ทำใหญ่เกินตัว-ทุนไม่หนาพอ-ลูกค้าไม่ได้ตามเป้า บทสรุปก่อนปิดฉาก “แหลมเกต”

ทำใหญ่เกินตัว-ทุนไม่หนาพอ-ลูกค้าไม่ได้ตามเป้า บทสรุปก่อนปิดฉาก “แหลมเกต” 

เป็นเรื่องที่ไม่เกินคาดหมายนัก หลังมีข่าวแจ้งว่าเมื่อเร็วๆ นี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าจับกุม “โจม พารณจุลกะ” หรือชื่อเดิม “โค้ก-อพิชาต บวรบัญชารักษ์” ผู้บริหารบริษัท แหลมเกต อินฟินิท จำกัด เจ้าของกิจการร้านอาหารสไตล์ “บุฟเฟ่ต์ ซีฟู้ด” ชื่อดัง “แหลมเกต อินฟินิท” ในข้อหาร่วมกันก่อให้เกิดความเข้าใจผิดในแหล่งกำเนิดคุณภาพ ปริมาณในสินค้าหรือบริการด้วยการโฆษณาข้อความอันเป็นเท็จ และร่วมกันฉ้อโกงประชาชน

โดยข้อกล่าวหาดังกล่าว เริ่มต้นจาก “แหลมเกต อินฟินิท” มีการขายบุฟเฟ่ต์อาหารทะเลโปรโมชั่นราคาถูก แต่เมื่อผู้ที่ซื้อโปรโมชั่นไปกินจริงๆ อาหารและการบริการไม่สามารถรองรับคนจำนวนมากไหว อาหารคุณภาพต่ำ จนต้องระงับบริการ ขณะเดียวกัน ทางร้านยังมีการขายโปรโมชั่นล่วงหน้าไปแล้วจำนวนมาก จึงจำเป็นต้องคืนเงินส่วนดังกล่าวให้กับผู้ซื้อ ต่อมาพบว่า ร้านได้ปิดตัวลงอย่างเงียบๆ โดยอ้าง กำลังปรับปรุงแต่กลับกลายเป็นปิดถาวร อีกทั้งต่อมามีแม่ค้าส่งอาหารทะเล ออกมาระบุได้รับผลกระทบจาก “แหลมเกต อินฟินิท” ด้วยเหมือนกัน เนื่องจากเช็คที่สั่งจ่ายค่าอาหารทะเลที่ส่งให้กับทางร้าน ไม่สามารถขึ้นเงินได้

แม้ยอมรับเป็นเรื่องไม่ไกลกว่าจะคาดเดา ว่าผลสรุปจะออกมาในรูปแบบนี้ แต่หลายคนยังไม่ “อยากจะเชื่อ” ว่าคนหนุ่มไฟแรง ไอเดียล้ำ กล้าได้ กล้าเสีย อย่าง “โค้ก อพิชาต” เจ้าของร้านอาหาร “ดังสุดขีด” ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา จะลงเอยด้วยการถูกจับกุมตัวในข้อหาฉ้อโกง

ย้อนดูเรื่องราวของ “โค้ก อพิชาต” ที่หลายสื่อยกให้เป็นต้นแบบความสำเร็จของคนหนุ่มอายุน้อย ที่สามารถทำเงินจากธุรกิจได้นับ “ร้อยล้าน” มาแล้วนั้น เส้นทางสายธุรกิจของเขานับว่าน่าสนใจไม่น้อย เริ่มจากการเป็นทายาทรุ่นที่สองของร้านอาหารทะเลเก่าแก่ในอำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่อยากพลิกฟื้นกิจการของครอบครัวด้วยการ ปลุก “แหลมเกต” พลิกขึ้นมามีชีวิตชีวาอีกครั้งหนึ่ง บนทำเลกลางกรุง ย่านสุขุมวิท

“ตอนนั้นมีเงิน มีความมุ่งมั่น มีความฝัน อยากรวย อยากมีธุรกิจ เหมือนที่เด็กวัยนั้นกำลังอยากมีอิสรภาพ ไม่ต้องเป็นลูกน้องใคร อยากเป็นเจ้านายของตัวเอง อยากเป็นผู้ประกอบการ เลยตัดสินใจเปิดร้านแหลมเกตขึ้นมา” โค้ก เคยให้สัมภาษณ์ไว้อย่างนั้น

แต่ความตั้งใจของเจ้าของร้านเจนวาย กลับไม่เป็นไปอย่างที่วาดฝันไว้ การตั้งร้านใหม่ที่สุขุมวิทในครั้งนั้น ยังไม่มีการวาง “เอกลักษณ์ของแบรนด์” ว่าจะมีจุดยืนอย่างไร แต่กลับไปให้ความสำคัญกับการ “ตั้งราคาขาย” เพียงอย่างเดียว พอคิดแบบนั้น เลยเกิดสูตรเข้าไปครอบในธุรกิจ กลายเป็นว่าอาหารทุกจานถูกขายในราคาต้นทุนบวกกับกำไร 1.5 เท่า และคิดว่าธุรกิจจะไปได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วไม่ใช่

“แหลมเกต” สาขาสุขุมวิท ในมือทายาทรุ่นที่สอง จึงไปไม่รอด เปิดได้ประมาณปีครึ่ง ขาดทุนไปกว่า 9 ล้านบาท

แม้จะเสียหายไปไม่น้อย แต่นักธุรกิจหนุ่มที่ขณะนั้นวัยเพียงยี่สิบปลายๆ ก็ยังไม่ถอดใจ เพราะเขามั่นใจว่า จะสร้างชื่อ “แหลมเกต” ให้ผงาดขึ้นอีกครั้งด้วยโมเดลแรกของไทย “บุฟเฟ่ต์ ซีฟู้ด อะลาคาร์ท”

“เดือนสุดท้ายก่อนปิดตัว แหลมเกต-สุขุมวิท ดังเป็นพลุแตก ลูกค้ายืนต่อแถวรอกันยาวเหยียด ทั้งห้างมีแต่คนมากินเราร้านเดียว จนเกิดความโกลาหล เพราะยังไม่มีการแบ่งขายเป็นรอบๆ วัตถุดิบไม่พอ พนักงานโหลดเกินไป แต่ไม่มองเป็นปัญหา หากมองว่าคือโอกาสใหม่” โค้ก เผยไว้อย่างนั้น

และแล้วร้านแหลมเกต สุขุมวิท ปิดตัวเป็นการถาวรในช่วงสิ้นปี 2557 ถัดจากนั้นไม่ถึง 2 เดือน แหลมเกต ซอยพหลโยธิน 11 จึงเกิดขึ้น  แต่คราวนี้ มีการวาง “แนวคิด” ไว้ในทุกรายละเอียด เริ่มต้นจากการสร้าง “เอกลักษณ์ของแบรนด์” ที่เป็นแหล่งผลิตความสุขลูกค้าทุกคนที่มาทาน ต้องได้ของมีคุณภาพ ในราคาที่พอใจ รสชาติดีเหมือนต้นตำรับ ปรากฏได้การต้อนรับล้นหลาม ลูกค้าเต็มทุกรอบ ทั้งไทย-เทศ

และด้วย “ดีมานด์” ของลูกค้าที่มีมากขึ้นตามลำดับ ลูกค้าเข้าคิวรอทุกวัน ราวปี 2560 เขาจึงขยายกิจการ เปิดเป็นอาณาจักรความสุขแห่งใหม่ บนพื้นที่ 666 ตารางเมตร บริเวณชั้น 2 ของเอสเจ อินฟินิท ทาวเวอร์ ถนนวิภาวดีรังสิต ภายใต้ชื่อเรียกขาน “แหลมเกต อินฟินิท”

“แหลมเกต อินฟินิท ตกแต่งในบรรยากาศหรูหราด้วยรูปแบบของโรงละครที่พร้อมเปิดม่านแห่งความสุข เสิร์ฟความอร่อยกว่า 20 เมนู อาทิ ปลากะพงทอดน้ำปลา หอยนางรมสด กรรเชียงปูผัดผงกะหรี่ ฯลฯ ทุก 90 นาที ตั้งแต่ช่วงเวลา 11.30-21.00 น. แบ่งเป็น 4 รอบ รอบละ 250 คน ภายใต้แนวคิดความสุขบนรสชาติอาหารที่ทุกคนสามารถสัมผัสได้” โค้ก บอกไว้อย่างนั้น

ด้วยชื่อเสียงเดิมมีเป็นทุน “แหลมเกต อินฟินิท” จึงได้การตอบรับอย่างล้นหลามไม่ต่างจากสาขาพหลโยธิน ภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่การขยายสาขาและการสั่งอาหารทะเลมารองรับลูกค้าในแต่ละรอบนั้น ต้องใช้เงินทุนจำนวนไม่น้อย กลยุทธ์ขาย gift voucher ล่วงหน้าในราคาหัวละต่ำกว่าราคาปกติ จึงถูกนำมาใช้คล้ายกับเป็นการระดมเงินสดมาหมุนเวียนในร้าน

“แหลมเกต อินฟินิท  เสียค่าออกแบบ-ตกแต่งสถานที่ไปเยอะมาก เขาทำใหญ่เกินตัว ขณะที่เงินทุนอาจไม่หนาพอ และการขาย gift voucher มากเกินไป ราคาถูกเกินไป ตกใบละไม่ถึงร้อยบาท แต่ขายทีเป็น set มันเป็นไปไม่ได้ ต้องขาดทุนอยู่แล้ว อีกทั้งลูกค้าไม่เต็มทุกรอบอย่างที่คิด เงินมันเลยไม่สมดุลกัน ผลเลยออกมาเป็นอย่างนี้” แหล่งข่าวใกล้ชิดแหลมเกต ท่านหนึ่ง ให้ข้อมูลทิ้งท้ายหลังทราบข่าว “แหลมเกต” ปิดฉากลงด้วยคดีฉ้อโกง