ผู้เขียน | วัชรี ภูรักษา |
---|---|
เผยแพร่ |
เรื่องราวของการกลับไปทำเกษตรกรรมของคนรุ่นใหม่ หรือสานต่องานเกษตรของครอบครัว โดยการนำความรู้จากการศึกษาเรียนรู้ระดับที่สูงขึ้นมาบริหารจัดการ มีมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีหลังนี้ จะพบว่ามีเรื่องราวสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนที่อยากเป็นเกษตรกร หรืออยากกลับบ้านไปทำงานเกษตรกรรมก็มีให้เห็นอย่างต่อเนื่อง
เช่นเดียวกับเรื่องราวของ คุณวีรพล ค้อศุภฤกษ์สกุล หรือ คุณพล เจ้าของไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่รัก อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ ชายหนุ่มผู้ที่จบการศึกษาจากรั้วมหาวิทยาลัยแม่โจ้ อีกคนที่หันหลังให้กับงานประจำและกลับมาสานต่อการทำงานเกษตรของครอบครัว โดยนำเอาความรู้กลับมาพัฒนาบ้านเกิดของตนเอง
คุณพล ย้อนความหลัง เล่าให้ฟังว่า “ผมจบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านการเกษตร ที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้ แล้วก็เข้าทำงานเป็นพนักงานประจำ อยู่ในบริษัทประมาณ 3 ปีได้ แต่ช่วงระหว่างทำงาน ผมก็กลับมาบ้านที่เขาค้อบ่อยมาก ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพราะต้องกลับมาช่วยที่บ้านทำไร่สตรอว์เบอร์รี่ แล้วก็ทำไร่ ปลูกพืชการเกษตรทั่วไป จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ แล้วมาทำไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่รัก เพราะพบว่าการกลับบ้านมาทำไร่ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ไม่เพียงพอแล้ว และการทำงานในเมืองตลอดเวลา 3 ปี ก็ไม่ได้ตอบโจทย์การดำเนินชีวิตทั้งหมด จึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ แล้วมาลุยทำไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่รัก
การทำไร่สตรอว์เบอร์รี่นี้เป็นการสานต่องานครอบครัว เนื่องด้วยพื้นที่เขาค้อ อากาศเหมาะกับการปลูกพืช ไม่ว่าจะเป็นสตรอว์เบอร์รี่ หรือพืชเมืองหนาวทางเลือกอื่นๆ ก็สามารถปลูกได้”
พอหันหลังให้กับงานประจำและมาลุยการทำเกษตรอย่างเต็มตัว สิ่งที่ คุณพลทำคือ การนำเอาความรู้ที่ได้จากรั้วมหาวิทยาลัยมาใช้ในการทำเกษตร โดยตั้งใจว่าจะนำเอาความรู้มาพัฒนาบ้านเกิดและพื้นที่ของครอบครัว รวมถึงออกแบบการดำเนินชีวิตของตนเอง และสร้างความสุขให้ครอบครัวไปด้วย
การทำไร่สตรอว์เบอร์รี่ของคุณพล เป็นการทำแปลงบนที่โล่งเชิงเขา ไม่ได้ทำแบบโรงเรือน โดยทำแปลงปลูกสตรอว์เบอร์รี่ และปลูกพืชเสริม อย่างเช่น ดอกเก๊กฮวย ดอกคาโมมายล์ ก็เพื่อนำไปสู่การแปรรูปผลผลิตที่ได้จากสิ่งที่ปลูก
อย่าง สตรอว์เบอร์รี่ที่ปลูก ก็เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้ให้กับนักท่องเที่ยวและเด็กๆ เข้ามาเยี่ยมชมแปลงเกษตรได้ นักท่องเที่ยวมีกิจกรรมในการเก็บผลสดของสตรอว์เบอร์รี่ ซึ่งหากเก็บผลสดได้ ก็ให้เอามาชั่งน้ำหนักและขายให้กับนักท่องเที่ยว โดยผลผลิตที่ได้จากสตรอว์เบอร์รี่ก็ขายเป็นแบบผลสดในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว และมีสตรอว์เบอร์รี่อบแห้ง วางจำหน่ายภายในไร่ด้วย
ส่วนแปลงปลูกผสมผสานในไร่สตรอว์เบอร์รี่ ที่ทำแปลงปลูกดอกเก๊กฮวย และดอกคาโมมายล์ ก็เพื่อนำมาแปรรูปเป็นชา จากดอกเก๊กฮวย และชาดอกคาโมมายล์ อีกทั้งยังนำผลผลิตที่ได้แปรรูปอย่างอื่นเพิ่มเติมด้วย ช่วยสร้างรายได้เสริมให้ที่ไร่ได้ไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งพยายามจะจัดสรรและบริหารพื้นที่ให้มีกิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี และบริหารการปลูกพืชชนิดต่างๆ ให้เหมาะกับฤดูอื่นๆ ด้วย อย่างเช่น การปลูกข้าวโพด ข้าวเหนียว ทับทิม เป็นต้น
คุณพล เล่าเพิ่มเติมว่า ผมเข้าร่วมโครงการวิจัยกับทางสำนักประสานงานการวิจัยและพัฒนาเชิงพื้นที่ภาคเหนือตอนล่าง สกว. เพื่อพัฒนาจากการเป็นเกษตรกรธรรมดา มาเป็นเกษตรกรรุ่นใหม่หัวใจสีเขียว (Green Startup) โดยการเรียนรู้และพัฒนาตนเองไปสู่การทำประโยชน์ให้สังคม
สำหรับรายได้ของไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่รัก เฉลี่ยตลอดทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 500,000 บาท คุณพล บอกว่า จำนวนเงินเท่านี้ สามารถอยู่ได้และดำเนินกิจการทางการเกษตร ลงทุนได้โดยสามารถล่อเลี้ยงและดูแลครอบครัวให้มีความสุขได้ อีกทั้งยังเป็นอิสระจากระบบการทำงานออฟฟิศ และสามารถออกแบบการดำเนินชีวิตตนเองได้ด้วย
สำหรับใครที่สนใจ อยากเข้าไปเยี่ยมชมไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่รัก ก็สามารถเดินทางกันไปที่ ไร่สตรอว์เบอร์รี่ที่รัก ที่จุดชมวิว อำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ หรือติดต่อสอบถามกันได้ที่โทรศัพท์ (093) 267-4650