เสื้อผ้าทำมือจากธรรมชาติ ธุรกิจสร้างเงินดีกว่างานประจำของอดีตสาวออฟิศ

เสื้อผ้าทำมือจากธรรมชาติ ธุรกิจสร้างเงินดีกว่างานประจำของอดีตสาวออฟิศ

คุณรุ่งอรุณ ยารังฝั้น หญิงสาวที่มีความฝัน ว่าสักวันหนึ่งจะกลับไปใช้ชีวิตสร้างอาชีพที่มั่นคงในบ้านเกิดของตนเอง

และเขาก็ได้ทำเช่นนั้น แต่เพียง 1 ปี ก็รู้ผล ชีวิตไม่เป็นดังภาพฝัน รายได้จากที่เคยรับกับอาชีพลูกจ้าง ทำให้เขากินอยู่สบาย แต่การสร้างอาชีพในบ้านเกิดกลับพบกับความติดขัด นับรวมรายได้ต่อเดือน ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของอาชีพลูกจ้าง

การกลับครั้งนั้นจึงทำให้คุณรุ่งอรุณ รู้ว่า แค่ใจพร้อมอย่างเดียวไม่ได้ แต่รายได้ต้องพร้อมรองรับด้วย และนี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาถอยกลับไปสู่งานประจำอีกครั้ง เริ่มต้นใหม่ แต่ทว่าปลายทางยังคงมุ่งหมายกลับไปใช้ชีวิตที่บ้านเกิด

กลับบ้านเกิดอยู่ไม่ได้ ปัญหาใหญ่ รายได้ไม่พอ

“รุ่งทำงานให้กับแบรนด์เสื้อผ้าชั้นนำ ซึ่งมีความเคลื่อนไหวทางด้านแฟชั่นค่อนข้างเร็ว งานที่ทำตรงสายที่เรียนมา คือด้านผ้าและเครื่องแต่งกาย เหตุที่สนใจด้านนี้เพราะเห็นตัวอย่าง แม่เป็นช่างเย็บผ้า ป้าทำงานด้านผ้า มันเป็นอาชีพที่จับต้องได้จริง”

ความชอบทำให้ชีวิตการทำงานมีแต่ความสนุก กระทั่ง 7 ปีก้าวผ่าน เริ่มมองอนาคตกับการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับตัวเอง ซึ่งคุณรุ่งอรุณคิดถึงบ้านเกิด จึงตัดสินใจออกจากงานทันที

การทำงานทำให้คุณรุ่งอรุณ มีประสบการณ์ทั้งเรื่องออกแบบ วัตถุดิบ ตลอดจนประสานงานกับโรงงานผู้ผลิต เรียกว่าทำตั้งแต่กระบวนการแรกไปจนถึงได้สินค้าออกมาพร้อมจำหน่าย

“7 ปีที่ทำงานเหมือนอิ่มตัว และคิดว่าพร้อมแล้วกับการกลับบ้านที่ อำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ ตอนนั้นรุ่งได้งานชิ้นหนึ่งมาทำ คือผลิตกระเป๋าใบเล็กๆ ส่งให้เจ้านายเก่า ก็เหมือนเป็นชิ้นงานใหม่ที่ทำให้สนใจ ท้าทายความสามารถ ทำให้รู้จักรายละเอียดการทำงานกระเป๋าไปด้วย แต่เพียง 1 ปีที่ออกมาอยู่บ้านเกิด ปัญหามองเห็นชัดเจนคือ รายได้ ตอนอยู่กรุงเทพฯ รายได้สูงมาก แต่พอกลับมามีรายได้เพียงครึ่งหนึ่งจากเงินเดือนที่เคยได้รับ ซึ่งแรกๆ ก็อยู่ได้นะ เพราะเราอยากมีชีวิตสโลว์ไลฟ์ แต่อยู่ไปอยู่มามันกลายเป็นความติดขัด”

ฐานรายได้ที่ไม่สามารถหล่อเลี้ยงชีวิตตัวเอง ส่งผลให้คุณรุ่งอรุณ กลับสู่วงจรมนุษย์เงินเดือนอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการกลับไปเพื่อเตรียมพร้อมสร้างฐานการเงินและอาชีพ โดยวางแผนระบบชีวิตอย่างเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อให้การกลับบ้านเกิดอีกครั้งได้อย่างไม่เจ็บตัว

วางแผนใหม่ให้พร้อม 7 วันทำงานไม่หยุด

“ตอนนั้นยังมีงานผ้าต้องทำอยู่ และรุ่งอยากสร้างแบรนด์ของตัวเอง อยากสร้างฐานอาชีพให้มั่นคง จึงยอมเหนื่อย จันทร์-ศุกร์ เข้าออฟฟิศทำงานประจำ แต่วันศุกร์จัดกระเป๋าหิ้วมารอไว้เลย เลิกงานขึ้นรถทัวร์กลับเชียงใหม่ ถึงเช้าวันเสาร์  อาบน้ำแต่งตัวไปคุยงานกับกลุ่มแม่บ้านที่เราให้เขาเป็นฐานการผลิต รุ่งจะทำงานออกแบบ ทำทุกอย่างให้เรียบร้อย แล้วก็นั่งรถทัวร์กลับกรุงเทพฯ พร้อมทำงานในวันจันทร์ ทำงาน 7 วันไม่ได้หยุดพักอยู่ปีครึ่ง”

คุณรุ่งอรุณ กล่าวถึงการสร้างแบรนด์ “Run Ga Run” ของตนเอง โดยเริ่มต้นผลิตเสื้อผ้าตามความถนัด แล้วค่อยๆ ขยับมาทำกระเป๋า และงานปักเสริมสร้างจุดเด่น โดยเลือกใช้วัสดุธรรมชาติ ไม่ว่าจะการย้อม การทอ หรือแม้กระทั่งเลือกซื้อผ้าผืนมาตัดเย็บ

“เริ่มแรกผลิตเสื้อยืดจากใยกันชง ลินิน ผ้าไหม โดยใช้เปลือกไม้ธรรมชาติมาย้อมผ้า ซึ่งสินค้าที่ผลิตออกมาในเบื้องต้นใช้วิธีฝากขาย กระทั่งต่อมาติดต่อออกงานแสดงสินค้าเล็กๆ ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงเทพฯ เพราะตอนนั้นรุ่งก็คิดว่าเราทำงานประจำอยู่ในกรุงเทพฯ แล้ว ก็ใช้เวลาให้คุ้มค่า หาช่องทางรองรับไว้ทุกด้านก่อน เรียกว่าทำการบ้านเยอะมาก ทั้งในตัวสินค้า ตลาด การติดต่อประสานงานกับกลุ่มแม่บ้าน ทั้งที่แม่อาย ซึ่งก็มีกลุ่มญาติพี่น้องกัน และที่เมืองเชียงใหม่”

ครั้งแรกของการออกงานแสดงสินค้า สร้างพลังให้กับคุณรุ่งอรุณ ในการผลักดันแบรนด์ Run Ga Run ให้ก้าวไปข้างหน้า

“ออกงานครั้งแรก ขายได้เกือบหมด กระทั่งมีเจ้าหน้าที่ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพบางไทร ชักชวนให้เข้ามาเป็นสมาชิก และจากนั้นก็ได้รับการพัฒนาและออกงานอีกหลายๆ แห่ง โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงาน

กับระยะเวลาการสร้างฐานอาชีพให้กับตัวเองครั้งนี้ ใช้เวลาหนึ่งปีครึ่ง จนมั่นใจว่าสามารถก้าวมาสู่โลกของผู้ประกอบการเต็มตัวได้ และเป็นการเดินทางกลับบ้านเกิดที่เต็มเปี่ยมไปด้วยพลังและความมั่นใจ

ผลงานจากธรรมชาติ  ผ้า+งานปักมือ คือตัวตน

การออกงานแสดงสินค้าเป็นหนทางสร้างรายได้และประชาสัมพันธ์สินค้าที่ดี ซึ่งคุณรุ่งอรุณ เลือกช่องทางนี้เป็นหลัก โดยกับงานแสดงสินค้าที่ไปร่วมจะมีทั้งที่เสียค่าใช้จ่ายและหน่วยงานภาครัฐสนับสนุน โดยปัจจุบันออกงานใหญ่ปีละประมาณ 7 ครั้ง ซึ่งแต่ละครั้งให้ผลตอบรับดี จนทำให้ทุกวันนี้มีการส่งงานให้กลุ่มแม่บ้านได้ทำอย่างต่อเนื่อง

“เมื่อก่อนตอนทำงานประจำ เวลานำสินค้าไปออกงานจะจ้างพนักงานไปช่วยดูแลลูกค้าในวันธรรมดา พอวันเสาร์-อาทิตย์ก็ไปพบลูกค้าด้วยตัวเอง ทำให้รู้และมองตลาดออก กระทั่งแน่ใจว่าอาชีพนี้หล่อเลี้ยงชีวิตและผู้ร่วมทางคือชาวบ้านที่เป็นผู้ผลิตได้ ซึ่งตอนนี้มีอยู่หลายกลุ่ม แต่ว่ากลุ่มละไม่กี่คน อย่างงานปักผ้าก็จะมีผู้ชำนาญอยู่ราว 3 คน ช่างเย็บ 5-6 คน ซึ่งการมอบหมายงานให้แต่ละกลุ่มทำ ต้องดูความถนัดของเขาด้วย จากนั้นก็เข้าไปสอน ผลิตในทิศทางที่กำหนดให้ สำหรับรายได้อย่างช่างปักทำจริงจังก็ได้เดือนหนึ่งเป็นหมื่นนะ”

2 ปีกับการก้าวมาสู่ผู้ประกอบการเต็มตัว การวางฐานที่มั่นคงส่งผลให้ชีวิตดำเนินได้อย่างราบรื่น และพร้อมขยายการทำงานให้ครอบคลุมมากขึ้น อย่างการปลูกพืชที่นำมาย้อมผ้า

“สีธรรมชาติที่ใช้ในการย้อม 50 เปอร์เซ็นต์ปลูกเอง อย่างสีเหลืองจากใบสมอไทย ชมพูจากครั่ง น้ำตาลจากมะเกลือ และในปี 2560 ก็ลงมือปลูกต้นครามเอง ซึ่งที่บ้านทำเกษตรอินทรีย์อยู่แล้ว พ่อเป็นเกษตรกรตัวอย่าง แม่ก็ชอบปลูกพืชผัก เราก็ขอพื้นที่มาปลูกสิ่งที่ต้องใช้กับการย้อมผ้า ตอนแรกก็ 1 งาน จนกระทั่งขยับมารวมแล้วประมาณ 1 ไร่”

นอกจากเสื้อผ้าซึ่งเป็นสินค้าเริ่มต้นและยังคงได้รับความนิยม อีกหนึ่งสินค้ากำลังมาแรง คือ กระเป๋ารูปแบบต่างๆ ที่มีเอกลักษณ์ตรงการปักมือด้วยเส้นฝ้ายธรรมชาติ ซึ่งคุณรุ่งอรุณให้ความหมายของสินค้าที่ทำออกสู่ตลาดว่า

“เราพยายามทำให้ผ้า เส้นด้าย เกิดประโยชน์สูงสุด มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่มากพอ ซึ่งกระเป๋าจะได้รับความสนใจมาก ขายง่าย โดยเจาะกลุ่มผู้หญิง ซึ่งเราคำนึงถึงหลักการเข้าถึงผู้อุปโภค คือ หนึ่งเห็นแล้วประทับใจ เรียกว่าต้องตาตั้งแต่แรกก่อน ต่อมาคือฟังก์ชั่นการใช้งานต้องมากกว่าที่ลูกค้าคาดคิด ความแข็งแรง ทนทาน มาจากวัสดุธรรมชาติ ต้องดีต่อสิ่งแวดล้อม ดีต่อชุมชน เส้นใยที่นำมาทอผ้าไม่ทำลายมลภาวะ และรายได้ทั้งหมดจะคืนกลับสู่ชุมชน ฉะนั้น การทำงานของเราจึงไม่ใช่ระบบโรงงานอุตสาหกรรม แต่คือกลุ่มคนในชุมชน ให้เขาได้มีรายได้ในบ้านของตัวเอง ซึ่งเมื่อเราบอกกล่าวสิ่งเหล่านี้ให้ผู้ซื้อฟัง เขาจะเกิดความเข้าใจและรู้คุณค่า”

แรกเห็นต้องต้องตา ขายคุณค่าฝีมือไทย

แม้จะเป็นงานคราฟต์ ผลงานทำมือ แต่ทว่าในส่วนของราคากลับตั้งให้ผู้ซื้อวัยรุ่นไปจนถึงวัยเกษียณจับต้องได้ โดยเริ่มตั้งแต่ 150-2,200 บาท “แต่กลุ่มหลักของ Run Ga Run อายุ 35-50 ปี เป็นวัยที่มีกำลังซื้อ อย่างการขายผ่านออนไลน์ โพสต์สินค้าปุ๊บซื้อทันที บางคนอาจไม่ได้ใช้ประโยชน์นะ แต่เห็นแบบแล้วต้องตา ซึ่งรุ่งมองว่าผู้หญิงทุกคนมีความน่ารัก มีความหวานซ่อนอยู่ พอเขาเห็นเหมือนไปสะกิดทันที และกลุ่มคนที่รักธรรมชาติก็จะยินดีกับการได้จับจองเป็นเจ้าของ หรือบางคนชอบงานคราฟต์ งานฝีมือ ไม่รู้ด้วยว่าคือธรรมชาติ แต่เขายินดีซื้อแล้ว”

หลังจากขายผ่านออนไลน์และออกงานแสดงสินค้ามาได้ราว 2 ปี คุณรุ่งอรุณ จึงพร้อมกับการเปิดหน้าร้านซึ่งตั้งอยู่ในตัวเมืองเชียงใหม่ ส่งผลลูกค้ากลุ่มต่างชาติเพิ่มเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นทางแถบประเทศยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน โดยทั้ง 3 ช่องทาง นำพารายได้เดือนละประมาณ 100,000 -150,000 บาท โดยคิดเป็นกำไรราว 30 เปอร์เซ็นต์

“การทำงานคราฟต์ ค่าใช้จ่าย โดยเฉพาะค่าแรงสูงมาก อย่างกระเป๋าใบหนึ่งใช้เวลาปักกันเป็นวัน หรือมากกว่านั้น หรือผ้านำมาใช้ ซึ่งเราไม่ได้ทอเองทั้งหมด ก็จะมีที่นำเข้ามา ทั้งจากจีน ญี่ปุ่น ฝ้ายก็มีนำเข้าจากพม่า ซึ่งเราจะคัดเลือกคุณภาพดี ฉะนั้น ต้องคำนวณต้นทุนให้ดี”

ทั้งนี้สำหรับผู้ที่มีความฝันต้องการสร้างอาชีพในบ้านเกิด คุณรุ่งอรุณ แนะนำว่า “มีหลายคนเข้ามาบอกอยากกลับบ้าน เบื่อชีวิตในกรุงเทพฯ แต่สิ่งที่รุ่งบอกกลับไปคือ ถ้าต้นทุนชีวิตและครอบครัวไม่มีมากพอ ต้องวางแผนให้มากก่อนตัดสินใจ เพราะรุ่งเคยกลับมาแล้วไม่ไหว ทั้งๆ ที่นี่คือเชียงใหม่ คือบ้านเกิด ฉะนั้น ขอให้ตอบตัวเองให้ได้ก่อนว่าจะกลับมาทำอะไร จะหารายได้จากช่องทางไหน รายได้เท่าไหร่ถึงจะอยู่ได้ มีฐานที่จะรองรับมั่นคงดีหรือยัง ถ้ามีคำตอบชัดเจนแล้วค่อยก้าวกลับบ้านเกิด”

สนใจติดต่อเลือกชมสินค้า Run Ga Run ตั้งอยู่เลขที่ 42 ถนนสิงหราช ตำบลศรีภูมิ อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ (081) 422-2139 หรือคลิก https://www.facebook.com/rungarunstore