สมุย เครียดหนัก บ.ทัวร์ ชี้ บับเบิ้ล โมเดล เอสเอ็มอี อาจได้แค่ เศษเนื้อข้างเขียง

คุณศิราณี อนันตเมฆ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เดอะ กลอรี่ เวิลด์ไวด์ ทราเวิล จำกัด กิจการรับจัดทัวร์ในประเทศ (inbound) ภาคพื้น เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า จังหวัดสุราษฎร์ธานี และ จังหวัดชุมพร จังหวัดนครศรีธรรมราช ให้สัมภาษณ์ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ว่า บริษัททัวร์ของเธอ มีรายได้เป็นศูนย์ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม ที่ผ่านมา และเท่าที่คุยกับลูกค้าต่างประเทศ แผนการท่องเที่ยวทั่วโลกทุกวันนี้ คิดกันแบบ วันต่อวัน เมื่อใดที่มีข่าวผู้ป่วยโควิดเพิ่มจำนวน จะส่งผลกระทบถึงการท่องเที่ยวของลูกค้าเป้าหมายทันที ความฝันที่ว่านักท่องเที่ยวจะมาก็สลาย สถานการณ์เป็นอย่างนี้มาหลายเดือนแล้ว

“ลูกค้าหลักของเรา มาจาก อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน และ เยอรมนี ถามว่า ถึงวันนี้บริษัทยังอยู่ไหวมั้ย ไม่ไหวค่ะ ช็อกนิ่งไปเดือนนึง ก่อนตัดสินใจเรียกประชุมลูกน้องทั้ง 25 คน  สำรวจมีเงินสดเท่าไหร่ มีลูกหนี้เท่าไหร่ มีเจ้าหนี้เท่าไหร่ นำมาเกลี่ยกันให้หมด เมื่อทุกอย่างหมด ก็แยกย้ายกันตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา  แต่บริษัทยังไม่ปิด เหลือลูกน้องไว้  1 คน ทำงานสัปดาห์ละ 3 วัน รับเงินเดือนครึ่งเดียว” คุณศิราณี บอกเล่าด้วยน้ำเสียงหม่นๆ

ก่อนเผยให้ฟังถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวบนพื้นที่เกาะสมุย ในฐานะที่เธอ ดำรงตำแหน่งรองประธานประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจังหวัดสุราษฎร์ธานี และกิจการทัวร์ของเธอ มีฐานอยู่บนเกาะสมุยมานานนับสิบปี ว่า เกาะสมุย เวลานี้ มีความตึงเครียดของผู้ประกอบการอย่างมาก เพราะลูกค้าหลัก 90 เปอร์เซ็นต์ เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ

“โรงแรมหลายแห่งบนเกาะสมุย ยังไม่ปิดตัว แต่ปิดการดำเนินการในหลายส่วน หลายกิจการที่ยังเปิดอยู่ เพราะไม่อยากให้ สมุยตาย และอยากคงสภาพโรงแรมไว้ ไม่งั้นจะกลายเป็นโรงแรมร้าง แต่การบริการแบบเต็มรูปแบบแทบไม่มี ตอนนี้ เกาะสมุย จึงพึ่งพิงลูกค้าคนไทย ช่วงโควิด โรงแรมที่ลูกค้าไทยเข้าพักอันดับต้นๆ มีอยู่ 5 โรงแรม ซึ่งโรงแรมเหล่านี้ ลงทุนกับอินฟลูเล็นเซอร์และบล็อกเกอร์ดังๆ บนโซเชียล หนักมาก นั่นหมายความว่า นักท่องเที่ยวไทย มาตามพฤติกรรมของคนดังในโซเชียลมีเดีย มาในช่วงนักขัตฤกษ์ และพักไม่เกิน 3 คืน” คุณศิราณี เผยอย่างนั้น

ก่อนบอกต่อ ที่สมุย มีความตึงเครียดหนักในเวลานี้ เพราะไม่คิดว่า ปัญหาโควิด จะส่งผลกระทบยาวนาน จนถึงปัจจุบัน ส่วนใหญ่มีปัญหากันตั้งแต่กลางเดือนมีนาคม เอเย่นต์ ปิดไม่ส่งลูกค้ามา โรงแรมระดับเอสเอ็มอี ที่ลงทุนโดยคนพื้นถิ่น พวกเขาไม่อยากปิด เพราะไม่อยากให้สมุยร้าง แต่ร้านรวงเล็กๆ ที่เป็นช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ ที่ขายต่างชาติโดยตรง ปิดตัวกันไปแล้วประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์

“หาดเฉวง ปิดไปแล้ว 95 เปอร์เซ็นต์ เหลือแต่ร้านสะดวกซื้อ กับ ร้านขายยาเล็กๆ ร้านอาหารขายต่างชาติ ปิดตัวเกินครึ่ง ร้านขายของที่ระลึก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนต่างถิ่น มาเช่าพื้นที่คนบนเกาะ หายหมดแล้ว ร้านกระจกปิด ไม่มีเสื้อผ้าข้างใน ย้ายของออกหมด กลับบ้านกันไปเลย” คุณศิราณี บรรยายบรรยากาศบนเกาะสมุย ยามนี้

เมื่อถามถึง “สมุย บับเบิ้ล โมเดล” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว ที่จะนำเสนอรัฐบาล คุณศิราณี บอก  ลูกค้าเป้าหมายของเกาะสมุย คือ อังกฤษ จีน เยอรมนี นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ส่วนใหญ่มักมาพัก 8-10 วัน  ออกทัวร์ไม่เกินสองทัวร์ คือ ทัวร์ทางทะเล กับ ทัวร์รอบเกาะ หากจะมีการทำ State Quarantine 14 วัน ไม่ได้ออกไหนเลย คิดว่า กลุ่มนี้คงไม่อยากมา ยกเว้นคนที่หวาดกลัวสถานการณ์ในประเทศตัวเองมากจริงๆ

“ถ้าเปิดไฟลต์ตรงมาเกาะสมุย ก่อนต้องกักตัว 14 วัน อาจมีนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่คงป็นจำนวนที่น้อยมาก ไม่เพียงพอกับผู้ประกอบการที่รอคอยอยู่หรอก และที่สำคัญนักท่องเที่ยวที่มากักตัว 14 วันได้ ต้องคนมีตังค์ด้วย ที่ผ่านมาคนมาอยู่เกาะสมุย 14 วัน มากมั้ย ไม่มากหรอก คิดเป็นเปอร์เซ็นต์แล้วน้อยมาก ถ้ามา State Quarantine ในโรงแรมสมุย 14 วันไปไหนไม่ได้ ถ้าคนไม่กลัวโควิดจริงๆ ไม่รู้จะมาทำไม หรือถ้ามาจริง รายได้ก็ไม่เข้าโรงแรมหรอก ไปเข้าวิลล่าเซอร์วิส ซะมากกว่า ซึ่ง 80 เปอร์เซ็นต์ ของวิลล่าเซอร์วิส มีเจ้าของเป็นต่างชาติ ขายทางออนไลน์ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รายย่อย คงมองตาปริบๆ กันไป” คุณศิราณี ระบุอย่างนั้น

คุณศิราณี บอกอีกว่า ถึงวันนี้ การท่องเที่ยว ที่เป็นตลาดหลักต่างประเทศ อย่าง ภูเก็ต กระบี่ พังงา สุราษฎร์ธานี เชียงใหม่ พัทยา  ยังไม่เห็นความชัดเจนจากนโยบายรัฐบาลเลย  ก่อนหน้านี้ เคยบอกจะทำ บับเบิ้ล ทราเวล แต่พอมาเจอกรณีที่จังหวัดระยอง ถึงกับไปไม่เป็นกันเลย

“ก็เห็นใจรัฐบาลนะ ตราบใดที่ต้องพึ่งจมูกต่างชาติ และไม่รู้ว่าพรุ่งนี้จะเกิดอะไรบ้าง อย่าง สมุย บับเบิ้ล โมเดล เชื่อว่าคงมีคนมา แต่มากมั้ย ก็ยากอยู่ เมื่อตัวเลขในอดีตมาเปรียบเทียบกับปฏิกิริยาคนเปลี่ยนไปแล้ว อย่างไรก็ตาม อยากให้รัฐบาลนึกถึงด้วยว่า เอสเอ็มอี จะได้กินเศษเนื้อข้างเขียงหรือเปล่า ผลประโยชน์จะไปตกเฉพาะกับพวกวิลล่าเซอร์วิส ที่เจ้าของเป็นต่างชาติ หรือไม่ เพราะเชื่อว่าคนที่มีกำลังจ่ายขนาดนั้น ถ้าหนีโควิด มาพัก สมุย คงเข้าพักวิลล่าเซอร์วิส หรือไม่ก็ โรงแรมห้าดาวอัพ แน่ๆ” คุณศิราณี ทิ้งท้ายไว้อย่างนั้น