เรียกเจ๊สิคะ! ลูกแม่ค้า ชีวิตพลิก ขายต้นหอมท้ายรถ กวาดรายได้หลายล้าน 

เรียกเจ๊สิคะ! ลูกแม่ค้า ชีวิตพลิก ขายต้นหอมท้ายรถ กวาดรายได้หลายล้าน 
เรียกเจ๊สิคะ! ลูกแม่ค้า ชีวิตพลิก ขายต้นหอมท้ายรถ กวาดรายได้หลายล้าน 

เรียกเจ๊สิคะ! ลูกแม่ค้า ชีวิตพลิก ขายต้นหอมท้ายรถ กวาดรายได้หลายล้าน 

จากชีวิตลูกแม่ค้าในตลาด สู่เจ้าของธุรกิจขายต้นหอมท้ายรถ รายได้ 6,000,000 บาทต่อเดือน เรื่องราวทั้งหมดเริ่มต้นมาจาก คุณชลลดา ชมภูนุช อายุ 37 ปี หรือที่ใครๆ เรียกว่า เจ๊ส้ม ชีวิตของเธอเติบโตมาในตลาด เพราะพ่อแม่นำมะละกอมาขายส่งอยู่ที่นั่น

“รายได้ตอนนั้น ไม่ได้มากมายอะไร แค่พออยู่ได้ ตอนอายุ 16 ย่าง 17 ปี ก็ไม่ได้เรียนต่อ เพราะมีครอบครัว กลายมาเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตทันที ต้องยืนได้ด้วยตัวเอง เลยตัดสินใจเข้ามาหาอาชีพในตลาดสี่มุมเมือง ด้วยเงินติดตัวแค่ 3,000 บาท” เจ๊ส้ม เล่าให้ฟัง

คุณชลลดา ชมภูนุช อายุ 37 ปี หรือที่ใครๆ เรียกว่า เจ๊ส้ม
คุณชลลดา ชมภูนุช อายุ 37 ปี หรือที่ใครๆ เรียกว่า เจ๊ส้ม

งานแรกของเจ๊ส้ม คือ รับจ้างตัดผักขายท้ายรถ 2-3 ตันต่อวัน ได้ค่าแรงราวๆ 250 บาท/คัน ในระหว่างทำงานเธอใช้ทั้งความพยายาม ความอดทน รวมทั้งเก็บเงินไปพร้อมๆ กับเก็บเกี่ยวประสบการณ์ ทำแบบนั้นอยู่ 5-6 ปี ก็เริ่มรู้จักพ่อค้าแม่ค้าและชาวสวนมากขึ้น จึงตัดสินใจนำเงินเก็บไปออกรถกระบะมือสอง 1 คัน และเริ่มผันตัวเองมารับซื้อผักโดยตรงจากชาวสวน

“ธุรกิจเติบโตขึ้นเรื่อยๆ จนประสบความสำเร็จมาถึงทุกวันนี้ ปัจจุบันเจ๊วิ่งรถนำผักเข้ามาขายในตลาดสี่มุมเมือง 4 รอบ/วัน หมุนเวียนตลอด 24 ชม. และยังมีแผงค้าขายผักทั้งปลีก-ส่ง ในตลาดอีก 3 แผง รวมระยะเวลาอยู่ที่ตลาดนี้มาแล้ว 21 ปี”

แปลงปลูกต้นหอมจากสวนของเกษตรกร
แปลงปลูกต้นหอมจากสวนของเกษตรกร

สำหรับต้นหอมที่เจ๊ส้มนำมาขาย มาจากหลายแหล่งด้วยกัน หลักๆ คือจังหวัดกาญจนบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี เพราะ 2 จังหวัดนี้มีลูกสวนปลูกสลับกันตลอดทั้งปี รองลงมาคือ จังหวัดอุตรดิตถ์ โดยจะรับ 2 ช่วงต่อปี ช่วงแรกเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ ช่วงสองเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน อีก 2 จังหวัดคือ เพชรบูรณ์ รับช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน และนครราชสีมา รับช่วงเดือนมีนาคม-มิถุนายน

ขายต้นหอมท้ายรถ
ขายต้นหอมท้ายรถ

นอกจากนี้ ยังเป็นเกษตรกรผู้ปลูกเอง และมีโกดังต้นหอมอยู่ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตหัวพันธุ์หอมแบ่งที่มีคุณภาพกระจายจำหน่ายให้กับเกษตรกรไปยังแหล่งปลูกอื่นๆ ทั่วประเทศ

“ทั้งหมดนี้ ทำให้ร้านเรามีต้นหอมมาจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี กลายเป็นสินค้าหลักขายท้ายรถ ส่วนสินค้าอื่นๆ ก็มีเช่นกัน คือผักทุกชนิดที่เกษตรกรคนอื่นนำมาขายท้ายรถในตลาดสี่มุมเมือง เราก็ไปซื้อมาตัดแต่งแล้ววางขายที่แผงค้า 24 ชั่วโมง ในราคาปลีก-ส่ง เพราะลูกค้าบางคนก็ต้องการผักที่ตัดแต่งสวยงามพร้อมนำไปปรุง และอาจไม่สะดวกเข้ามาซื้อผักท้ายรถ”

มัดขายเป็นกำๆ
มัดขายเป็นกำๆ

วิธีการขาย เจ๊ส้ม อธิบายให้ฟังอย่างเข้าใจง่าย คือ มัดขายมัดละ 1 กิโลกรัม ในส่วนของราคาไม่สามารถระบุชัดเจนได้ เพราะแต่ละวันหรือแต่ละชั่วโมงราคามีการขึ้นลงอยู่ตลอด ต้องดูว่ารอบที่นำต้นหอมเข้ามาขายนั้นมีเกษตรกรหรือแม่ค้าพ่อค้าคนอื่นนำเข้ามาเยอะหรือไม่

ถ้านำเข้ามาเยอะจนล้นตลาดราคาขายก็จะถูกลง แต่ถ้ารอบนั้น ต้นหอมมีเข้ามาน้อย ราคาในชั่วโมงนั้นก็อาจดีดขึ้นเหมือนกัน อย่างราคาต้นหอม ณ วันที่ 23 เมษายน 2565 ต้นหอมคัดเบอร์สวยก็อยู่ที่กิโลกรัมละ 40 บาท

“การันตีเลยว่าต้นหอมจากร้านเรา เป็นต้นหอมสดจากสวน มีลักษณะต้นสวย ลำต้นขาวอวบใหญ่ ใบเรียวยาว ปลายใบแหลมสีเขียว เราจะมัดมาพร้อมทั้งรากเพื่อคงความสดใหม่ให้กับต้นหอม และที่สำคัญ ราคาไม่แพง ลูกค้าส่วนมาก เป็นแม่ค้าพ่อค้าจากตลาดสด ตลาดนัด รถเร่ มารับผักราคาส่งจากเรา เพื่อไปจำหน่ายในราคาปลีก”

มัดต้นหอมขาย
มัดต้นหอมขาย

จากการขายต้นหอม ทำให้เจ๊ส้มมีรายได้เข้ามาจำนวนมาก เธอตีเป็นตัวเลขคร่าวๆ ว่า ใน 1 วัน ขายได้ประมาณ 5 ตัน หรือคิดเป็นรายได้แบบยังไม่หักค่าใช้จ่าย 6,000,000 บาทต่อเดือน

พิกัด ร้านเจ๊ส้ม ‘เอเย่นต์ ต้นหอม (รวมผักสดทุกชนิด) ตลาดสี่มุมเมือง โซนอาคารรถผัก โทร. 086-375-2176 เจ๊ส้ม เปิดบริการทุกวัน 24 ชม.

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ.2565