ขายผักสวนครัวยังไง ให้ได้เงินล้าน! เปิดเคล็ดลับความสำเร็จ เจ้าของแผงผักวัย 34

ขายผักสวนครัวยังไง ให้ได้เงินล้าน! เปิดเคล็ดลับความสำเร็จ เจ้าของแผงผักวัย 34 

ใครจะคิดว่าผักสวนครัวบ้านๆ ผักธรรมดาๆ อย่าง กะเพรา โหระพา ใบแมงลัก สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย ผักชีลาว มะเขือ แตงกวา คะน้า ถั่วฝักยาว เห็ดหูหนู ฯลฯ จะสามารถสร้างรายได้มหาศาลหลักล้านต่อเดือนให้ คุณนภคสร สามงามไกร อายุ 34 ปี หรือ เจ๊นุ่น ผักสด เจ๊ใหญ่แห่งวงการขายผักสด

“รายได้หลักล้านได้ไม่ยากถ้าเห็นโอกาส ที่พูดมาทั้งหมด ไม่มีใครที่ไม่รู้จัก และอย่างน้อยทุกบ้านต้องมีผักเหล่านี้ 1-2 อย่างในตู้เย็น ตรงนี้แหละทำให้เราเห็นเงินล้าน” เจ้าของร้าน เจ๊นุ่น ผักสด กล่าว

จุดเริ่มต้นอาชีพแม่ค้าของเจ๊นุ่น เริ่มตั้งแต่สมัยเด็ก เธอมั่นใจมาตลอดว่าอยากเป็นแม่ค้า เพราะชอบค้าขาย หลังเรียนจบจึงยึดอาชีพเป็นเเม่ค้าทันทีโดยไม่ได้ทำอาชีพอื่น

“นุ่นชอบขายของ ชอบพูดคุยกับลูกค้า สร้างฐานลูกค้าด้วยสองมือกับความพยายามของตัวเอง ทำตรงนี้ใจต้องรัก เพราะไม่ได้ทำงานในออฟฟิศเย็นๆ ต้องตากแดดร้อนๆ อย่างตัวนุ่นเป็นเกษตรกรเองด้วย ไหนจะต้องคุมคนงานปลูกผักของตัวเอง ไหนจะต้องขับรถไปหาลูกไร่อื่นๆ เพื่อหาสินค้ามาเติมให้จำนวนเพียงพอกับออร์เดอร์ที่เข้ามาในแต่ละวัน”

“ทุกคนเป็นแม่ค้าได้ แต่เป็นแม่ค้าที่มีลูกค้าประจำและสร้างลูกค้าใหม่ได้เรื่อยๆ ยากกว่า สำหรับนุ่นเติบโตมากับตลาด 10 ขวบก็ตามพ่อแม่มาขายของ ได้เห็นวิถีชีวิตพ่อค้าแม่ค้าเราก็ซึมซับและเรียนรู้มา ยิ่งทำให้รักและชอบการเป็นแม่ค้าโดยไม่รู้ตัว” เจ๊นุ่น เล่าให้ฟัง

บอกไม่กั๊ก เคล็ดลับเงินล้าน เจ๊นุ่น ผักสด

ก่อนเล่าต่อ ถึงเคล็ดลับจับเงินล้านจากผักสวนครัว ว่า “กำไรน้อย ขายมาก เท่ากับ กำไรมาก ขายน้อย ขายของที่คนมีเงินน้อยซื้อได้แค่นี้เราก็รวยแล้ว เน้นวอลุ่มไม่เน้นกำไรเยอะ นุ่นขายผักสด เป็นของที่ราคาไม่ได้สูง มีปริมาณมากเป็นตันต่อวัน และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง ที่เน้นย้ำกับตัวเองและลูกน้องทุกคน คือเรื่องความจริงใจ”

“นุ่นเป็นทั้งเกษตรกรและคนกลางที่รับผักจากลูกไร่มาขาย ผักจะมีบางช่วงราคาสูง บางช่วงราคาถูก สิ่งหนึ่งที่นุ่นทำคือถ้าผักมาแพงนุ่นตีสูงให้ แต่ถ้าช่วงไหนผักราคาถูก นุ่นจะค้ำลูกไร่ตลอดไม่ได้รับมาแบบกดราคา

เช่น เราขาย 10 บาท เราตีให้สวน 8 บาท หรือขาย 20 บาท ก็ตีให้สวน 15 บาท เพราะนุ่นเข้าใจชาวสวนและลูกไร่ จะคิดเสมอว่าลูกไร่เขาขายกับเราไม่ใช่แค่ขายกันแค่วันนี้ วันหน้าก็ยังต้องขายกัน เป็นการช่วยเหลือกันไป เราอยู่ได้ลูกไร่ลูกสวนเราก็ต้องอยู่ได้เหมือนกัน”

สำหรับลูกค้า เจ๊นุ่นจะบอกเสมอและบอกอย่างชัดเจนในเรื่องของเบอร์ผัก หรือไซซ์ผัก

“นุ่นจะบอกความจริงลูกค้าหมด สวยก็บอกสวย ไม่สวยก็บอกลูกค้าตรงๆ สำคัญที่สุดคือ ห้ามยัดไส้ให้ลูกค้าเด็ดขาด ไม่ว่าจะอยู่ร้านเองหรือให้ลูกน้องขาย ถ้าผักลูกค้าซื้อไปมีปัญหาแค่บอก เคลียร์ให้หมด เพราะการค้าขายการบริการก็เป็นอีกหนึ่งอย่างที่จะทำให้ลูกค้าประทับใจและกลับมาซื้อซ้ำ สุดท้ายก็กลายเป็นลูกค้าประจำกัน”

และว่า

“ส่วนใหญ่ผักที่เอาเข้ามา จะขายหมดเกือบทุกวัน แต่เราต้องเข้าใจวงจรของการค้าขาย อย่างช่วง ตี 4 ถึงรอบ 7 โมงเช้า หรือที่เรียกกันว่ารอบตลาดนัด รอบนี้เหมือนรอบคืนกำไร ขายแบบลดแลกแจกแถม จริงๆ ใครมือใหม่ทุนน้อย แนะนำให้มารอบนี้รับรองกำไรเน้นๆ สำหรับรถเร่ พ่อค้าแม่ค้าจะรับไปขายตามตลาดนัด ตลาดสด หรือร้านอาหาร เพราะราคาผักรอบนี้จะได้แบบถูกสุดๆ”

“เคล็ดลับสำหรับคนที่เอาผักมาขายปริมาณมากๆ อย่างนุ่นเอามาขายเป็นรถสิบล้อ วันไหนถ้าขายไม่หมดผักบางชนิดถ้าเก็บได้ก็จะใช้บริการฝากแช่ไว้ที่ห้องเย็นของตลาด แล้วค่อยเอาออกมาขายใหม่โดยตีเป็นเบอร์รอง รับรองขายเกลี้ยง บางครั้งขายต่ำกว่าทุนก็ต้องขาย เอาแบบเจ็บตัวน้อยที่สุด แต่ผักบางชนิดแช่ไม่ได้ก็จะเอากลับบ้านไปเป็นอาหารวัวและอาหารปลา” เจ๊นุ่น เล่าให้ฟังอย่างละเอียด

กะเพราของเจ๊นุ่น คือ เดอะเบสต์ ยืนหนึ่งในย่านนี้

สำหรับผักทุกชนิดที่ขายในร้านเจ๊นุ่น ผักสด นั้น เป็นผักที่ร้านอาหารและทุกครัวเรือนต้องใช้ทุกวัน มีขายตั้งแต่ กะเพรา โหระพา ใบแมงลัก สะระแหน่ ผักชีฝรั่ง ผักชีไทย ผักชีลาว มะเขือ แตงกวา คะน้า ถั่วฝักยาว เห็ดหูหนู ฯลฯ และผักที่ขายดียืนหนึ่ง คือ ใบกะเพรา

“ใบกะเพราร้านเราคุณภาพดีที่สุด มีทุกเกรด ตั้งแต่เบอร์สวยไปถึงคละเกรด มีหลายคนรับผักไปขายที่ต่างประเทศและขึ้นห้าง อยากได้แบบไหนนุ่นหาให้ได้หมด และราคาดีที่สุด ปริมาณที่เราหามาขายในทุกวันก็มากที่สุดแล้วโดยเฉพาะกะเพรา เชื่อว่าไม่มีใครหากะเพราได้เก่งเท่าเราอีกแล้ว สำหรับผักอื่นๆ ก็มีขายเยอะไม่แพ้กัน มาขายต่อครั้งต้องใช้รถสิบล้อใหญ่ขนมาขาย”

โดยผักที่นำมาขายส่วนใหญ่มาจากการปลูกเองและลูกไร่หลักๆ 3 จังหวัด คือ กาญจนบุรี, ราชบุรี และนครปฐม และที่สามารถคุมราคาได้ดีเพราะทั้ง 3 จังหวัดนี้ อยู่ใกล้กับไร่ของที่ร้าน ดังนั้น จึงเซฟค่าใช้จ่ายเรื่องขนส่งไปได้

อยากเป็นวัยรุ่นสร้างตัวแบบเจ๊นุ่น เริ่มตรงไหนดี

อ่านมาถึงตรงนี้ สำหรับใครที่อยากเป็นวัยรุ่นสร้างตัว เจ๊นุ่น มีคำแนะนำว่า “ไม่ยากและไม่ต้องลงทุนเยอะ เข้ามาคุยมาปรึกษานุ่นได้เลยที่ตลาดสี่มุมเมือง อาคารรถผัก นุ่นมาทุกวัน ตั้งเเต่เวลา 19.00-07.00 น. อยู่ที่โซนสิบล้อ ป้าย 53 คันที่ 2 ฝั่งอาคารพาณิชย์

หรือจะเข้าไปดูในติ๊กต็อกก็ได้ นุ่นมีสอนดูผัก สอนซื้อผัก สอนหาผัก เคล็ดลับดีๆ บอกหมดทุกอย่าง ลองเปิดใจมาซื้อผักจากนุ่นดู ผักดี ผักสด แล้วมีหลายอย่างให้เลือก

ถ้าเลือกไม่ถูกว่าจะซื้ออะไรแนะนำให้ได้ ราคาไม่เเพง กำเงินมาพันหนึ่งก็ซื้อได้หลายอย่างแล้ว สามารถเอาทำกำไรตามเหมาะสม สร้างรายได้เลี้ยงตัวสบายๆ ขอแค่ขยัน อดทน เหนื่อยไม่ท้อ ทำได้แน่นอน”

ก่อนทิ้งท้ายถึงเป้าหมายใน 5 ปีนี้แบบชัดเจนคือ การขยายฐานลูกค้า เมื่อก่อนจะขายให้แต่ลูกค้าวอล์กอิน ลูกค้าที่มาซื้อประจำ ด้วยยุคเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคก็เปลี่ยน จึงหันมาใช้พื้นที่สื่อออนไลน์ โดยเฉพาะติ๊กต็อก

ปัจจุบันก็มียอดผู้ติดตาม 100.8 k ทำให้มีลูกค้าหน้าใหม่ๆ เข้ามาอุดหนุนจำนวนมาก อีกทั้งลูกค้าใหม่ก็นำไปบอกต่อกัน จนหลายคนออกตัวเลยว่ามาซื้อเพราะตามมาจากติ๊กต็อก เมื่อได้ฟังก็ปลื้มใจ เหมือนประสบความสำเร็จไปอีกขั้นสำหรับพื้นที่ในสื่อออนไลน์

ติดต่อได้ที่ www.tiktok.com/@napukkasorn_nune

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันพฤหัสที่ 6 เมษายน พ.ศ.2566