ถนนห้วยแก้ว ด้านหน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) หรือ “หน้ามอ” ถือเป็นทำเลทองและเป็นย่านเศรษฐกิจอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงใหม่ กำลังซื้อหลักคือ “นักศึกษา” หากมีโปรดักต์ที่ถูกกับไลฟ์สไตล์ของกำลังซื้อกลุ่มใหญ่นี้ ธุรกิจการค้าก็ไปได้แบบปัง ๆ

เหมือนเช่น “Thesis Coffee” ร้านกาแฟ สไตล์โคเวิร์กกิ้งสเปซ ที่มุ่งตอบโจทย์นักศึกษาเป็นหลัก “พันธกิจ สดุดีวงศ์” เจ้าของร้านหนุ่ม คนรุ่นใหม่ไฟแรง ให้สัมภาษณ์ “ประชาชาติธุรกิจ”

“ปอนด์-พันธกิจ สดุดีวงศ์” เล่าถึงที่มาที่ไปของ Thesis Coffee ว่า เห็นโอกาสทำเลหน้ามอ (มช.) ที่สามารถทำธุรกิจได้ โดยเฉพาะ “ร้านกาแฟ” ซึ่งเดิมมีความตั้งใจอยากทำโคเวิร์กกิ้งสเปซ (Co-working space) และได้ไปสำรวจรูปแบบโคเวิร์กกิ้งสเปซมาหลายแห่งในกรุงเทพฯ แต่ก็เห็นว่าเชียงใหม่ยังไม่พร้อม เพราะต้นทุนในการจ่ายค่าบริการค่อนข้างสูงจึงมาลงตัวกับธุรกิจร้านกาแฟ Thesis Coffee โดยตั้งใจทำให้เป็นร้านกาแฟสไตล์โคเวิร์กกิ้งสเปซ ที่สามารถนั่งทำงานได้ มี Wi-Fi แบบไม่จำกัดเวลา ตอบโจทย์กลุ่มนักศึกษา ที่มีไลฟ์สไตล์ชอบนั่งทบทวนตำราเรียน อ่านหนังสือ ทำรายงานชิล ๆ สบาย ๆ ในร้านกาแฟ

ตึกแถวเก่าเก็บของคุณยาย บนถนนห้วยแก้ว หน้ามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ “ปอนด์” รีโนเวตใหม่ด้วยเงินลงทุนราว 1,500,000 บาท ออกแบบให้ดูเรียบ โปร่ง โล่ง ทันสมัย สไตล์โมเดิร์นผสมมินิมอล (Modern & minimal style) ทุกตารางเมตรเป็นพื้นที่สำหรับนั่งทำงาน โต๊ะ-เก้าอี้ดีไซน์ด้วยงานไม้ทั้งหมด

ขณะที่ขนาดความจุรองรับลูกค้าได้ราว 50 คน และพื้นที่ชั้นสองซึ่งอยู่ระหว่างการปรับปรุง จะสามารถรองรับลูกค้าได้อีก 50 คน รวมพื้นที่ทั้งหมดจะสามารถรองรับลูกค้าที่มาใช้บริการได้ราว 100 คน

ปอนด์บอกว่า หลังเรียนจบจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ทำงานประจำเป็นที่ปรึกษาทางธุรกิจ (business consult) อยู่ระยะหนึ่ง และลาออกเพื่อมาค้นหาตัวเอง ด้วยเป็นคนชอบทำอาหาร จึงตัดสินใจนำเงินเก็บจากเงินเดือนประจำมาลงทุนทำธุรกิจ food truck ขายแฮมเบอร์เกอร์ บนถนนนิมมานเหมินท์

ซึ่งเป็นแฮมเบอร์เกอร์ที่เขาเป็นคนปรุงเองทำเอง รสชาติอร่อยมากจนลูกค้าติดอกติดใจ ขายดิบขายดี ขายบน food truck ได้ราว 1 ปี ก็ขยับขยายกิจการ ลงทุนเปิดร้านอาหาร “Beast Burger” บนถนนนิมมานเหมินท์ ซอย 17 โดยเปิดมาได้ราว 1 ปี ลูกค้าแน่นร้านทุกวัน ซึ่งลูกค้ากลุ่มหลักเป็นชาวต่างชาติ 80-90% และวางแผนเตรียมขยายสาขาไปยังกรุงเทพฯ ด้วย เร็ว ๆ นี้

สำหรับร้าน Thesis Coffee เพิ่งเปิดบริการได้ราว 3 เดือน จุดขายหลักไม่ใช่ขายความเป็นร้านกาแฟ ทว่าขายความเป็น “โคเวิร์กกิ้งสเปซ” ดั่งที่ปอนด์ตั้งใจอยากทำ แต่ไม่ได้คิดค่าบริการเป็นรายชั่วโมงแบบโคเวิร์กกิ้งสเปซทั่วไป เพียงแค่สั่งกาแฟแก้วเดียว หรือเครื่องดื่มอะไรสักแก้ว ก็สามารถนั่งทำงานในร้านได้แบบไม่จำกัดเวลา

เมนูเครื่องดื่มในร้านมีราว 20 เมนู ทั้งชา-กาแฟ และมีเบเกอรี่ที่เขาทำเอง (homemade bakery) ที่ทำแบบวันต่อวัน ลูกค้ากลุ่มหลักที่มาใช้บริการเป็นนักศึกษาถึง 90% อีก 10% เป็นคนทำงานทั่วไปและชาวต่างชาติ ซึ่งจำนวนลูกค้าที่มาใช้บริการเฉลี่ยต่อวันราว 100 คน

“นักศึกษาจะหมุนเวียนกันเข้ามาเรื่อย ๆ ส่วนใหญ่มานั่งอ่านหนังสือ ทำรายงาน ทำ Thesis ลูกค้ามาแล้วก็กลับมาซ้ำ ขาประจำก็มีมากขึ้น”

ปอนด์บอกอีกว่า ทำเลที่ตั้งของร้านถือเป็นจุดได้เปรียบ ขณะที่รูปแบบธุรกิจค่อนข้างตอบโจทย์ตลาด โดยตั้งเป้าคืนทุนภายใน 2 ปี ซึ่งจุดสำคัญต้องควบคุมคุณภาพให้ได้มาตรฐาน เพราะสิ่งที่ไม่มีประสบการณ์ในการทำมาก่อนยิ่งต้องเรียนรู้ให้มากขึ้น

ร้านกาแฟสไตล์โคเวิร์กกิ้งสเปซในแบบฉบับของ “Thesis Coffee” เจ้าของร้านหนุ่มวัย 26 ปี ยืนยันว่าเป็นธุรกิจที่ run ได้ไม่ยาก