สู้เพื่อแม่! สาวใหญ่ ประกาศขายความสามารถ รับงานฟรีแลนซ์ ถอดเทป-เขียนบทความ-พิสูจน์อักษร หาเงินเลี้ยงครอบครัว

จะทำอย่างไรเมื่อชีวิตต้องเจอสองวิกฤตใหญ่ในเวลาไล่เลี่ยกัน ทั้งดูแลแม่ที่ประสบอุบัติเหตุ และโควิด-19 ระบาด แต่เธอในฐานะลูกสาวขอทำเพื่อแม่ ขายความสามารถรับงานฟรีแลนซ์ถอดเทป เขียนบทความ พิสูจน์อักษร หาเงินเลี้ยงครอบครัว

คุณเจี๊ยบ-นิภาพร จตุพรโภคา วัย 42 ปี ในอดีตเธอเคยโลดแล่นอยู่ในวงการโทรทัศน์ ทำรายการสารคดี รายการกระจกหกด้าน และแม็กกาซีนเล่มหนึ่งนาน 3 ปี แต่ด้วยปัญหาด้านสุขภาพทำให้เธอตัดสินใจกลับบ้านเกิด ยึดอาชีพขายก๋วยเตี๋ยว

“กลับมาอยู่บ้านช่วยแม่ขายก๋วยเตี๋ยว เป็นร้านเก่าแก่ที่แม่ยึดเป็นอาชีพหลักมานาน 30 ปี ระหว่างนั้นก็รับงานฟรีแลนซ์ ถอดเทป เขียนบทความ และพิสูจน์อักษรควบคู่ไปด้วย เป็นงานเสริมเล็กๆ” คุณเจี๊ยบ เล่า

แต่เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา แม่ของคุณเจี๊ยบประสบอุบัติเหตุรถชน เธอในฐานะลูกต้องหยุดงานทุกอย่างเพื่อมาดูแลแม่อย่างเต็มกำลัง

“หยุดงานทุกอย่างเลิกขายก๋วยเตี๋ยวเพื่อมาดูแลแม่ ท่านนอนรักษาตัวในห้องไอซียูนานเกือบเดือน ตอนนั้นใช้ชีวิตอยู่ได้เพราะเงินเก็บ คุณหมอบอกว่าอาการดีขึ้นตามลำดับพี่ถึงได้มานั่งเรียบเรียงความคิดว่าเราจะทำอะไรต่อดี เริ่มโทรหาเพื่อนที่เคยให้งานถอดเทปเพื่อของานทำ เพราะไม่มีรายได้มาเป็นค่ารักษาพยาบาลส่วนต่าง และหนี้ก้อนใหญ่ที่หยิบยืมมาตอนค้าขาย ผ่านไปสักระยะมีเพื่อนส่งงานถอดเทปมาให้พอได้เงินมาจำนวนหนึ่ง และมีบริษัทของพี่ที่ทำงานเก่าส่งมาให้อีก จึงพออยู่ได้”

นอกจากรับงานฟรีแลนซ์แล้ว คุณเจี๊ยบยังเปิดเพจขายกระเป๋าผ้า เธอบอกว่า ได้เพื่อนมาช่วยอุดหนุน พอเป็นรายได้อีกทาง แต่มาเจอมรสุมใหญ่อีกครั้งเพราะโควิด-19

“ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม หลายบริษัทหยุดทำงาน ขาดรายได้อีกรอบเพราะไม่มีงานถอดเทป บังเอิญเราเย็บแมสก์ใส่เอง เพื่อนเห็นแล้วชอบ โชคดีมากได้ออร์เดอร์จากเพื่อนครั้งแรกเกือบพันชิ้น เหนื่อยและกดดันมาก เพราะทำทั้งคืน และคนรอใช้ รอดมาได้เพราะหน้ากากผ้าจริงๆ สักพักคนเริ่มขายหน้ากากผ้าเปิดออร์เดอร์รอบสองเงียบมาก ตัดสินใจโพสต์ในกลุ่มจุฬาฯมาร์เก็ตเพลส ว่า ขอขายความสามารถ รับงานฟรีแลนซ์ ถอดเทป พิสูจน์อักษร เขียนบทความ ใครมีงานล้นมือ ยินดีช่วยแบ่งเบา ทำให้มีงานทำถึงตอนนี้ บางครั้งมาพร้อมกันเยอะๆ ปฏิเสธไปก็มี”

ส่วนร้านก๋วยเตี๋ยวคงไม่กลับไปขายอีก เป็นความตั้งใจแต่แรกว่าจะเลิกขายถาวร คุณเจี๊ยบ บอกว่า อุปกรณ์ทุกอย่างตอนนี้บริจาคให้วัดสวนแก้วไปหมดแล้ว

“ในระยะยาวพี่ยังคงรับงานถอดเทปเป็นหลัก ถ้าเรามีที่ประจำเราทำดีคนจะบอกปากต่อปาก เอาจริงๆ งานนี้ไม่ค่อยมีใครอยากทำ เพราะต้องใช้เวลา และเงินไม่เยอะ อาศัยว่าทำหลายชิ้น และทำต่อเนื่องทุกวัน ส่วนกระเป๋าผ้า และหน้ากากผ้ายังขายควบคู่กันไป คิดว่าอยู่ได้สบายๆ เพราะเราไม่ใช่คนฟุ่มเฟือย กินง่ายอยู่ง่าย และโชคดีมีเพื่อนคอยสนับสนุนใครมีงานก็ส่งมาให้ ช่วยสั่งกระเป๋าผ้า หรือส่งของส่งอาหารมาให้” คุณเจี๊ยบ เล่าถึงความโชคดีของตัวเอง

จากวิกฤตทั้งสอง เธอบอกว่าหนักหนาสาหัส แต่เพราะมองโลกในแง่ดี และไม่เคยมองย้อนอดีตให้ฟูมฟาย จึงตั้งตัวได้เร็ว “วิกฤตนี้สอนให้รู้ว่า ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน เพราะฉะนั้น เราต้องเตรียมพร้อมตลอดเวลา โชคดีที่ว่ามีอาชีพเสริมอยู่ก่อนแล้ว มีเงินออมอยู่ส่วนหนึ่ง และตอนนี้คิดถึงแม่เป็นหลัก ทำอะไรก็ได้ให้แม่สบายใจที่สุด ทำหลายอย่างเหนื่อยเหมือนกัน แต่สบายใจที่ได้ทำ งานฟรีแลนซ์ทำให้เราได้อยู่ดูแลแม่ตลอดเวลา และสามารถบริหารเวลาเองได้ แต่งานนี้ไม่มั่นคง ฉะนั้น เราต้องมีวินัยทางการเงิน เงินออมสำคัญมาก ถึงช่วงวิกฤตมันจะช่วยเราได้” คุณเจี๊ยบ ทิ้งท้าย