ที่มา | เทคโนโลยีชาวบ้าน |
---|---|
ผู้เขียน | อำพน ศิริคำ |
เผยแพร่ |
ฝ้าย (Cotton) คือ เส้นใยเก่าแก่ชนิดหนึ่งซึ่งใช้ในการทอผ้ามาแต่สมัยโบราณ โดยหลักฐานทางโบราณคดีที่บ่งบอกให้รู้ว่ามีการปลูกฝ้ายและปั่นฝ้ายเป็นเส้นด้ายมานานแล้ว คือการขุดพบฝ้ายในซากปรักหักพังอายุประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ที่แหล่งโบราณคดีโมฮันโจ ดาโร (Mohenjo daro) บริเวณแหล่งอารยธรรมลุ่มน้ำสินธุในเขตประเทศปากีสถานปัจจุบัน
ใยฝ้ายได้มาจากส่วนที่ห่อหุ้มเมล็ดของต้นฝ้าย หรือที่เรียกว่า ปุยฝ้าย ซึ่งมีลักษณะเป็นเส้นเล็กๆ ฝ้ายมีคุณสมบัติเนื้อนุ่ม โปร่งสบาย ระบายความร้อนได้ดี เนื่องจากฝ้ายมีช่องระหว่างเส้นใย จึงเหมาะกับสภาพอากาศในฤดูร้อน และเมื่อเปียกจะตากแห้งได้เร็ว การใช้ฝ้ายมาใช้งานทำได้โดยนำฝ้ายมาปั่นเป็นเส้นด้าย แล้วนำมาทอเป็นผืนผ้า
ท่านที่เคารพครับ!!! ปัจจุบันประเทศไทยมีการปลูกฝ้ายน้อยมาก แต่ที่บ้านดินทรายอ่อน หมู่ที่ 6 ตำบลหัวนา อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ได้มีเกษตรกรรวมตัวกันเป็นกลุ่มและปลูกฝ้าย แล้วนำเส้นใยจากดอกฝ้ายมาถักทอเป็นผ้าฝ้ายรูปแบบต่างๆ ย้อมด้วยสีธรรมชาติ แล้วแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลากหลายชนิด จนได้รับความสนใจจากลูกค้าทั่วประเทศ สร้างงาน สร้างอาชีพ ทำรายได้เข้าหมู่บ้านปีละหลายล้านบาท

คุณพัชรินทร์ ชัยรัตน์ อายุ 44 ปี ประธานกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์พื้นเมืองบ้านดินทรายอ่อน โทร. (081) 592-6185 หมู่ที่ 6 ตำบลหัวนา อำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ให้ข้อมูลว่า ในช่วงที่ตนเองยังเด็ก เห็นคุณแม่ทอผ้าขาวม้า ทั้งผ้าฝ้ายและผ้าไหม โดยเฉพาะผ้าไหม ขายผืนละ 700 บาท เป็นรายได้เสริมจุนเจือครอบครัวและส่งลูกเรียนหนังสือ นอกเหนือจากเงินเดือนของคุณพ่อซึ่งรับราชการครูที่เงินเดือนน้อย
ในปี 2552 ได้รวมตัวจัดตั้งเป็นกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์พื้นเมืองบ้านดินทรายอ่อน สมาชิก 35 คน ระยะแรกทอผ้าฝ้ายมัดหมี่ 2 ตะกรอ ผ้าขาวม้า ผ้าขิตสลับหมี่ (สามกษัตริย์) ต่อมาได้ร่วมคัดสรรกับกรมการพัฒนาชุมชน ได้รับการคัดสรรระดับ 4 ดาว ปัจจุบันระดับ 5 ดาว คือก้าวไกลสู่สากลได้แล้ว
ปัจจุบัน ได้แปรรูปผ้าทอหลายชนิด เช่น กางเกงใส่ลำลอง เสื้อสตรี เสื้อบุรุษ (คอจีน คอกลม) ทั้งแขนสั้น แขนยาว เน้นผ้าไทยใส่สบายๆ ใส่ได้ทุกวัน นอกจากนี้ ยังได้แปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ด้วย เช่น โบผูกผม เชือกมัดผม เบาะรองนั่ง หมอนกอด

การจัดหาวัตถุดิบ ปัจจุบันกลุ่มได้ปลูกฝ้ายเพื่อเป็นวัตถุดิบในการผลิต เฉพาะตนเอง 15 ไร่ และสมาชิกคนอื่นๆ อีกจำนวนหนึ่ง โดยปลูกฝ้าย 3 สายพันธุ์ ได้แก่ 1. ฝ้ายแพ (ดอกสีขาว) 2. ฝ้ายตุ่ย (ดอกสีน้ำตาล) 3. ฝ้ายเขียว (ดอกสีเขียว)

การย้อมสี ในระยะแรกจะใช้สีเคมี แต่ต่อมาผู้บริโภคต้องการสีธรรมชาติมากขึ้นและไม่เกี่ยงเรื่องราคา ดังนั้น กลุ่มจึงหันมาย้อมด้วยสีธรรมชาติ และมีการปลูกครามเพื่อเป็นวัตถุดิบในการทำสีย้อมจำนวน 3 ไร่
ราคาจำหน่าย
- ผ้าถุงมัดหมี่ 4 ตะกรอ ย้อมคราม ขายปลีก 2,800 บาท ส่ง 1,800 บาท
- ผ้าขิตสลับหมี่ (ไหมบ้าน) ปลีก 8,500 บาท ส่ง 5,500 บาท
- ผ้าขิตสลับหมี่ (ผ้าฝ้าย) ปลีก 3,500 บาท ส่ง 2,500 บาท
- กางเกงเล ย้อมคราม ปลีก 1,800 บาท ส่ง 1,000 บาท
- ผ้าพันคอ ปลีก 380 บาท ส่ง 200 บาท
- ผ้าคลุมไหล่ ปลีก 580 บาท ส่ง 380 บาท
- เสื้อบุรุษ 1,500-2,500 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของชิ้นงาน
- เสื้อสตรี 850 บาท
- เดรส 1,800-2,500 บาท แล้วแต่ความยากง่ายของชิ้นงาน
การตลาด
จำหน่ายที่กลุ่มในหมู่บ้าน ออกขายตามงานต่างๆ มีรายได้เดือนละ 200,000-500,000 บาท หรือปีละหลายล้านบาท
รางวัลแห่งความภูมิใจ
- รางวัลชนะเลิศระดับประเทศ ผ้าขาวม้าท้องถิ่นหัตถศิลป์ไทย ของประชารัฐรักสามัคคี (19 สิงหาคม 2560) ประเภทเส้นใยธรรมชาติและสีธรรมชาติ
- รางวัลชนะเลิศด้านเกษตร กรณีผู้ประกอบการธุรกิจ SME ผ้าและผลิตภัณฑ์จากผ้า กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน (7 กันยายน 2560)
- รางวัลชนะเลิศ ในการประกวดผ้าขาวม้าฝ้าย ในงานวันเกษตรภาคอีสาน ปี 2561 (26 มกราคม-4 กุมภาพันธ์ 2561) ณ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
จะเห็นว่ากลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์พื้นเมืองบ้านดินทรายอ่อน มีการผลิตวัตถุดิบคือฝ้ายด้วยตนเอง นำมาทอด้วยภูมิปัญญา ย้อมด้วยสีจากธรรมชาติที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม นำมาแปรรูปเพิ่มมูลค่า ผลิตภัณฑ์ที่มีความละเอียดมีคุณภาพ จนได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดหลายรางวัล ด้วยเหตุนี้จึงได้รับความนิยมจากลูกค้าทั่วประเทศ ดังนั้น ท่านใดที่สนใจอยากจะเยี่ยมชม หรือสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ ติดต่อได้ที่ คุณพัชรินทร์ ชัยรัตน์ โทร. (081) 592-6185