ ยังโฟกัสแค่หมูทอดอย่างเดียวเพราะเป็นเทพเรื่องหมู แต่อาจจะเพิ่มรสชาติเข้ามาให้หลากหลายมากขึ้น อ่านแล้วสนใจสามารถสั่งซื้อได้ทางไลน์แมน หรือติดตามได้ทางเพจเฟซบุ๊ก หมูชั้นเทพ