เสียงสะท้อนจากผู้ประกอบการ : ภัยจากธรรมชาติ และ ภัยจากตัวผู้ผลิตเอง

“เราไม่ได้ผันตัวมาเป็นเกษตรกร แต่เราเป็นเกษตรกรตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว” คำพูดของ เจ๊นิด-พุธชาติ ลาภผล อายุ 50 ปีต้นๆ เจ้าของร้านทุเรียนน้องนิด ระยองฮิ! 

กระแสทุเรียนตอนนี้กำลังมาแรง และมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเรื่องของทุเรียนไทยตีตลาดจีน เพราะคนจีนรู้สึกว่าทุเรียนจากประเทศไทยมีรสชาติที่กลมกล่อม หรือแม้แต่ทุเรียนเวียดนามเข้ามาเป็นคู่แข่งแย่งส่วนแบ่งทางการตลาด และสภาพอากาศ

แต่วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้มีโอกาสไปนั่งคุยกับเจ๊นิด ในมุมผู้ประกอบการ ทำให้เห็นถึงมุมมอง แนวคิด ของเธอ และไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุเรียนเจ๊นิด ถึงไม่เคยหายไปจากกระแสเลย

ภัยจากธรรมชาติ

สภาพอากาศต้องบอกว่ามีผลอย่างมากในการทำการเกษตร เพราะผลผลิตจะไม่ได้ตามยอดที่ตั้งเอาไว้ อย่างปีนี้ที่สภาพอากาศค่อนข้างสร้างผลกระทบต่อผลผลิตอย่างมาก ผลผลิตลดลงไปถึง 80% เลยทีเดียว 

นอกจากอากาศที่แปรปรวนแล้ว ศัตรูพืชก็สำคัญเช่นกัน อย่าง แมลง ก็มีการพัฒนามากขึ้น ทั้งมีโรค กินใบ กินต้น เพราะฉะนั้น คนจะต้องพัฒนาและศึกษากับธรรมชาติให้มากขึ้น 

ภัยจากตัวเอง  

ในมุมของเจ๊นิด เธอมองว่า รัฐบาลก็มีส่วนช่วยในการผลักดันอยู่ตลอดๆ แต่จุดที่สำคัญที่สุด คือตัวผู้ผลิตเอง ว่าจะมีความซื่อสัตย์มากแค่ไหน ทำตามความต้องการของตลาดเขาหรือไม่ อย่าง ตลาดต้องการทุเรียน 80% แต่ผู้ผลิตไปตัดให้แค่ 50% สุดท้ายก็ไม่ผ่าน และโดนปัดตก

“ถึงเขาจะผลักดันให้ตาย แต่ถ้าเราไม่ใส่ใจเรื่องคุณภาพ เราก็ไปไม่รอดหรอก” เจ๊นิด กล่าว

มุมมองของเธออาจสรุปได้ว่า ตัวผู้ประกอบการหรือผู้ผลิตเอง ต้องมีความซื่อสัตย์ต่ออาชีพของตน ถึงแม้จะมีหน่วยงานใด หรือใครก็ตามเข้ามาผลักดัน แต่ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์และไม่ใส่ใจในเรื่องของวัตถุดิบให้ได้มาตรฐาน สุดท้ายก็ไปไม่รอด

อย่างไรก็ตาม เสียงสะท้อนของแม่ค้าทุเรียนในครั้งนี้ อาจจะเป็นข้อคิดเตือนใจให้กับผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการท่านอื่นๆ ได้