ที่มา | มติชนออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
วันที่ 28 มกราคม นางสาวรัศมี เจี้ยวเห้ง ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มเลี้ยงเป็ดไข่ เลขที่ 55/8 หมู่2 บ้านคลองน้ำนิ่ง ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง กล่าวว่า จากสภาวะราคายางพาราและปาล์มน้ำมันตกต่ำ สร้างผลกระทบต่อเกษตรกรเป็นวงกว้าง ชาวบ้านคลองน้ำนิ่ง อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง รวมกันตัวเลี้ยงเป็ดไข่กว่า 500 ตัว ในสวนปาล์ม โดยเก็บไข่ส่งขายร้านเบเกอรี่ ร้านขายของชำ แปรรูปเป็นไข่เค็มใบเตยหอมส่งขายเมืองท่องเที่ยว “กลุ่มเลี้ยงเป็ดไข่” ตั้งอยู่เลขที่ 55/8 หมู่ที่ 2 ต.กะลาเส อ.สิเกา จ.ตรัง
นางสาวรัศมี เล่าว่า ตนได้รวบรวมชาวบ้านในชุมชนบ้านน้ำนิ่ง 12 คน ที่มีความสนใจที่จะประกอบอาชีพเสริมเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับครอบครัว จากการเลี้ยงเป็ดไข่มา 5 เดือน สร้างรายได้ให้กับกลุ่มอย่างงดงาม ในแต่ละวันเป็ดจะออกไข่ 400- 450 ฟอง ส่งขายไข่ดิบราคาฟองละ 3.50 สตางค์ แต่เมื่อนำมาแปรรูปเป็นไข่เค็มใบเตยหอมจะขายได้ในราคาฟองละ 8 บาท
“ไข่เค็มที่กลุ่มนำมาแปรรูปจะใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติ ดีต่อสุขภาพของผู้บริโภค ส่วนประกอบในการทำไข่เค็มมีดังนี้ 1.ดินสอพอง 2.เกลือไอโอดีน 3.ใบเตยหอม 4.น้ำสะอาด ขั้นตอนการทำจะนำดินสอพอง 3 ส่วน เกลือ 1 ส่วน ใบเตยหอม 1 ส่วน และน้ำสะอาดพอสมควร นำทุกอย่างมาผสมคลุกให้เข้ากันแล้วมาพอกไข่เป็ดที่ล้างสะอาดแล้ว พักไว้ 7 วัน ก็สามารถนำมาประกอบอาหารได้นานาชนิด ทั้งไข่ดาว, ยำไข่เค็ม, ไส้ขนมต่างๆ
ข้อดี ของไข่เค็มใบเตยหอมจะได้ไข่เค็มที่หอม ลดกลิ่นคาว เนื้อไข่จะแดง กลม ส่วนดินสอพองยืดอายุของไข่เค็มให้สามารถเก็บรักษาอยู่ได้นานถึง 1 เดือน นอกจากนี้ไข่เค็มใบเตยหอม ทางกลุ่มจะส่งขายจังหวัดกระบี่ ภูเก็ต เพื่อนำไปประกอบอาหาร และจำหน่ายเป็นของฝากให้กับนักท่องเที่ยวอีกด้วย” นางสาวรัศมีกล่าว