แม่ค้า เปลี่ยนอาชีพ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เริ่มต้นจาก 10 โต๊ะปลูก สู่ 20 ไร่

แม่ค้า เปลี่ยนอาชีพ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เริ่มต้นจาก 10 โต๊ะปลูก สู่ 20 ไร่
แม่ค้า เปลี่ยนอาชีพ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เริ่มต้นจาก 10 โต๊ะปลูก สู่ 20 ไร่

แม่ค้า เปลี่ยนอาชีพ ปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เริ่มต้นจาก 10 โต๊ะปลูก สู่ 20 ไร่

จากแม่ค้าขายส่งผลไม้ สู่เจ้าของฟาร์มผักไฮโดรโปนิกส์เงินล้าน บ้านสวนไฮโดรฟาร์ม เรื่องราวของ คุณอุไร ภิรมย์พุ่ม อายุ 47 ปี หรือที่ใครๆ เรียกเจ๊นิด เคยยึดอาชีพแม่ค้ารับฝรั่งจากสวนไปขายส่งให้ตลาดสดต่างๆ นาน 14 ปี กระทั่งปี 2554 เจอวิกฤตน้ำท่วมหนักทำให้เกือบล้มละลาย เจ๊นิดต้องย้ายตัวเองกลับบ้าน จังหวัดเพชรบูรณ์ พร้อมเงินทุนติดตัว 100,000 บาท

“คิดหนักมากว่าจะทำอะไร สุดท้ายตัดสินใจปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ เพราะมีจุดเด่นคือปลูกด้วยน้ำไม่ต้องใช้ดิน ช่วยประหยัดพื้นที่ในการปลูก และที่สำคัญ ไม่ปนเปื้อนสารเคมีต่างๆ ในดิน ทำให้ได้ผักที่มีความสะอาด” เจ๊นิด เล่าให้ฟัง

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ของเจ๊นิด เริ่มจากไม่มีความรู้ ต้องศึกษาเอาจากอินเทอร์เน็ต ลองผิดลองถูกจนพอจับทางได้

“ตอนแรกปลูกแค่ 10 โต๊ะ ผลผลิตพอส่งขายตามตลาดสดต่างๆ พอมีรายได้มากขึ้นก็เริ่มมองเห็นลู่ทางในการต่อยอดธุรกิจ จึงตัดสินใจเข้ามาเปิดแผงค้าที่ตลาดสี่มุมเมือง ธุรกิจเริ่มเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จมาถึงปัจจุบัน”

โดยผักที่นำมาจำหน่ายนั้น คือผักจากฟาร์มของเจ๊นิดเองในอำเภอเขาค้อ จังหวัดเพชรบูรณ์ บนพื้นที่ 20 กว่าไร่

“นอกจากฟาร์มของเจ๊แล้ว ยังมีลูกฟาร์มในบริเวณใกล้เคียงกันส่งผักมาขาย ซึ่งทุกฟาร์มเจ๊จะกำหนดมาตรฐานการปลูกเพื่อควบคุมคุณภาพผัก ในทุกวันที่ฟาร์มจะแพ็กผักเป็นถุง ถุงละ 3 กก. โดยบรรทุกใส่รถตู้ปิกอัพ 1 คัน ประมาณ 220-250 ถุง หรือน้ำหนักราวๆ 700 กก. ต่อรถ 1 คัน ผักร้านเราจึงสดใหม่ทุกวันและมีขายตลอดทั้งปี” เจ๊นิด บอกย้ำ

ก่อนบอกต่อถึงจุดเด่นของผักบ้านสวนไฮโดรฟาร์ม ได้การรับรอง GAP โดยกรมวิชาการเกษตร ซึ่งการได้ GAP แปลว่า ผักของฟาร์มผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัยจากยาฆ่าแมลงและศัตรูพืช ในแง่คุณภาพก็เป็นที่พึงพอใจของผู้บริโภค ซึ่งเป็นการปลูกผักตามวิถีเกษตรยั่งยืน

ขั้นตอนปลูกผัก การดูแล และเก็บเกี่ยว

การปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ไม่ยาก แต่ก็ไม่ง่าย เจ๊นิด อธิบายให้ฟัง ความเข้าใจคือสิ่งสำคัญ ภายในฟาร์มจะใช้วิธีการปลูกแบบระบบ NFT ซึ่งเป็นระบบปลูกพืชด้วยระบบราง โดยพืชจะแช่รากอยู่ในสารละลายโดยตรง สารละลายจะไหลเป็นแผ่นฟิล์มบางๆ ประมาณ 3-5 มิลลิเมตร ในรางปลูกหรือระบบน้ำตื้น และหมุนเวียนระบบน้ำด้วยปั๊ม

มีข้อดีคือ ดูแลง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่จำเป็นต้องมีเครื่องควบคุมการให้น้ำ เนื่องจากระบบนี้มีการให้น้ำแก่ผักไฮโดรโปนิกส์ตลอดเวลา ระบบการให้สารละลายแก่ผักก็ไม่ยุ่งยาก ทำการป้องกันและกำจัดเชื้อโรคพืชต่างๆ ในสารละลายได้ง่าย เป็นระบบที่มีการใช้น้ำและธาตุอาหารอย่างมีประสิทธิภาพที่สุด สามารถปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ได้อย่างต่อเนื่องตลอดปี

สำหรับการเก็บเกี่ยวผักไฮโดรโปนิกส์ ผักจะมีน้ำหนักดีที่สุดคือช่วงเช้ามืด ก่อนพระอาทิตย์ขึ้นผักจะมีการดูดน้ำสะสมในผักมากที่สุด เมื่อมีแสงแดดอุณหภูมิจะเริ่มสูงขึ้น ผักจะเริ่มคายน้ำและเริ่มเหี่ยวจนน้ำหนักลดลง

ดังนั้น ควรเก็บเกี่ยวผักไฮโดรโปนิกส์ในช่วงเช้า แต่ถ้าเก็บในช่วงบ่ายหรือเย็นควรมีการพ่นน้ำ เพื่อป้องกันผักเหี่ยว หลังจากนั้นนำผักมาตัดแต่งโดยเด็ดใบที่มีตำหนิออก เช่น ใบเหี่ยว ใบเหลือง ใบจุด ใบขาด ใบเป็นรอยเนื่องจากแมลง ฯลฯ ก่อนทำการบรรจุใส่ถุงพลาสติกเพื่อส่งจำหน่าย

ราคาผัก และยอดขายของบ้านสวนไฮโดรฟาร์ม

ในส่วนของการจำหน่าย ราคาปลีกขายเป็นถุง ถุงละประมาณ ครึ่งกก. – 1 กก. ราคา 90 บาท ราคาส่งขายเป็นถุง ถุงละ 3 กก. ราคา 80 บาท

“ใน 1 วันเจ๊ขายได้ 2,000 กว่ากก. หรือตีเป็นรายรับประมาณ 4,000,000 กว่าบาท/เดือน ยังไม่หักรายจ่าย เช่น ค่าลูกจ้าง ค่าขนส่ง ค่าเช่าพื้นที่ ค่าน้ำค่าไฟ และพวกค่าฟิกซ์คอสต์ต่างๆ ส่วนมากลูกค้ามีทั้งซื้อปลีกหน้าร้าน หรือพ่อค้าแม่ค้ามาซื้อไปขายต่อตามห้าง ตลาดสด ส่งโรงแรม ส่งสายการบินก็มี และอย่างตลาดสดออนไลน์เฟรชเก็ต ก็เข้ามารับผักจากที่ร้านไปจำหน่ายด้วยเหมือนกัน”

ส่วนใครที่เลือกผักไม่เป็น เจ๊นิด แนะนำว่า อยากให้ผู้บริโภคคำนึงถึงแหล่งปลูกของร้านที่จะซื้อ ต้องไว้ใจได้ เพราะต่อให้ไม่ใช้ยาฆ่าแมลงแต่ขั้นตอนการปลูกต้องมีการใส่ปุ๋ย น้ำต้องมีคุณภาพ ไม่อันตราย ถ้าได้ตรารับรองคุณภาพและความปลอดภัยยิ่งดี และอยากให้คำนึงถึงความสด ให้สังเกตบริเวณก้านใบ ก้านดอก หรือโคนต้น ต้องไม่มีสีขาวหรือสีเทา เพราะเป็นสีของเชื้อรา สำหรับผักที่ทานใบ ใบต้องสด ไม่แห้ง ช้ำ เหลือง หรือมีราขึ้น

อย่างไรก็ตาม นอกจากผักไฮโดรโปนิกส์ที่ร้านเจ๊นิดนำมาขายแล้ว ยังมีผักสลัดครบทุกชนิด อย่าง กรีนโอ๊ก เรดโอ๊ก ผักกาดคอสหรือผักโรเมน เบบี้คอส หรือจะเป็นผักหายากอย่าง ร็อกเก็ตป่าหรือไวลด์ร็อกเก็ต มิซูน่าและอัลฟัลฟ่า และยังมีวัตถุดิบที่ใช้กินกับสลัด เช่น ไข่กุ้ง สาหร่ายปรุงรส ปูอัด แฮม ปลาทูน่ากระป๋อง จำหน่ายในราคาขายส่งด้วย

ช่องทางการติดต่อ

📍 : ชื่อร้าน บ้านสวนไฮโดรฟาร์ม จำหน่ายผักไฮโดรฯ ปลีก-ส่ง ตลาดผักพื้นบ้าน-คัดบรรจุ โซนผักสลัด เปิดบริการตลอด 24 ชม. ซอย 4 เลขที่ 4/34

📍 : Facebook Page : บ้านสวนไฮโดรโปนิกส์

📲 : เบอร์ติดต่อ 064-935-2045, 087-719-2045

 

เผยแพร่เมื่อ วันจันทร์ที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ.2565