เมื่อวันก่อน ตอนไปเดินเล่นในอีเวนต์กลางห้างดัง เห็น “พ่อค้าหน้าหนวด” บุคลิกแบบฉบับเด็กรุ่นใหม่  กำลังขมีขมันปั่นเครื่องบดปลาหมึกย่าง เลยปรี่เข้าไปสั่งเมนูโปรด  ระหว่างรอจึงชวนคุยฆ่าเวลา

ได้ความมาว่า พ่อค้า “เด็กแนว” ผู้ที่อยู่ตรงหน้ามีชื่อว่า คุณเบียร์ – ศาสตรา ถนอมลาภ อายุยี่สิบกว่าๆ ส่วนอาชีพนี้ เริ่มต้นมาได้สองปีกว่าแล้ว ปัจจุบันขายประจำอยู่ที่ตลาดนัดมะลิ เมืองทองธานี แต่ก่อนหน้านี้เคยขายที่ตลาดนัดหัวมุม ย่านเกษตร-นวมินทน์ มาก่อน

สำหรับประวัติความเป็นมาส่วนตัว คุณเบียร์ เล่าพลางบดปลาหมึกไปด้วย สรุปความได้ว่า  จบปวช.ช่างยนต์ จากวิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง  หลังเรียนจบตอนอายุได้ 18 ปี เคยทำงานเป็นพนักงานที่ร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังอยู่ได้ประมาณ 5 ปี  พออายุ 23 ปี ลาออกมาขายของรองเท้ามือสอง

“ตอนทำงานในร้านอาหาร เกือบได้เป็นผู้จัดการแล้ว แต่รู้สึกเบื่อ ต้องอยู่กับที่ ไม่สนุกกับงาน เลยลาออกมาขายของตามตลาดนัด  ไปมาหมดแล้วตั้งแต่ รัชดาไนท์ ตลาดรถไฟ จตุจักรกรีน ”คุณเบียร์ เล่าประสบการณ์ที่ผ่านมา

ก่อนบอกต่อ สินค้าก่อนหน้านี้ เป็นพวกรองเท้า-เสื้อผ้ามือสอง ส่วน “ปลาหมึกบด”นี้ เพิ่งเริ่มขายเมื่อราวสองปีก่อนที่ตลาดหัวมุม ส่วนเหตุผลที่หันมาขายปลาหมึกบดนี้ เนื่องจากเห็นว่าเศรษฐกิจไม่ค่อยดี คิดว่าหันมาขายของกินน่าจะดีกว่า

นึกสงสัยทำไมต้องเป็นปลาหมึกบด  คุณเบียร์ เล่าว่า

“ผมชอบกินอยู่แล้ว เลยคิดว่าขายสิ่งที่เราชอบน่าจะดีกว่า  นอกจากนี้ยังมีอยู่มีช่วงหนึ่ง ตอน ขายน้ำเฉาก๊วยข้างทาง ได้รู้จักรุ่นพี่คนหนึ่งเขามาออกกำลังกาย และนั่งคุยกัน ตอนนั้นผมไม่รู้จะขายอะไรดี เขาบอก ขายปลาหมึกบดสิ พี่ชอบกิน แต่ทุกวันนี้หากินยาก แป๊บๆก็ได้แล้วห้าร้อยบาท เลยลองคิดตาม ผมว่าน่าจะจริงอย่างพี่เขาว่า”

เมื่อตัดสินใจจะเป็น “พ่อค้าปลาหมึกบด”แล้ว คุณเบียร์ จึงเริ่มนับหนึ่ง ด้วยการ“ลองทำดู” ตั้งต้นจาก “เครื่องบดปลาหมึก” ซื้อจากหน้าห้างแมคโคร ราคา 1,300 บาท ส่วน ปลาหมึกแห้ง ไปตระเวนหาซื้อแถวตลาดสี่มุมเมือง กิโลกรัมละ 400 กว่าบาท

“ตอนนั้นผมยังไม่รู้เรื่องปลาหมึกแห้งมากนัก เลยซื้อแบบธรรมดาหนึ่งกิโลฯมีร้อยกว่าตัว ใหญ่บ้างเล็กบ้าง แต่พอย่างแล้วลองบด ปรากฎมันออกมาไม่ดี ไม่ยาว ไม่นิ่ม ตอนนั้น ใช้ทั้ง ไฟอ่อน ไฟแรง ลองผิดลองถูก หมดไปร้อยกว่าตัว ก็ยังไม่เวิร์ค กระทั่งไปหาซื้อปลาหมึกแห้งปลาหมึกเกรดดีที่สุดจากเยาวราช กิโลฯละ 800 กว่าบาท แพงกว่าที่เคยเอามาลองสองเท่า แต่รสชาติดีกว่าเยอะ เลยเลือกใช้ของดีแต่นั้นมา”คุณเบียร์ เผยบทเรียนในอาชีพแบบไม่หวงวิชา

ก่อนบอกด้วยว่า ปลาหมึกบด กิโลกรัมละ 800 กว่าบาท นั้น  จะมีตัวใหญ่บ้านง ตัวเล็กบ้าง ปะปนกันมา ก่อนนำออกขายจึงต้องนำมาคัดไซส์ก่อน ซึ่งปลาหมึกต้นทุนซื้อมากิโลฯละ 800 กว่าบาทนี้ หากขายหมดจะได้เงินกว่า 2 พันบาทเลยทีเดียว

“บดไปกินไป กว่าจะมั่นใจออกมาขายก็หมดไปหลายกิโลฯเหมือนกันครับ  ความยากของอาชีพนี้ อยู่ตรงที่ การบด จะให้คนไม่เคย มาบดแล้วได่เลยคงทำไม่ได้ มันต้องมีเทคนิค ต้องคอยหมุน คอยดึง แรงผุ้ชาย แรงผู้หญิง ไม่ต่างกัน แต่ต้องรู้เทคนิค ซึ่งถ้าให้สอนก็ยากเหมือนกัน ของแบบนี้ต้องลองทำเอง”คุณเบียร์ บอกมาอย่างนั้น

เมื่อถามถึงป้ายร้านที่ตั้งเด่นอยู่ข้างรถบดปลาหมึก คุณเบียร์ อธิบายยิ้มๆ

“สิ้นคิดโภชนา คิดตั้งชื่อนี้มาตั้งแต่แรกเลย  เหตุผลคือ ผมมองว่า การขายปลาหมึกบดนี้เป็นอาชีพที่หลายคนมองข้ามว่าจะขายได้จริงหรือ ทั้งที่ความจริงแล้ว สามารถเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงครอบครัว ได้สบายๆเลยครับ”

ปัจจุบันนอกจาก ปลาหมึกบด “สิ้นคิดโภชนา” ของพ่อค้าเด็กแนวท่านนี้ จะอยู่ประจำที่   ตลาดนัดมะลิ เมืองทองธานี แล้ว ยังรับออกอีเวนต์ตามงานต่างๆ ราคาเริ่มต้น 4,000 บาท (ไม่รวมค่ารถ) จะได้ปลาหมึกแห้งไซส์ 20 บาท จำนวน 200 ตัว  สนใจโทรศัพท์สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณเบียร์ โทรศัพท์ 086-379-7959