มนุษย์เงินเดือนไม่แน่นอน! สองสาวแบงก์ “ปลูกเห็ด”ขาย ก่อนถูกเลิกจ้าง ไม่รวยแต่สุข

มีข้อสังเกตน่าสนใจ ระบุร้อยละ 99 ของ “มนุษย์เงินเดือน” ต้องอยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง

หากธุรกิจนั้นไปได้ดี พวกเขาย่อมไม่ลังเลที่จะลาออกมาทำเป็นงานหลัก และถ้ายังไม่มั่นใจเท่าไหร่ อาจทำไว้เป็นงานรองเป็นอาชีพที่ 2 หารายได้เสริมมาจุนเจือครอบครัวอีกทางหนึ่ง

แต่ในความเป็นจริง มีสักกี่คนทำได้อย่างตั้งใจ เพราะเท่าที่ปรากฏ หลายคนคิด หลายคนพูด และหลายคนไม่ลงมือทำ

แต่ขณะเดียวกัน…ก็มีบางคน พูด คิด และลงมือทำอย่างจริงจังตั้งใจ

 ตามปกติทั่วไป ช่วงสายๆ ของวันอาทิตย์ หลายคนคงยังงัวเงียอยู่บนที่นอน อยากพักผ่อนในวันหยุดให้เต็มที่ แต่คงไม่ใช่สำหรับ “สองสาวแบงก์” คนขยัน ซึ่งกำลังขมีขมันทำหน้าที่ตัวเองอยู่ใน “กระท่อมเห็ด ฟาร์ม” ย่านบางบัวทอง กิจการงานเสริมของพวกเธอ

 คุณนัยนา ยังเกิด ที่ให้เรียกแบบกันเองว่า คุณจุ๊บ กรุณาสละเวลามาให้ข้อมูลการทำธุรกิจ ด้วยอัธยาศัยยิ้มแย้มกันเอง เริ่มต้นว่า ปัจจุบันมีหน้าที่การงาน เป็นพนักงานประจำแผนกประชาสัมพันธ์ของธนาคารมีชื่อแห่งหนึ่ง ส่วน Mushroom Cottage Farm หรือ “กระท่อมเห็ด ฟาร์ม” ธุรกิจหัวข้อสนทนาครั้งนี้ เป็นอาชีพเสริมซึ่งลงทุนร่วมกับ คุณกุ๊ก-ปรียนันท์ แสงดี เพื่อนทำงานที่เดียวกัน

โดยย้อนไปเมื่อราวต้นปี 2554 เกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในที่ทำงาน หลายคนถูกเลิกจ้าง หลายคนไม่รู้ชะตากรรมตัวเอง อาจโดนซองขาว “เชิญออก” เมื่อไหร่ย่อมได้ ซึ่งเธอเองแม้ไม่ได้รับผลกระทบ แต่เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เกิดความรู้สึกไม่มั่นคง หากวันใดเกิดเหตุพลิกผันกับงานประจำที่ทำอยู่ จึงเริ่มหาอาชีพเสริมไว้สำรอง ศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจหลายตัว อย่าง ร้านกาแฟ สปา ร้านอาหาร เบเกอรี่ แต่รู้สึกว่ามีเปิดเต็มไปหมดทุกซอกทุกมุม

เลยหันมาศึกษาอาชีพเกี่ยวกับการทำเกษตร ทั้งที่ไม่มีพื้นฐานมาก่อน แต่ทางคุณยายและคุณน้า ที่อยู่เชียงใหม่ แนะนำให้รู้จักกับ “ฟาร์มเห็ด” ว่ามีความน่าสนใจ เก็บขายได้ทุกวัน แถมยังนำผลิตผลมาเพิ่มมูลค่าด้วยการแปรรูปได้อีกหลายรูปแบบ

“ตอนนั้นยอมรับว่าการทำเกษตรเป็นเรื่องไกลตัวมาก เพราะที่ผ่านมาดินไม่เคยขุด ปลูกต้นไม้ไม่เคยออกดอก มีวิถีชีวิตแบบคนเมืองส่วนใหญ่ แต่พอคิดว่าจะหันมาทำ พยายามศึกษาหาข้อมูลทุกอย่างเกี่ยวกับเห็ด เริ่มจากอินเตอร์เน็ตก่อนเลย” คุณจุ๊บ ย้อนความทรงจำ

ก่อนเล่าต่อ พอมีความรู้เรื่องเห็ด เข้าขั้น “ลึกซึ้ง” แล้ว ขั้นต่อไปเธอจึงพาตัวเองไปพบกับของจริง คือ ฟาร์มเห็ดแห่งหนึ่งในตัวเมืองพัทยา ก่อนเจรจาขอซื้อ “ก้อนเห็ด” มาทดลองปลูกข้างรั้วบ้าน ราว 10 ก้อน

คุณจุ๊บ เล่าต่อน้ำเสียงเหมือนยังตื่นเต้นอยู่

“ดูแลตามคำแนะนำตามที่เขาบอกทุกอย่าง ปรากฏเห็ดออกมาสวยพรึ่บ ตื่นเต้นมาก เพราะเป็นคนปลูกต้นไม้ไม่เคยออกดอก เลยเกิดแรงบันดาลใจ บอกกับตัวเองต้องเดินหน้าศึกษาอย่างจริงจัง”

จนทราบข่าวทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เปิดอบรมหลักสูตรการเพาะปลูกเห็ดทุกชนิดให้กับประชาชนทั่วไป ใช้เวลา 5 วัน เธอจึงขอลาพักร้อนมาเข้ารับการอบรมด้วยแบบไม่รอรี

 สรุป คุณจุ๊บ ใช้เวลากับการศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเห็ด ราว 6 เดือนเศษ จึงตัดสินใจลงทุน โดยชักชวนคุณกุ๊กมาร่วมลงทุนกัน ลงขันคนละ 400,000 บาท

จากนั้นจึงหาเช่าที่ดินย่านบางบัวทอง ขนาดกว่า 300 ตารางวา ลงมือก่อสร้างกระท่อมเห็ดหลังใหญ่จำนวน 3 หลัง บรรจุเห็ดหลังละ 5,000 ก้อน ประกอบด้วย เห็ด 3 สายพันธุ์ ได้แก่ นางฟ้าภูฏาน นางนวลฮังการี นางนวลชมพู และเห็ดเป๋าฮื้อ โดยจ้างแรงงานชายไว้ 1 คน

 

ใช้เวลาไม่นาน ได้ผลผลิตออกมาจำนวนมาก หากดีใจได้ไม่นาน สองสาวเจ้าของกิจการ มีอันต้องกุมขมับ เพราะไม่รู้จะนำไปขายที่ไหน

“เราเป็นพนักงานออฟฟิศ ไม่รู้หรอกว่าตลาดมีระบบยังไง เริ่มแรกเดินไปที่ตลาดบางบัวทอง แนะนำตัวกับแม่ค้าเหมือนนักการเมืองหาเสียง พี่คะหนูทำฟาร์มเห็ดค่ะ มีเห็ดมานำเสนอขาย ปรากฏไม่มีใครสนใจเลย เพราะทุกคนมีเจ้าประจำรับมาจากตลาดขายส่ง ไม่เคยรับจากฟาร์มโดยตรง” คุณจุ๊บ เล่าออกรส

ก่อนบอกต่อ เธอและคุณกุ๊ก จึงตัดสินใจไปขอเช่าแผงขายของจากตลาดบางบัวทอง เสียค่าใช้จ่ายวันละ 100 บาท เพื่อขายผลิตผลจาก “กระท่อมเห็ด ฟาร์ม” ของพวกเธอ โดยมีการนำหลักวิชาพีอาร์-มาร์เก็ตติ้ง มาช่วยเต็มที่ เริ่มจากการนำเห็ดมาบรรจุถุงพลาสติกกลมใสเก๋ไก๋น่ามอง ก่อนนำสติ๊กเกอร์แปะลงไปบอกถึงชื่อสายพันธุ์และสรรพคุณว่ามีอะไรบ้างเป็นการให้ความรู้กับผู้บริโภคไปในตัว

“วันแรกเอาเห็ดไปขาย แค่ 50 ถุง ถุงละ 2 ขีด เพราะกลัวขายไม่หมด ปรากฏคนมารุมซื้อกัน ของไม่พอขาย ต้องโทรศัพท์บอกเด็ก ให้แพ็กเห็ดมาลงเพิ่มด่วน อาจเพราะคนทานไม่เคยเห็นเห็ดแบบที่เก็บมาสดๆ ยังเป็นช่อสวย 100 กว่าถุงขายหมดภายใน 2 ชั่วโมง”

“จำได้วันนั้น ขายได้เงิน 2,000 กว่าบาท 2 คนกำเงินกันแน่นไม่ยอมปล่อย หวงยิ่งกว่าอะไร รู้สึกภูมิใจ กว่าจะได้แต่ละบาท มันมีค่ามาก” คุณจุ๊บและคุณกุ๊ก ผลัดกันเล่าเสียงปลื้ม

และว่าหลังจากนั้นเป็นต้นมา เธอไม่ต้องไปเป็นแม่ค้าจำเป็นอีก เพราะทุกวันนี้เจ้าของแผงผักที่เคยปฏิเสธ วิ่งมารับซื้อถึงหน้าฟาร์มเองแล้ว

 ปัจจุบัน Mushroom Cottage Farm กิจการเติบโตขึ้นตามลำดับ นอกจากจะจำหน่ายดอกเห็ดปลอดสาร 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งสายพันธุ์ดังเอ่ยมาข้างต้นแล้ว ยังมีก้อนเห็ดคุณภาพ กระเช้าก้อนเห็ดเพื่อสุขภาพ ช่อดอกเห็ด กระท่อมเห็ดจิ๋ว รวมทั้งยังเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้เพื่อชุมชนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย และเปิดสอนวิชาเพาะเห็ดแก่บุคคลทั่วไปที่สนใจนำไปประกอบเป็นอาชีพ เป็นหลักสูตรเน้นปฏิบัติโดยวิทยากรผู้คร่ำหวอดในวงการเห็ดมายาวนานกว่า 20 ปี

นึกสงสัยไม่กลัวใครต่อใครมาแย่งอาชีพหรือ คุณจุ๊บและคุณกุ๊กยิ้มกว้าง ก่อนช่วยกันตอบเสียงดังฟังชัด

“หลายคนอยากได้ความรู้แต่ไม่มีใครถ่ายทอด เราเองเป็นมนุษย์เงินเดือน ที่เคยต้องการหาอาชีพเสริม พอมีแล้วก็อยากให้คนมาที่นี่มีอาชีพติดตัวกลับไป เพราะเชื่อว่าคนทุกคนสามารถนำความรู้ที่ได้ไปปรับให้เข้ากับความถนัดของตัวเอง บางคนอาจไปแปรรูปทำยาสระผมจากเอนไซม์เห็ด บางคนอาจไปทำเห็ดสามรส บางคนไปทำก้อนเห็ดขาย ไม่จำเป็นต้องมาแย่งอาชีพกันเสมอไป”

สองสาวคนขยัน บอกด้วยว่า การที่ฟาร์มเห็ดของเธอมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ประจำ ทำให้ไม่ต้องกังวลในเรื่องของการปลูกและการบำรุงดูแล พวกเธอจึงหันมาทำเรื่องที่ถนัดคือ งานด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์

“ใช้หลัก 4p มาช่วยเรื่องการตลาด อย่าง ช่วงเทศกาลปีใหม่ มีกระเช้าเพื่อสุขภาพมาจำหน่ายแทนกระเช้าแบบเดิมๆ พอถึงวันวาเลนไทน์ ทำเห็ดนางนวลสีชมพูให้เป็นช่อบูเก้ใช้แทนกุหลาบ เป็นการสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค” เจ้าของกิจการ ว่าอย่างนั้น

ก่อนจาก สองสาว บอกว่า อาชีพปลูกเห็ด ทำไม่ยากถ้ารักจะทำ สามารถเลี้ยงตัวได้ยั่งยืนเหมือนอาชีพปลูกผักทั่วไป แถมยังมีผลผลิตต่อเนื่อง หากได้รับการดูแลที่เหมาะสม ช่วงไหนมีผลผลิตมากสามารถนำมาแปรรูปได้หลายแบบ

“อาชีพเสริมของเรานี้ แม้จะไม่ทำให้ร่ำรวย แต่ทำแล้วมีความสุข ได้อยู่กับธรรมชาติ และยังสามารถทำให้คนมีอาชีพเพิ่มขึ้นด้วย” คุณจุ๊บและคุณกุ๊ก ฝากไว้อย่างนั้น

 สนใจผลิตภัณฑ์หรือต้องการเข้ารับการอบรมทั้งแบบศึกษาดูงานและนำไปประกอบอาชีพ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Mushroom Cottage Farm (กระท่อมเห็ด ฟาร์ม) ซอยวัดเล่งเน่ยยี่ 2 (ตรงข้ามโรงเรียนบางบัวทอง) โทรศัพท์ 081-903-1331 หรือ Facebook.com/MushroomCottageFarm

ภาพประกอบ : Facebook.com/MushroomCottageFarm