อาร์ตทอยสายมู พระพิฆเนศ ฝีมือคนไทย ผลิตไม่ทัน เด็กเจนใหม่แห่เช่าบูชา

อาร์ตทอยสายมู พระพิฆเนศ ฝีมือคนไทย ผลิตไม่ทัน เด็กเจนใหม่แห่เช่าบูชา

อาร์ตทอยกับสายมู สองอย่างที่แตกต่างกันสุดขั้ว แต่เมื่อได้นำมารวมกันแล้ว กลับลงตัวอย่างบอกไม่ถูก ผนวกกับความชอบจนกลายเป็นอาร์ตทอยสายมูองค์เทพ ที่มีความพิเศษกว่าที่อื่น นั่นคือ องค์เทพ เปลี่ยนมือได้

คุณหมู-สุวัฒน์ จันทร์พราหมณ์ เจ้าของแบรนด์ Gajanaya ได้เผยเรื่องราวของเส้นทางสายนี้กับเรา โดยบอกว่า ไม่ว่าจะมีปัญหาอะไร ก็จะขึ้นไปขอพรจากองค์พระพิฆเนศที่บูชานับถืออยู่แล้วที่บ้าน ซึ่งต้องบอกว่าเขาเป็นคนที่ขอเยอะ แต่มูไม่เก่ง ด้วยอะไรก็ตามที่ขอไป ไม่ว่าจะปัญหาชีวิต ปัญหาเรื่องงาน ก็มักจะได้และประสบผลสำเร็จอยู่เสมอ จึงทำให้ คุณหมูตัดสินใจที่จะทำอะไรสักอย่างเพื่อเป็นการตอบแทน

คุณหมู-สุวัฒน์ จันทร์พราหมณ์ เจ้าของแบรนด์ Gajanaya

จุดเริ่มต้นของ Gajanaya

เดิมที คุณหมู-สุวัฒน์ จันทร์พราหมณ์ เจ้าของแบรนด์ Gajanaya เปิดบริษัทและเป็นโปรแกรมเมอร์อยู่แล้ว หากพูดถึงงานประจำกับอาร์ตทอยสายมูนี้ ค่อนข้างที่จะไปคนละทาง แต่อย่างที่บอกว่าเขาเป็นคนชอบขอพรจากองค์พระพิฆเนศ แต่ไม่ค่อยได้มูอย่างเคร่งครัดสักเท่าไหร่ จึงทำให้เกิดความรู้สึกว่าต้องทำอะไรที่เป็นการตอบแทน และทำให้มีคนมามูองค์พระพิฆเนศมากขึ้น

สิ่งนี้จึงเป็นการจุดประกายในการสร้างองค์เทพขึ้นมา แต่รูปแบบขององค์เทพที่สร้างขึ้นมานั้น ไม่ได้เหมือนกับที่เราเคยเห็น เพราะจากที่เห็นได้ทั่วๆ ไป จะมีความน่าเกรงขาม แต่สำหรับคุณหมูแล้ว เริ่มจากความชอบ จึงคิดออกแบบมาเรื่อยๆ โดยหยิบคำว่า อาร์ตทอยกับสายมู มาผสมผสานกัน 

อย่างที่เราสงสัยกัน สายมูกับอาร์ตทอย ทั้ง 2 สิ่งนี้มันจะไปด้วยกันได้จริงหรือ แต่สำหรับคุณหมูแล้ว ไม่มีข้อกังขาใดๆ ที่จะมาขัดขวางความลงตัวสำหรับ 2 สิ่งนี้ได้เลย เพราะเขาเชื่อว่าทั้ง 2 สิ่งนี้มันเข้ากันได้

ด้วยตอนนี้วงการอาร์ตทอยค่อยๆ เริ่มมีการปรับตัวมากขึ้น สายมูเริ่มมีการตีตลาดเป็นวงกว้าง ทำให้คนเริ่มสนใจ จึงต้องคิดดัดแปลงและหาความเป็นตัวเองแล้วปรับให้เข้ากับสายมูอย่างแท้จริง ซึ่งสิ่งที่เราจะเห็นได้เยอะมากคือ องค์พระพิฆเนศ

ความแตกต่างที่สร้างรายได้มากขึ้น

หากพูดถึงองค์เทพที่เราบูชาโดยทั่วไป ก็จะเป็นองค์ที่ดูน่าเกรงขาม เหมาะสำหรับนำไปตั้งบูชาอย่างจริงๆ จังๆ แต่สำหรับคุณหมูแล้ว มีคอนเซ็ปต์ที่โดดเด่น และเป็นตัวเองมาก เพราะ Gajanaya มีความต้องการให้คนมององค์เทพในอีกมุมหนึ่ง จากที่เคยดูน่าเกรงขาม ปรับเปลี่ยนมุมมองให้ดูน่ารักขึ้น 

ตอนที่ออกแบบ เขามีความคิดที่จะทำให้งานของเขา สามารถวางไว้บนโต๊ะทำงานได้ วางในออฟฟิศได้ หรือคนที่ไม่ได้เป็นสายมูขนาดนั้น ก็สามารถมองให้เป็นของประดับได้ สิ่งเหล่านี้จึงทำให้คนเข้าถึงง่าย และจับกลุ่มตลาดวัยรุ่นหรือคนทำงานเป็นหลัก

ไม่เพียงรูปแบบขององค์เทพที่มองดูแล้วเข้าถึงง่ายขึ้นเท่านั้น คุณหมู กล่าวเสริมกับเราต่ออีกว่า เขาได้เพิ่มกิมมิกต่างๆ เข้าไป โดยทำให้องค์เทพสามารถเปลี่ยนของมงคลที่ถือได้ ซึ่งปกติแล้ว เขาเชื่อว่าในชีวิตคนเราไม่ได้อยากจะมีด้านใดด้านเดียวเป็นหลัก หลายๆ คนยังต้องการอะไรอีกมากมาย 

องค์เทพเปลี่ยนมือของคุณหมู จึงตอบโจทย์ความต้องการเหล่านี้ได้ดีมาก เพราะได้ทำของถือมงคลออกมา 3 ด้านคือ การงาน การเงิน ความรัก โดยทั้ง 6 มือนี้สามารถเปลี่ยนได้ตลอด ซึ่งใช้การออกแบบที่เป็นแม่เหล็กยึดไว้ ให้สามารถถอดเปลี่ยนได้

“พอคนเห็นแล้วจะแบบ เอ๊ย ดีจังเลย คนบางคนก็จะชอบ ก็มีความเป็นเหมือนทอยด้วยนะ ผมเชื่อว่าทุกคนยังมีความเป็นเด็กในตัวอยู่แหละ พอเห็นอะไรพวกนี้ก็จะกลายเป็นว่าได้มูด้วย ได้ของเล่นมาด้วย ก็เลยได้ไปพร้อมกัน คนก็เลยสนใจขึ้นเยอะด้วยครับ” คุณหมู เล่า

ครั้งแรกที่นำไปวางจำหน่ายที่พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร ไม่ได้คาดคิดว่ากระแสตอบรับจะมีมากถึงขนาดนี้ ในวันแรก นำไปเพียง 25 กล่อง ซึ่งราคาชุดละ 3,000 บาท หมดภายในพริบตา จนต้องให้เพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัดรีบส่งที่เหลือมาโดยเร็ว รวมๆ แล้ว 3 วันขายได้ถึง 60 กล่อง

จากครั้งนั้น แม้จะเปิดตัวได้ไม่นานจนมาถึงปัจจุบันนี้ประมาณ 1 ปี ทำให้คนเริ่มรู้จัก Gajanaya เพิ่มมากขึ้น และได้ทำการผลิตรุ่นใหม่ๆ ออกมา จนปัจจุบันมีอยู่ด้วยกันถึง 3 รุ่น โดยจะเป็นองค์พระพิฆเนศทั้งหมด ต่างกันที่สี รุ่นแรกจะเป็นสีทอง รุ่นที่ 2 จะเป็นองค์สีขาว แล้วของมงคลจะเป็นสีทอง และรุ่นล่าสุดที่เปิดพรีออร์เดอร์ไป เป็นองค์สีขาว ของมงคลสีทอง แต่ที่เพิ่มจะเป็นฐานดอกบัวสีทองขึ้นมา

 

เห็นว่าธุรกิจนี้แม้จะเป็นอาชีพเสริมจากงานประจำ แต่รายได้ไม่น้อยเลยทีเดียว คุณหมู บอกกับเราว่า 

“เงินโอเคเลยนะ มันเทียบกับงานประจำได้เลย

ด้วยเม็ดเงินที่สวยงาม ทำให้ธุรกิจนี้ดำเนินต่อไปข้างหน้าได้อย่างก้าวกระโดด คิวงานตอนนี้ถือว่าแน่นและเต็มมาก เปิดจองรุ่นใดก็เต็มจนผลิตแทบไม่ทัน เพราะด้วยองค์เทพที่ผลิต เป็นงานแฮนด์เมด ต่อให้มีทีมช่วย แต่ด้วยกระแสที่มาแรงจนยั้งไม่อยู่ ทำให้การผลิตไม่ทันต่อความต้องการของลูกค้า 

“จริงๆ ใจเราอยากจะตุน แต่ไม่ได้คิดว่ากระแสมันจะเยอะถึงขนาด 99 องค์ จะหมดตั้งแต่แรก เราก็อยากให้คนเข้ามาแล้วแบบมีของพร้อมส่งนะ แต่กลายเป็นว่าพอกระแสมันเข้ามา ไม่ทันเลย” คุณหมู กล่าวเสริม

อาร์ตทอยองค์เทพ ศักดิ์สิทธิ์จริงหรือ

ด้วยภาพที่เราเห็นว่าองค์เทพที่เป็นการออกแบบเป็นอาร์ตทอย ทำให้อาจเกิดความสงสัยว่า แล้วถ้าเราเช่าไปจะมีความศักดิ์สิทธิ์ไหม หรือจะเป็นเพียงแค่ของเล่นเฉยๆ 

ไม่ต้องกลัว เพราะทางด้านของคุณหมูการันตีว่าองค์เทพที่ผลิตออกมาทุกรุ่น ผ่านการทำพิธีเบิกเนตรมาแล้วทั้งหมด ทั้งนี้ การจะมีความศักดิ์สิทธิ์นั้นขึ้นอยู่กับความศรัทธาของแต่ละคนด้วย

“ต่อให้เราทำพิธีไปแล้ว คือคนที่เขาชอบแล้วเขาเชื่อจริงๆ เขาก็จะแบบ อ๋อ องค์นี้ทำพิธีเบิกเนตรมาแล้วนะ สามารถนำไปมูได้เลย คนที่ยังไม่ได้มูจ๋า เราก็จะบอกเขาว่า จริงๆ ต่อให้เราทำพิธีมาแล้ว ถ้าคุณแบบอาจจะแค่ชอบงานเราหรืออยากเอาไปตั้งแล้วให้มันดูแบบมีความนู่นนี่นั่นบ้าง 

ก็จะบอกเขาว่า สุดท้ายมันอยู่ที่ความเชื่อ ถ้าเราเชื่อว่าเขามีแล้วเราศรัทธา มันก็น่าจะเหมือนเติมเชื้อเข้าไปทุกวันๆ แต่ถ้าเรามองว่าเราไม่ได้ศรัทธาขนาดนั้น เราแค่ชอบงาน เขาก็จะเป็นแค่ก้อนเรซิ่น ที่อยู่ตรงนั้น ที่เป็นของสวยงาม” เขาเล่า

เขาได้เล่าเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับองค์เทพให้เราฟัง โดยเล่าว่า เมื่อประมาณรุ่นที่ 2 เป็นวันส่งออร์เดอร์ให้ลูกค้าพอดี แล้วเป็นวันที่ตรงกับหวยออก วันนั้นที่ส่งประาณ 3 ที่ ทุกคนที่ได้ไปทักมาบอกว่า ได้รับองค์พ่อแล้ว พอตอนเย็นก็ถูกหวยพร้อมกัน 3 คน ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจอยู่พอสมควร

“เราเชื่อว่า เขาอาจจะมีดวงอยู่แล้ว อาจจะมีดวงที่จะถูก หรืออะไรพวกนี้ อาจจะอยู่ที่ 80% แล้ว ของเราอาจจะเป็นส่วนที่ไปเติม 10% 20% ผมว่ามันก็เลยส่งเสริมกันเข้าไป” คุณหมู กล่าว

 

จากจุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่ความสุขที่ยิ่งใหญ่

จากชีวิตที่ไม่คิดว่าจะมาถึงจุดนี้ จากที่มีงานประจำอยู่แล้ว กลับต้องมาทำอาชีพนี้เป็นงานเสริม แต่เป็นงานเสริมที่ตอบโจทย์ในตัวคุณหมูในทุกมิติ เพราะสิ่งที่ทำ มันได้กับตัวเขาเอง ทั้งความสนุก รายได้ที่มากขึ้น 

แม้บางครั้งอาจเบื่อจากงานประจำ แต่พอหันมาเจองานนี้ กลับทำให้ชีวิตที่น่าเบื่อกลายเป็นชีวิตที่สนุก เพราะการได้ทำงานในสิ่งที่รัก ต่อให้งานจะเยอะแค่ไหน มันก็จะมีความสุข และไม่เบื่อกับงานนั้นๆ แน่นอน

หากใครสนใจอยากจะเช่าบูชาพระพิฆเนศ สามารถเข้าไปติดตามได้ที่เพจเฟซบุ๊ก Gajanaya ได้เลย

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2566