จริงไหม? มือร้อน ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น หรือความจริงแล้ว แค่ไม่เข้าใจภาษาของผัก

จริงไหม? มือร้อน ปลูกอะไรก็ไม่ขึ้น หรือความจริงแล้ว แค่ไม่เข้าใจภาษาของผัก

เห็นหลายๆ คนปลูกพืชผัก ปลูกดอกไม้ จนต้นโตเติบใหญ่ ออกดอกออกผลสวยงาม จนน่าอิจฉา เพราะกับบางคนปลูกอะไรก็แทบไม่รอด จนโทษว่าตัวเองเป็นคนมือร้อน ปลูกอะไรไม่ขึ้น 

แล้วความจริงนั้น ที่ปลูกอะไรไม่ขึ้น ใช่อย่างที่โทษตัวเองหรือเปล่า มาหาคำตอบกัน 

คุณโพธิ์-ดร.พสุธ รัตนบรรณางกูร เจ้าของ From Farm to Fork-Bangkok สวนผักในเมือง เผยว่า “การที่บอกว่าตัวเองเป็นคนมือร้อน ปลูกอะไรไม่ขึ้น ผมขอเถียงหัวเด็ดตีนขาด เพราะเชื่อว่าคนมือร้อนไม่มีอยู่จริง การปลูกผักก็เหมือนกับการเลี้ยงเด็ก เลี้ยงสัตว์ ที่เราต้องคอยสังเกตพฤติกรรม ดูลักษณะอาการว่าเขาเป็นอะไร เพียงแต่ผักนั้นไม่มีปากมีเสียง ภาษาที่ฟ้องออกมาจึงออกมาในลักษณะใบเหลือง ใบไหม้ เพราะฉะนั้น เราจึงต้องเข้าใจภาษาของผักให้ได้เสียก่อน

สำหรับคนที่อยากเริ่มต้นปลูกผัก ผมมีคำแนะนำ 2 ข้อ ที่สามารถทำได้เลย ข้อ 1. การเรียนรู้ ผมเน้นย้ำเสมอมาว่าอยากให้คนหาความรู้โดยการเรียน เมื่อ 8 ปีที่แล้ว ยังไม่ค่อยมีใครเปิดคอร์สสอน ผมเลยลองผิดลองถูกเองเป็นส่วนใหญ่ บอกเลยว่า การเสียเงินไปกับการลองผิดลองถูกแพงกว่าการลงคอร์สเรียนมากๆ และยังเสียเวลา ซึ่งเวลาเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด และในที่สุดแล้ว ถ้าเสียกำลังใจ เราจะถอดใจจนล้มเลิกไป และโทษว่าตัวเองว่าเป็นคนมือร้อน ปลูกอะไรไม่ขึ้น 

การลงคอร์สเรียนจึงคุ้มค่ามาก ผู้สอนเขาลองผิดลองถูกมาก่อนหลายปีจนได้สูตรสำเร็จแล้วเอามาสอนเรา ซึ่งเราอาจใช้เวลาในการเรียนแค่ 1 หรือ 2 วัน แต่ได้วิชาทั้งหมดที่ผู้สอนสั่งสมมา มันเหมือนได้เรียนทางลัด และเราจะมีโอกาสประสบความสำเร็จสูงมาก

ข้อ 2. หัดหมักดิน ดินเป็นหัวใจสำคัญของการปลูกพืชผัก สามารถเริ่มหมักดินได้เลยจากเศษอาหารในบ้าน ทุกครัวมีเศษอาหารเหลือทิ้งในบ้าน แทนที่จะนำไปใส่ถุงพลาสติกแล้วโยนทิ้งถังขยะ ลองศึกษาวิธีเอาเศษอาหารเหล่านี้ไปหมักดิน มันมีหลายระบบมากๆ และมีหลายสเกล ดูให้เหมาะสมกับพื้นที่ ที่สำคัญ สามารถเริ่มได้เลย เพราะกว่าที่เศษอาหารจะกลายเป็นดิน ใช้เวลาอย่างน้อย 1-2 เดือนกว่าๆ การทำแบบนี้จะช่วยให้ประหยัด เพราะไม่ต้องซื้อดินถุง”

เปลี่ยนกองขยะ เป็นสวนผัก! แนวคิดสร้างสวรรค์เล็กๆ ในเมือง ของอดีตมนุษย์เงินเดือน