ผู้เขียน | จ่าบ้าน |
---|---|
เผยแพร่ |
รัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีคนเดิม รัฐมนตรีพาณิชย์ จะ “ดีแต่พูด” หรือไม่
ก้มๆ เงยๆ ก้มหน้าก้มตาทำงาน เงยหน้าขึ้นมาอีกหน อ้าว!!! 8 เดือนเข้าไปแล้ว มีเวลาการทำงานในปี 2562 อีกเพียง 4 เดือน จะเข้าสู่ปีใหม่พุทธศักราช 2563 เทียบกับคริสต์ศักราช คือ 2020 เขาว่าเป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเต็มรูปแบบ เข้าสู่ยุค 5G จริงแท้แน่นอน
ผู้เชี่ยวชาญชำนาญการเรื่องของความเปลี่ยนแปลงทางดิจิตอล พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ซึ่งได้ขยับขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อของพรรคภูมิใจไทย แม้ยังไม่มีโอกาสเป็นรัฐมนตรีด้านนี้กับใครเขา แต่รับรองว่าเป็นมือดูแลติดตามเรื่องอุตสาหกรรมสื่อ โทรคมนาคม ที่รู้รอบและรอบรู้ไม่น้อยหน้าไปกว่าใครของโลกยุคดิจิตอล บอกมาเมื่อไม่ช้าไม่นานมานี้ว่า
ภายในปี 2020 โทรศัพท์ 5G Smartphone จะติดตั้งซอฟต์แวร์ Blockchain, AI และมีความจุปริมาณข้อมูล (Data Storage) ที่ธนาคารเคยสามารถทำได้ทั้งหมดบรรจุอยู่บนสมาร์ตโฟนทุกเครื่อง จนทำให้ผู้คนทั่วโลกกว่า 5 พันล้านคน (จากประชากรโลก 7.6 พันล้านคน) สามารถทำธุรกรรมระหว่างประเทศและลงทุนในทุกรูปแบบ Peer-to-Peer ข้ามหัวทางการเงินและธนาคารในประเทศต่างๆ ได้อย่างน่าตกใจ
ผู้เชี่ยวชาญดิจิตอลรายนี้ บอกด้วยว่า คล้ายๆ กับปรากฏการณ์ที่ผู้คนทั่วโลกสามารถใช้แอพพลิเคชั่นบนโซเชียลมีเดียในการโทรศัพท์ระหว่างประเทศข้ามหัว Telecom Operators ด้วยราคาค่าบริการที่ถูกมาก หรือเข้าใกล้ศูนย์รวมทั้งการแพร่ภาพ (Broadcasting) ที่ไม่จำเป็นต้องมีใบอนุญาต หรือต้องขอช่องโทรทัศน์แม้แต่น้อย จนส่งผลให้อุตสาหกรรมโทรคมนาคมและสื่อเกิดความระส่ำระสายไปทั่วโลกมาตั้งแต่การใช้ระบบ 4G ในปี 2010 มาแล้ว
“ประเด็นคือ ผู้นำและผู้บริหารระดับสูงของอุตสาหกรรมสื่อและโทรคมนาคม กำลังใช้วิธีการและประสบการณ์ในอดีตมา เพื่อการวางแผนต่อสู้การพลิกผันอุตสาหกรรมที่กำลังเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ซึ่งเกิดขึ้นต่อเนื่องทุกวินาที ถือว่าพวกเขากำลังนำพาองค์กรเข้าพื้นที่สังหาร (The Killing Fields) ด้วยการถูกผู้บริโภคช่วยกันระดมผลิตสื่อในปริมาณมหาศาล จนคาดไม่ถึงว่าพลังอำนาจของผู้บริโภคจะสามารถโค่นบัลลังก์ที่พวกเขายึดครองมาอย่างยาวนานได้ในที่สุด ด้วยการยืนงง ขององค์กรกำกับดูแลด้านสื่อและโทรคมนาคม ที่มีอำนาจตามกฎหมายที่โบราณไม่ได้เขียนอำนาจหน้าที่ที่จะสามารถกำกับดูแลโลกใหม่ได้ต่อไป” ผู้เชี่ยวชาญคนเดียวกันกล่าว
อีก 3-5 ปีข้างหน้า ความขัดแย้งและข้อโต้แย้งในอุตสาหกรรมการเงินการธนาคาร จะเริ่มชัดเจนขึ้นเพราะความพยายามที่จะต้านทานพลังของผู้บริโภคทั่วโลก ที่กำลังลากสถาบันทางการเงินและธนาคารเข้าสู่พื้นที่สังหารจะมีความชัดเจนบนมาตรฐาน 5G ที่มีการกำหนดให้ผู้บริโภคที่ใช้งาน 5G Smartphone สามารถ bypass การให้บริการของสถาบันการเงินด้วยการฝังเทคโนโลยี Blockchain และ AI เพื่อทำให้เกิดการทำธุรกรรมทางการเงินและการลงทุนแบบ Realtime, Peer-to-Peer ด้วยการวิเคราะห์ Credit Scoring ส่วนบุคคลได้อย่างชาญฉลาด
หันมามองรัฐบาลใหม่ นายกรัฐมนตรีคนเดิม เพิ่งเริ่ม จะยังไม่รู้อะไร รู้แต่ว่า รัฐบาลนี้ มีรัฐมนตรีว่าการพาณิชย์ของพรรคประชาธิปัตย์ จะ “ดีแต่พูด” หรือไม่
เอาน่า! เพิ่งเข้ารับงานเพียงไม่นาน จะให้แก้ปัญหาเศรษฐกิจที่อ่อนล้ามาเป็นปี ให้สำเร็จโดยเร็วได้อย่างไร
แม้ค่าเงินบาทจะสูงขึ้น ขอให้สินค้าเกษตร ซึ่งรัฐมนตรีจากพรรคประชาธิปัตย์ ยึดกุมกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เอาใจใส่ดูแลสินค้าเกษตรและราคาอย่าให้ตกต่ำไปมากนัก เพียงชาวไร่ ชาวนา มีเงินทองจับจ่ายคล่องมือ กระทรวงพาณิชย์ดูแลเรื่องราคาสินค้า อย่ายอมให้พ่อค้าแม่ค้ากักกันสินค้ายามเมื่อราคาสินค้าเริ่มขยับขึ้น หมั่นตรวจดูตลาดสินค้าว่าเป็นอย่างไร เหมือนที่ออกไปตรวจภาวะเศรษฐกิจในภาคใต้ หากเงินทองขับเคลื่อนไปด้วยดี เชื่อว่าเศรษฐกิจพื้นฐานน่าขยับตัวขึ้นบ้าง สี่ซ้าห้าเดือนนี้ ก่อนปีใหม่ เศรษฐกิจพื้นฐานคงไม่เลวร้ายไปกว่านี้
สุดท้ายของความเปลี่ยนแปลงตามที่ พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ ว่าไว้ คืออุตสาหกรรม 4.0 ที่คาดว่าเทคโนโลยีจะก้าวไปจนทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสมบูรณ์ในช่วง ปี 2030 ระบบเศรษฐกิจโลกจะอยู่บนการขับเคลื่อนที่ชาญฉลาดยิ่ง เนื่องจากอุตสาหกรรมถึงจุดร่วมกัน (Tipping Point) ที่การพัฒนาเทคโนโลยี 5G Blockchain AI และ Photovoltaic มาพบกันในช่วงที่มันฉลาดพร้อมกันและร่วมกันจับมืออย่างแนบแน่น จนทำให้ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกวิ่งเข้าสู่ Distributed & Decentralized & Autonomous โดยผู้บริโภคจะเป็นผู้ที่เข้ามาเปลี่ยนอุตสาหกรรมจากการปฏิวัติเงียบของโปรแกรมเมอร์คนรุ่นใหม่ทั่วโลก ที่อยู่เบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้
…….
ใครจะรอให้ถึงวันนั้น โปรดนับอายุตัวเองก่อนว่าจะมีชีวิตอยู่ถึง ค.ศ. 2030 ไหม