ผู้บริหารกะทิชาวเกาะ ชี้ 40 ประเทศทั่วโลก ต้องการมะพร้าวไทย และมีอัตราเพิ่มขึ้นทุกปี

 

คุณเกียรติศักดิ์ เทพผดุงพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เทพผดุงพรมะพร้าว จำกัด ผู้ผลิตสินค้าแปรรูปจากมะพร้าวแบรนด์กะทิสำเร็จรูป “ชาวเกาะ” พร้อมกับแตกไลน์ชูความเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม  ได้กล่าวถึง วิกฤติขาดแคลนมะพร้าวเกิด ที่ขึ้นมาสัก 5-6 ปีอย่างต่อเนื่อง ว่า  ส่วนหนึ่งเกิดจากการเข้าทำลายของศัตรูพืช ซึ่งทางเทพผดุงพรเคยร่วมมือกับทางจังหวัดประจวบฯ เพื่อจัดการปราบหนอนหัวดำเพื่อให้หมดไป แต่พบปัญหาบางประการจึงไม่สามารถทำได้อย่างต่อเนื่อง เลยไม่สำเร็จ

คราวนี้ถ้าเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น ก็ได้รับการอนุญาตให้สั่งนำเข้ามะพร้าวได้ โดยสามารถทำในช่วง AFTA คือราวเดือนพฤศจิกายน-พฤษภาคม ของทุกปี โดยไม่ต้องเสียภาษี แต่ถ้าหลังจากช่วงดังกล่าวจะต้องเสียภาษีในอัตรา 54 เปอร์เซ็นต์ ดังนั้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ราคากะทิสำเร็จรูปในท้องตลาดมีราคาสูง เพราะสินค้ามีน้อยอันมาจากวัตถุดิบหายาก แต่ขณะเดียวกัน ความต้องการอยู่ในระดับเท่าเดิมหรือมากกว่า

 

คุณเกียรติศักดิ์ ยังกล่าวเพิ่มเติมถึง แนวทางการแก้ปัญหาช่วงมะพร้าวขาดแคลนว่า มีหลายหน่วยงานเคยมีการประชุมเพื่อแก้ปัญหา แล้วพิจารณาร่วมกันว่ากระบวนการผลิตและแปรรูป ตลอดจนการขนส่งที่เกิดขึ้นตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำนั้น

ปัญหาที่พบมากที่สุดคือ ทางต้นน้ำ เนื่องจากเป็นขั้นตอนในการผลิตหรือการปลูกมะพร้าวจากสวนเพราะมีจำนวนไม่เคยเพียงพอหรือขาดแคลนวัตถุดิบเป็นประจำ อย่างไรก็ตาม มติในที่ประชุมตกลงกันว่าจะเพิ่มพื้นที่ปลูกมะพร้าวให้ได้ปีละหมื่นกว่าไร่ พร้อมกับทำโครงการ 9101 เพื่อเพาะต้นพันธุ์มะพร้าวพันธุ์ชุมพร 2 ให้เป็นคู่ขนานกันไป โดยหวังให้มีจำนวนผลผลิตจำนวนมากเกิดขึ้นในอีกไม่ช้า

กรรมการผู้จัดการ แจงว่า ทุกผลิตภัณฑ์ธุรกิจของเทพผดุงพรพร้อมจะขยายกำลังการผลิตออกไป หากมีวัตถุดิบเพียงพอและยั่งยืน เพราะถึงแม้เศรษฐกิจทั่วไปจะชะลอตัว แต่ธุรกิจแปรรูปมะพร้าวยังสามารถเติบโตได้ตลอดเวลา

สำหรับด้านการผลิต โรงงานชาวเกาะให้ความสำคัญในด้านการควบคุมคุณภาพทุกขั้นตอน ผู้บริโภคสามารถมั่นใจได้ว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทผลิตจากวัตถุดิบที่มาจากธรรมชาติ มีความปลอดภัย ไม่ใส่สี ไม่ใส่วัตถุกันเสีย แล้วยังมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตอย่างต่อเนื่องจนได้รับการรับรองในระดับสากลจากมาตรฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น GMP, HACCP, ISO 9001:2000 หรือแม้แต่เครื่องหมายรับรองฮาลาลด้วย

นอกจากนั้น โรงงานชาวเกาะยังได้รับการตรวจสอบจากหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายจากลูกค้าทั่วโลก อาทิ องค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (ยูเอสเอฟดีเอ) และสมาคมผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกแห่งสหราชอาณาจักร (บีอาร์ซี) เป็นต้น ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ชาวเกาะจึงเป็นที่ยอมรับและไว้วางใจของผู้บริโภค ร้านค้า และโมเดิร์นเทรดดังหลายแห่ง รวมไปถึงคู่ค้าทั่วโลก

ทางด้านแหล่งมะพร้าวที่เป็นวัตถุดิบของเทพผดุงพร มีพื้นที่ปลูกไว้เองจำนวนกว่าพันไร่ที่ทับสะแก พร้อมกับยังมีการนำผลผลิตจากชาวบ้านในพื้นที่มาใช้ด้วย ทั้งนี้ แหล่งที่รับซื้อมะพร้าว ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช แล้วยังมีบางส่วนใน 3 จังหวัดภาคใต้ด้วย อย่างไรก็ตาม ได้ส่งเสริมให้ชาวบ้านแปรรูปเป็นเนื้อมะพร้าวและน้ำมะพร้าวเข้าโรงงานแทนการส่งมะพร้าวลูก ทั้งนี้ มะพร้าวที่รับซื้อส่วนมากเป็นมะพร้าวแก่

 

สำหรับภาพรวมตลาดผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเทพผดุงพรในขณะนี้อาจกล่าวได้ว่าประเทศสหรัฐอเมริกานับเป็นตลาดหลักแล้วมีขนาดใหญ่ โดยส่งสินค้าให้จำนวนกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ นอกจากนั้น มีที่ออสเตรเลีย โอเชียเนีย ส่วนตลาดยุโรปมียอดส่งราว 15 เปอร์เซ็นต์ และตลาดทางโซนเอเชีย ได้แก่ ฮ่องกง ไต้หวัน จีน ญี่ปุ่น ทั้งนี้ หากเทียบตลาดต่างประเทศก็ประมาณ 40 ประเทศทั่วโลก แล้วมีอัตราการเพิ่มขึ้นทุกปี

โรงงานผลิตและแปรรูป

“ความจริงมะพร้าวเป็นพืชที่มีประโยชน์มากที่สุด แล้วมองว่าในอนาคตอันใกล้นี้ผู้บริโภคจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมมาบริโภคมะพร้าวกันมากขึ้นในทุกช่องทาง เพราะเริ่มตระหนักถึงประโยชน์ของมะพร้าวที่มีต่อร่างกาย หรือทางด้านผู้ปลูกถ้าต้องการปลูกในเชิงอุตสาหกรรม แนะนำให้ใช้พื้นที่ทางภาคใต้จะเหมาะสมกว่า แต่ในกรณีที่ต้องการปลูกในครัวเรือนอาจปลูกที่ไหนก็ได้ เพียงแต่คุณภาพรสชาติอาจเพี้ยนไปตามพื้นที่ปลูกเท่านั้นเอง แต่คุณประโยชน์ยังคงมีอยู่” คุณเกียรติศักดิ์ กล่าว

 

 

 

 

(ซ้าย)มะพร้าวและขนุนในน้ำเชื่อม(ขวา)น้ำมะพร้าว

 

 

สอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ของบริษัท เทพผดุงพร จำกัด เพิ่มเติมได้ที่ อาคารเทพผดุงพร เลขที่392/56-57 ซอยปรีชาพาณิชย์ ถนนมหาราช แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200 โทรศัพท์ (02) 622-3434 ศูนย์บริการลูกค้า (02) 622-3838 สำนักประชาสัมพันธ์ (02) 622-3737 โทรสาร (02) 226-1829