เมื่อไม่นานมานี้ “เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” มีโอกาสเยี่ยมชมวิสาหกิจชุมชนแปรรูปผลิตภัณฑ์กาแฟคั่วมือ  หรือ “ก้อง วัลเลย์”  ซึ่งตั้งอยู่ในหุบเขาบ้านบกราย ตำบลบางน้ำจืด อำเภอกระบุรี  สถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตรแห่งนี้มีจุดขายอยู่ที่ “ความดั้งเดิม” ซึ่งว่ากันว่ามีพลังดึงดูดมหาศาล และทำให้ไม่ต่ำกว่า 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกเดินทางมาศึกษาดูงานแล้วนับได้หลายหมื่นคน

คุณก้อง – สุพจน์ กรประสิทธิ์วัฒน์ ประธานผู้ก่อตั้ง “ก้อง วัลเลย์” ในฐานะเจ้าบ้าน  แนะนำตัวให้รู้จักกันมากขึ้น วิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ เป็นการรวมกลุ่มกันของเกษตรกรผู้ปลูกกาแฟในพื้นที่จังหวัดระนอง ซึ่งเชื่อว่าเป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้า มีคุณภาพและรสชาติดีไม่แพ้ใคร

โดยรูปแบบการทำงาน นับแต่การปลูก การเก็บเมล็ด การตาก การบ่ม ไล่ไปจนถึงการคั่ว นั้นเลือกใช้กรรมวิธี “โบราณที่สุดในโลก” โดยเฉพาะการคั่วนั้น เป็นที่กล่าวขานถึงในหมู่ชาวคอกาแฟอย่างมาก เพราะพวกเขาเลือกใช้วิธี “คั่วด้วยมือ” ในกระทะเหล็กใบเล็กๆ เมื่อได้ที่ จึงนำไปบดด้วยมืออีกครั้ง ก่อนบรรจุถุง ทำให้ผลิตภัณฑ์แบรนด์ “ก้อง กาแฟ” นั้นมีรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และมีลักษณะเฉพาะตัว

“กลุ่มของเราเป็นเกษตรกรซึ่งการทำงานคนละที่ แต่ทุกคนได้เข้ามาเรียนการแปรรูป รู้จักการเพิ่มมูลค่า ซึ่งไม่ได้ยากเย็นอะไร ทำให้สมาชิกมีของเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนทุกวันนี้สามารถสร้าง Our Market หรือ ตลาดของเราเองได้ คือเราสามารถปลูกเอง คั่วเอง ขายเอง และกำหนดราคาเอง ไม่ต้องรอให้ใครมากำหนดให้เหมือนสินค้าเกษตรอื่นๆ” คุณก้อง อธิบายคล่องปรื๋อตามสไตล์

ก่อนบอกต่อ ผงกาแฟโรบัสต้า แบรนด์ “ก้อง กาแฟ” ปัจจุบันเป็นที่รู้จักของตลาดต่างประเทศมากกว่าในเมืองไทย และส่งไปขายมาแล้วทั่วโลก อย่าง  ซีแอตเติล นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ฯลฯ ส่วนลูกค้าในประเทศ สัดส่วนประมาณ  20 เปอร์เซ็นต์  มีทั้งร้านกาแฟชื่อดัง และโรงแรมระดับ 4-5 ดาว

คุณก้อง บอกอีกว่า ที่ผ่านมามักมีคนถาม ลูกค้ารู้จักเราได้อย่างไร ตน บอกเลยไม่ใช่เรื่องยาก ทุกวันนี้เป็นยุคไอที โลกแคบลงมากแล้ว  เกษตรกรผู้ปลูกสามารถติดต่อตกลงราคาซื้อขายได้โดยตรงกับผู้ซื้อ โดยไม่ต้องอาศัยพ่อค้าคนกลางอีกต่อไป

“มีคนเรียกผมว่า เกษตร อินดี้ หรือ เกษตร อินดีเพนเดนท์ คือ มีอิสระ มีแนวคิด มีคำตอบก่อนว่า เราปลูกเพื่ออะไร เพื่อบริโภค เพื่อแปรรูป เพื่อจัดการ ถ้าทำแบบนี้จะได้ปลดล็อกให้คนรุ่นหลังเป็นเกษตรกรมีอนาคต  ไม่ใช่ปลูกเพื่อเอาผลผลิตป้อนตลาดอย่างเดียว แต่สามารถแปรรูปเองได้แบบง่ายๆ เปิดเป็นร้านกาแฟของตัวเองได้ สร้างแบรนด์ของตัวเองได้” เจ้าของ ก้อง กาแฟ เล่าออกรส

ถามถึงการคั่วกาแฟ แบบแฮนด์เมดร้อยเปอร์เซ็นต์ ที่เป็นชื่นชอบของนักท่องเที่ยวทั้งไทย-ต่างชาติ จนกลายเป็น “จุดขาย” สำคัญ คุณก้อง ตอบเสียงเรียบ พวกเขาไม่ได้ใช้วิธีการที่แปลกใหม่อะไร ทำเรื่องปกติดั้งเดิมที่สุดในโลกเท่านั้นเอง

เพียงแต่ผู้คนส่วนใหญ่อาจหลงลืมกันไปว่า พื้นฐานการคั่วกาแฟแต่เดิมนั้น เริ่มมาจากการคั่วด้วยมือ ฉะนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่ตนจะใช้กรรมวิธีโบราณแบบนี้ แต่ทุกวันนี้เรามักเห็นแต่ร้านกาแฟไฮ-เอนด์ ร้านกาแฟโมเดิร์น ที่ใช้เครื่องคั่วแพงๆ

“เราไม่ได้คั่วกาแฟโบราณ แต่ใช้วิธีการคั่วกาแฟที่เหมือนคนโบราณซึ่งเก่าแก่ที่สุดในโลก และในความเป็นจริงเมล็ดกาแฟกำมือเดียวนำไปคั่วในกระทะ สามารถชงเลี้ยงคนได้เป็นสิบ หมายความว่ากาแฟไม่ได้มีต้นทุนที่สูงอะไรเลย แต่คนที่ดื่มอาจต้องจ่ายกันแพงๆ นั้น จึงเป็นการจ่ายให้กับค่าภาพลักษณ์ที่ถูกสร้างขึ้นมามากกว่า” คุณก้อง ว่าอย่างนั้น

เกี่ยวกับความตั้งใจในอนาคต เจ้าของเรื่องราว ท่านเดิม บอก พวกเขาเริ่มต้นจากการคั่วกาแฟขายได้ ปีละ 100 กิโลกรัม ปัจจุบันมีออร์เดอร์รวมตลอดปีไม่ต่ำกว่า 10 ตัน หรือ 10,000 กิโลกรัม  นั่นหมายความว่าภายในระยะเวลา 4 ปี วิสาหกิจชุมชนแห่งนี้ เติบโตเป็นร้อยเท่าตัว และในอีก 3 ปีข้างหน้า จึงตั้งเป้าหมายไว้จะพัฒนาคุณภาพของเมล็ดกาแฟ ให้ดีคงที่ และจะสร้างยอดสั่งซื้อให้ได้ไม่ต่ำกว่าปีละ 200 ตัน

ผงกาแฟโรบัสต้า แบรนด์ “ก้อง กาแฟ”  มีผลิตัภัณฑ์กาแฟคั่วมือ เลือกระดับการคั่วได้  คือ  Medium Roast (แบบคั่วกลาง) และ  Dark Roast (คั่วแบบเข้ม)  ทั้งสองแบบมีขนาด 250 กรัม บรรจุถุงกระสอบ ราคาจำหน่ายถุงละ 250 บาท

สนใจผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากเกษตรกรอินดี้ท่านนี้ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ คุณก้อง – สุพจน์ กรประสิทธิ์วัฒน์ เลขที่  62/1 หมู่ที่ 8 ตำบลน้ำจืด อำเภอกระบุรี จังหวัดระนอง 85110  โทรศัพท์  (095) 414-9952 และ Facebook/Gong Coffee