| ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
|---|---|
| เผยแพร่ |
ภาพวาดจากหางน้องหมา หารายได้เลี้ยงตัวเอง ยอดประมูลทะลุแสน
เมื่อไม่กี่วันก่อน ขณะที่เลื่อนดูความเคลื่อนไหวของผู้คนในเฟซบุ๊ก ก็ไปเห็นคลิปวิดีโอคลิปหนึ่ง ที่มียอดวิว ยอดไลก์ และยอดแชร์จำนวนหลักหมื่น วิดีโอดังกล่าว พูดถึงโครงการช่วยเหลือสุนัขและแมวจรจัดที่ คุณเอ็ม บุดด้าเบลส ทำร่วมกับเพจ Gluta Story เพจที่คนรักสุนัขหลายๆ คน น่าจะเห็นรูปหรือคลิปของเจ้ากลูต้า กอลลั่ม และผองเพื่อนผ่านตากันมาบ้าง
“เส้นทางเศรษฐีออนไลน์” จึงติดต่อขอสัมภาษณ์ คุณยอร์ช เจ้าของเพจ Gluta Story เกี่ยวกับโครงการดังกล่าว กับคุณยอร์ช เจ้าของเพจ Gluta Story (กลูต้า สตอรี่) เขาเล่าให้ฟังว่า แต่เดิมคุณเอ็มตั้งใจให้ไปถ่ายรูปให้เฉยๆ เพราะตนเคยไปถ่ายรูปหมาแมวจรจัดเพื่อหาบ้านให้ โดยจัดแสงถ่ายรูปสวยๆ แล้วมีคนมารับเลี้ยงเพราะความดึงดูดของภาพถ่ายนั้น
พอตนได้ฟังปัญหาที่คุณเอ็มกำลังเผชิญ จากการช่วยสัตว์จรจัดกว่า 60 ตัวเพียงลำพัง ก็รู้สึกว่าอยากจะทำวิดีโอ เพื่อใช้ช่องทางออนไลน์ที่มี ช่วยสื่อสาร หาบ้านหรือเงินสนับสนุนมาช่วยคุณเอ็ม อีกทั้งได้มีการปรึกษาพูดคุยและคิดทำโปรเจ็กต์ “The art of tails ศิลปะจากหางหมาจรจัด” ขึ้น
“จริงๆ แรงบันดาลใจของโปรเจ็กต์นี้ มาจาก “กลูต้า” หมาของผมนี่แหละครับ ผมชอบมองเวลาหมาตัวเองกระดิกหาง คือหมา แมว หรือสัตว์อื่นๆ เขาแสดงอารมณ์ออกมาเป็นภาษากายได้ไม่กี่อย่าง เช่น หู ลำตัว และหาง ที่จะเด่นๆ หน่อย เวลาหมาดีใจหรือมีความสุข หางเขาจะกระดิก ผมมองแล้วมีความสุข เลยพยายามจะหาวิธีสื่อสารให้คนอื่นได้เห็นความสุขที่ผมเห็นบ้าง เลยออกมาเป็นงานเพ้นติ้งที่ระบายสีจากหางหมาตอนที่เขากำลังมีความสุข หางของแต่ละตัวก็ลักษณะเหมือนพู่กันที่ไม่เหมือนกัน ความหนักเบาแตกต่างกัน เหมือนกับลายเส้นของศิลปินที่ไม่มีทางเหมือนกัน บางตัวสะบัดรุนแรง เส้นก็จะดุดัน บางตัวขนหางยาว สะบัดนิ่มๆงานก็จะดูอ่อนโยน ผมเลยคิดว่า เอ๊ะ! ถ้าเป็นหมาจรจัดทำบ้างล่ะจะเป็นอย่างไร เพราะเขาก็มีความสุขความทุกข์ไม่ต่างกัน ประจวบเหมาะพอดีกับช่วงที่พี่เอ็มมีปัญหาเรื่องการหาบ้านให้สัตว์เหล่านั้น เลยออกมาเป็นโปรเจ็กต์ “The art of tails ศิลปะจากหางหมาจรจัด” คุณยอร์ช กล่าว
นอกจากที่มาที่ไปของแรงบันดาลใจ ในการทำศิลปะจากหางหมาจรจัดแล้ว คุณยอร์ชยังเผยให้ฟังอีกว่า โปรเจ็กต์ศิลปะจากหางหมาจรจัด ใช้เวลารวมตัดต่อประมาณ 1 สัปดาห์ก็เสร็จ แต่เรื่องที่ใช้เวลานาน เป็นเรื่องของการตกผลึกทางความคิด ในการหาวิธีการนำเสนอออกมามากกว่า ซึ่งคุณยอร์ช กล่าวว่า ตนคิดอยากทำโปรเจ็กต์นี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่เขาเรียนจบใหม่ๆ
ถูกคิดกลับไปกลับมาหลายรอบในช่วงหลายปี ในตอนแรกตั้งใจจะทำออกมาเป็นงานภาพถ่าย คือ นำหางหมาจุ่มผงสีฝุ่น พอหมาสะบัดหางก็ถ่ายภาพแต่ละตัวเอาไว้ แต่ก็ยังไม่พอใจ มีเคยคิดว่าจะติดเลเซอร์ หรือ led บางอย่างกับหมาแล้วเก็บแสงภาพตอนเขากระดิกหางมา ซึ่งมีหลายวิธีมากที่เขาคิด แต่กลับรู้สึกว่า งานเพ้นติ้ง เป็นงานที่สามารถสื่อสารออกมาได้ดี และมีความบริสุทธิ์ที่สุด บางภาพที่วาดมามีขนติดมาด้วย บางภาพสามารถทำให้จินตนาการได้ว่า เขากำลังวาดบางอย่างอยู่ ซึ่งการตีความของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
ได้ฟังแล้วก็เกิดความสงสัย ถึงปัญหาที่ต้องประสบพบเจอเมื่อลงมือทำ คุณยอร์ชเล่าติดตลกเล็กน้อยว่า ในตอนที่กำลังทำโปรเจ็กต์ ไม่มีปัญหาอะไรเลย จะมีแค่ปัญหาที่ควบคุมไม่ได้เล็กๆ น้อยๆ อย่าง แพะพี่เอ็มเลี้ยงไว้ ไล่ขวิดระหว่างถ่ายทำวิดีโอ และหมูที่พี่เอ็มเลี้ยงไว้อีกนั่นแหละ ไล่งับเบาๆ ให้พอสนุกสนาน สร้างสีสันในการทำงาน
คุณยอร์ช เล่าว่า ในตอนแรก สิ่งที่ตั้งใจเอาไว้คือ สร้างการบริจาค เพื่อช่วยเหลือเรื่องค่าใช้จ่ายของหมาแมวจรจัดและสัตว์อื่นๆ รวม 60 ตัวที่พี่เอ็มต้องแบกรับในแต่ละเดือน เดือนละเกือบแสนบาท นั่นคือเป้าหมายเดียวของเขาในโปรเจ็กต์นี้ แต่ผลตอบรับที่ได้กลับมา ดีเกินกว่าที่คาดเอาไว้ ทั้งยอดเงินบริจาค ทั้งราคาประมูลภาพที่ทะลุแสน และยอดกดไลก์เพจที่เพิ่มขึ้นเป็นหลักพัน คนดูวิดีโอโปรเจ็กต์นี้ทะลุล้านวิว
ตอนนี้ภาพของน้องหมาได้ถูกประมูลเสร็จไปเรียบร้อยแล้ว หากใครอยากบริจาคเงินช่วยเหลือ สามารถบริจาคได้ที่ กิตติพงศ์ คำศาสตร์ ธนาคารไทยพาณิชย์ เลขบัญชี 404-2751302 เซ็นทรัลพลาซ่า แกรนด์ พระราม 9 หรือบริจาคเป็นสิ่งของเครื่องใช้ของสัตว์เลี้ยง ยาเวชภัณฑ์ สะดวกรับทางไปรษณีย์ สามารถติดต่อได้ที่ เพจ Goh-m Family
