“เอิร์ธ – กานต์ กิจเจริญ” หวานใจเปาวลี ทุ่ม10ล้าน เปิดร้านอาหาร หวังสร้างความมั่นคงชีวิตคู่

ลูกชาย ซูโม่กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ ทุ่มเงิน 10 ล้านบาท เปิดร้านอาหารไทย อาหารทะเลเมนูหลากหลาย ชู “เห็ดอบวุ้นเส้น” เน้นเครื่องเทศจีน สำหรับคนที่แพ้กุ้งโดยเฉพาะ กิจการครอบครัว หวังสร้างความมั่นคงให้ชีวิต ก่อนจะจูงมือ เปา-เปาวลี พรพิมล นักร้องลูกทุ่งสาวเข้าประตูวิวาห์ 

นอกจากความรัก ความเข้าใจ การให้อภัยซึ่งกันและกัน จะช่วยให้ชีวิตคู่ดำเนินไปได้อย่างราบรื่นสวยงามแล้ว ความมั่นคงในอาชีพการงานก็เป็นสิ่งสำคัญที่ไม่อาจมองข้ามไปได้ นั่นจึงทำให้ เอิร์ธ-กานต์ กิจเจริญ ลูกชายคนเดียวของ ซูโม่กิ๊ก-เกียรติ กิจเจริญ ยอมลงทุน กว่า 10 ล้านบาทเปิดร้านอาหาร “หลานกลมกิ๊ก” เพื่อสร้างความมั่นคงให้ชีวิต ก่อนจะจูงมือ เปา-เปาวลี พรพิมล นักร้องลูกทุ่งสาวเข้าประตูวิวาห์ช่วงเดือนพฤศจิกายน

“เรื่องการแต่งงานเป็นส่วนหลักเลยซึ่งได้คุยกับเปาแล้วว่าจะเปิดร้าน เปาเองก็มีความฝันอยากเป็นเด็กเสิร์ฟ แล้วผมทำรายการทีวี พูดตรงๆ ว่าช่วงนี้ทีวีก็ไม่ได้บูมเหมือนแต่ก่อน เลยอยากหากิจการสักกิจการที่ค่อนข้างมั่นคง แล้วก็เป็นสิ่งที่ผมรัก เป็นความฝันของเรา เลยลองทำดูเพราะมีโอกาสแล้ว” หนุ่มวัย 27 ปี บอกยิ้มๆ ถึงที่มา

ด้วยตั้งแต่เด็กๆ เอิร์ธมักเข้าครัวไปดูคุณย่าทำอาหารจึงซึมซับความชอบมาเรื่อยๆ แต่ก็ยังมีโอกาสลงมือทำไม่บ่อยนัก จนกระทั่งได้ไปเรียนมหาวิทยาลัยที่ Savannah College of Art and Design สหรัฐอเมริกา นั่นทำให้พ่อครัวจำเป็นกลายเป็นพ่อครัวเอกไปโดยปริยาย

“ตอนแรกทำอาหารไม่เป็นแต่พอไปเรียนเมืองนอกกลายเป็นว่าผมเป็นคนเดียวที่ทำอาหารได้ในบรรดาเด็กไทยทั้งหมด เลยเป็นคนที่ทำอาหารให้เพื่อนๆ กิน 4 ปีเราทำอาหารทุกวัน เพื่อนก็ชมว่าอร่อยเลยมีแรงบันดาลใจ เราชอบทำอาหารอยู่แล้วพอมีคนชมก็ยิ่งอยากทำ กลับมาจากเรียนเมืองนอกก็เลยเป็นคนทำอาหารให้กับที่บ้านด้วย ซึ่งอาหารที่ทำเป็นอาหารไทยล้วนๆ เลย แต่เริ่มแรกเริ่มจากสเต๊กเพราะคุณพ่อชอบกิน แต่หลังๆ เบื่อเลยทำพวกผัด แกง ต้ม”

เมื่อฝึกฝีมือจนมั่นใจ เขาจึงตัดสินใจควักเงินลงทุนกว่า 10 ล้านบาทเพื่อเปิดร้านอาหารซึ่งครอบครัวก็ไม่ขัด เพราะนอกจากเห็นว่าร้านอาหาร “บ้านกลมกิ๊ก” ของคุณย่าในซอยร่วมฤดี 1 จะไปได้สวย แม้เปิดมาแล้ว 10 ปี ที่บ้านยังสอนกันมาว่าเวลาทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด หากสุดท้ายไม่ประสบความสำเร็จจะได้ไม่ต้องมานั่งเสียใจทีหลังว่าทำไมไม่ทำให้เต็มที่ นั่นเลยทำให้ร้านหลานกลมกิ๊ก ที่ตั้งชื่อให้จำง่าย คล้องจองกับร้านของคุณย่า กลายเป็นร้านอาหารขนาดใหญ่ริมถนนสุคนธสวัสดิ์ โดยมีพื้นที่ถึง 3 ไร่ รองรับลูกค้าได้ 160 ท่าน และมีที่จอดรถ 60 คัน

“ตรงนี้เราเช่าที่ ไม่ได้ซื้อเพราะที่แถวนี้แพง ลงทุนเยอะแต่ไม่ได้บานปลาย ก่อนหน้านี้ตรงนี้เป็นร้านเหล้าซึ่งมันก็โทรมเลยไม่สามารถเอาอะไรมาใช้ได้ แต่ที่มันดี เจ้าของน่ารัก เราเลยทำใหม่หมด รวมถึงระบบครัวต่างๆ และซื้อแฟรนไชส์ ร้านกูโรตีชาชัก มาเปิดด้านหน้าด้วย”

“ส่วนที่ร้านหลานกลมกิ๊กเราขายกุ้งอบวุ้นเส้น มีอาหารทะเล อาหารไทยด้วย แต่จะเน้นอบวุ้นเส้น ที่อยากเปิดร้านนี้เพราะอยากขายกุ้งอบวุ้นเส้นเลย จริงๆ ผมเป็นคนแพ้กุ้งแต่ขายกุ้งอบวุ้นเส้นและกุ้งเผาด้วย” เขาเล่า

ก่อนจะเอ่ยต่อทันที “ถามว่าทำไมถึงขายใช่ไหมครับ เป็นเพราะก่อนหน้านี้ผมไม่ได้แพ้กุ้ง ตอนเด็กๆ ชอบกินกุ้งอบวุ้นเส้น ชอบกินกุ้ง ชอบกินอาหารทะเลมาก แต่มีวันหนึ่งกินเยอะไปจนแพ้ พอแพ้ผมก็อยากกินอบวุ้นเส้นเหมือนเดิม แต่พอไปสั่งร้านอาหารบอกเอากุ้งอบวุ้นเส้นไม่ใส่กุ้งได้ไหม คิดราคากุ้งก็ได้ แต่เขาทำให้ไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมลองคิดสูตรเองเลยทำเป็นเห็ดอบวุ้นเส้นสำหรับคนที่แพ้กุ้ง แต่รสชาติเหมือนกุ้งอบวุ้นเส้นไม่เพี้ยนเลย ถ้าเปลี่ยนจากใส่เห็ดมาใส่กุ้งก็คือกุ้งอบวุ้นเส้นปกตินั่นแหละ”

นอกจากกุ้งอบวุ้นเส้นรสดีที่เน้นเครื่องเทศจีน ยังมีเมนูเด็ดทั้ง กุ้งแม่น้ำเผา ตัวใหญ่ เนื้อฟู มันเยอะ ข้าวผัดปู ข้าวคัดพิเศษ หุงกำลังดีมาพร้อมเนื้อปูเป็นก้อนๆ ผัดผงกะหรี่ รสชาติเข้มข้น ไข่เยิ้มๆ เหมาะกับการคลุกข้าว รวมถึงเมนูขายดีอย่าง ทอดมันหัวปลี ที่คล้ายหอมทอดของฝรั่งแต่จัดจ้านด้วยพริกแกงแบบไทย และข้าวกะเพราถาดกลมกิ๊กไข่ข้น ที่ใครมาเป็นต้องสั่ง ซึ่งแม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงหลักในการลงครัว แต่ก็ยังรับประกันเรื่องความอร่อย

ด้วยเอิร์ธบอก “ตอนนี้ผมยังอยู่ในครัวตลอด คอยดูแลวัตถุดิบ ดูแลการออกของอาหาร ดูออร์เดอร์ ส่วนเปาถ้าว่างก็จะมาเป็นเด็กเสิร์ฟ สำหรับอาหารจะมีพ่อครัวแม่ครัวทำ แต่ทุกสูตรเป็นแบบที่บ้านเราชอบกิน ซึ่งร้านเราจะพยายามทำทุกอย่างให้ง่ายที่สุด เช่น ผัดก็จะมีน้ำซอสที่ปรุงสูตรพิเศษของเราเอง คุณใส่อันนี้ 1 กระบวยสามารถผัดออกมาเป็นเมนูนี้ได้ ข้อดีคืออาหารออกเร็ว ทุกคนทำได้ แล้วอาหารรสชาติคงที่เสมอ สมมติมีแม่ครัว 2 คนเขาตักไม่เท่ากันอยู่แล้ว โดยสูตรซอสอบวุ้นเส้นผมทำเองเพราะไม่บอกใคร แต่อย่างซอสอื่นๆ ที่ไว้ผัดหรือปรุงเพิ่มกับตัวนู้นตัวนี้ก็ให้พ่อครัวแม่ครัวปรุง แต่ทุกอย่างทั้งหมดมาจากที่ผมคิด”

“อย่างที่ผมถูกสอนมา ไม่ว่าที่ทริปเปิ้ลทูที่ทำรายการทีวี หรือที่นี่ เราเป็นเจ้านายเขา แต่เราต้องลงมือทำด้วยเพื่อให้เขาเห็นว่าเจ้านายทำเป็น ไปหลอกมันไม่ได้ ถ้าวันหนึ่งหลอกมัน เขาไล่เราออก เขาก็ยังทำได้อยู่ แต่ขณะเดียวกัน ผมก็พยายามทำให้ที่ทำงานเหมือนเป็นพี่น้องกันทั้งหมด เราชี้นิ้วสั่งเขาได้ก็จริง แต่ผมพยายามไม่ทำเป็นเหมือนเฮียหรือเสี่ยเจ้าของร้าน ทำกุ้ง ทำปลาหมึกเราต้องลงทำด้วย ลูกน้องก็จะแบบนายยังทำแล้วเราจะไม่ทำเหรอวะ เราอยู่แบบพี่น้องมีอะไรคุยกันหมด เพราะฉะนั้น จะไม่มีอะไรที่ปิดบังกัน แต่เรายังมีระยะที่เป็นลูกน้องกับนายจ้าง เขาก็ยังเข้าใจตรงนั้น”

“โดยหลังจากเปิดมาตั้งแต่กลางเดือนกุมภาพันธ์ เสียงตอบรับดี ลูกค้าบอกว่าหาร้านแบบนี้ยากในย่านนี้ ส่วนใหญ่เป็นร้านเหล้า เสียงเพลงดัง เขาก็ไม่กล้าพาพ่อแม่ไปกิน แล้วก็อาหารไม่แพง บรรยากาศดี ลูกค้าที่มาจะเป็นครอบครัว พาพ่อแม่ พาลูกมาเลี้ยงวันเกิด ผู้สูงอายุเยอะ” เจ้าของร้านหนุ่มบอกถึงกระแสตอบรับของร้าน ซึ่งถ้าอยากไปชิมแนะนำให้โทรศัพท์จองก่อนที่ (062) 465-2200 เพราะวันจันทร์-ศุกร์ จะเปิดช่วง 11.00-14.30 น. และ 17.30-22.00 น. ส่วนเสาร์-อาทิตย์ เวลา 11.00-15.00 น. และ 17.30-22.00 น.

ก่อนเอิร์ธจะว่า “ถามว่าร้านอยู่ได้ไหม ตอนนี้ยังบอกไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์ เพราะทุกอย่างยังไม่ลงตัว แต่ถามว่าได้กำไรทุกวันไหม ได้กำไรทุกวัน เราก็หวังอยากให้มันอยู่ไปนานๆ อยากให้รุ่งเรือง ถ้าวันนั้นมาถึงก็อยากขยายสาขา แต่ ณ ตอนนี้เอาตรงนี้ให้แข็งแรงก่อน”

“แต่ผมก็ไปลองลงเรียนคอร์สที่เขาสอนระบบแฟรนไชส์ เพราะอยากรู้ว่ามันเป็นยังไง อยากรู้ว่าแนวคิดของการทำแฟรนไชส์มันต้องคำนึงถึงจุดไหนบ้างแต่คงยังไม่ได้ทำเร็วๆ นี้ จริงๆ อย่างอบวุ้นเส้นผมสามารถทำแฟรนไชส์ได้ ผมมีน้ำที่ปรุงเอาไว้แล้วแค่ยังไม่มีโรงงานทำน้ำ ตอนนี้ผมต้องมานั่งปรุงน้ำเอง แต่ถ้าวันหนึ่งมันมีโรงงาน มีมาตรฐาน ผมทำแบบนี้เยอะๆ ไว้แล้วก็ซีลสุญญากาศให้สาขานู้นสาขานี้ เหมือนร้านก๋วยเตี๋ยวเจ้าดังๆ ก็ทำแบบนี้”

 

ขณะเดียวกัน เขาก็เตรียมหาเมนูใหม่ๆ มาใส่เพิ่มเติม โดยเฉพาะเมนูอาหารไทยจากร้านบ้านกลมกิ๊กของคุณย่าที่ลูกค้าหลายคนเรียกร้อง ถึงอย่างนั้นก็คงไม่ได้ใส่มาหลายเมนูนัก เพราะเกรงว่าจะเกิดข้อเปรียบเทียบในเรื่องของราคา ด้วยร้านนั้นอยู่ในเมือง ค่าเช่าที่แพงกว่าทำให้ต้นทุนของอาหารราคาสูงกว่าตามไปด้วย

“ผมก็อยากให้ทุกคนลองมากินดู ผมบอกพนักงานที่นี่ให้ยิ้มแย้มตลอดเวลาไม่ว่าอะไรเกิดขึ้น คิดว่าลูกค้าที่มากินเป็นผู้ใหญ่ในครอบครัวเรา อาหารของผมก็พยายามทำประหนึ่งทำให้คุณย่ากิน เพราะคุณย่าผมชอบมากิน ผมก็เกร็งมากเพราะว่าคุณย่าเทคนิคเยอะ เวลาลูกค้ามากินก็เหมือนผมเป็นหลานคนหนึ่งที่ทำอาหารให้คุณปู่คุณย่า ทำให้ครอบครัวกิน” เอิร์ธว่าทิ้งท้ายถึงร้านหลานกลมกิ๊ก

ร้านอาหารที่เขาและเปาช่วยกันลงแรงลงใจ เพื่อให้เป็นอีกหนึ่งรายได้หลักของครอบครัวใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น