ออกแบบให้โดนใจ! “ใส่ชุดไทย…แล้วไปกัน”

ชุดไทย นับเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ ที่สร้างความภาคภูมิแก่คนในชาติมาเป็นเวลาช้านาน เพราะด้วยมีลักษณะเฉพาะตัว ผืนผ้ามีความมันวาว เนื้อเรียบ ตกแต่งลวดลายไทยๆ และมีสีสันสะดุดตา เป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวต่างแดน บางคนถึงกับซื้อติดมือกลับไปบ้านเกิดของตน

แต่เมื่อเวลาผ่านไป คนไทยกลับมองว่าชุดไทยล้าหลัง ไม่น่าสวมใส่เหมือนชุดแฟชั่นตามกระแส ทำให้ความนิยมใส่ชุดไทยลดน้อยลงไป รับวัฒนธรรมการแต่งกายต่างชาติเข้ามาแทน

คุณบี-ลลดา ตรงต่อศักดิ์ วัย 26 ปี นับเป็นอีกหนึ่งคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการสืบสานความเป็นไทย ผู้ก่อตั้งเสื้อผ้าแบรนด์ April’s (เอพริล’ส) รณรงค์ให้คนไทยสวมใส่ชุดไทยได้ทุกวัน ออกแบบชุดไทยด้วยการเลือกสีสัน ลวดลายให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ ดูสมวัย และราคาไม่แพง

คุณบี แนะนำตัวก่อนว่า จบการศึกษาระดับปริญญาตรี คณะศิลปศาสตร์ วิชาเอกภาษาจีน จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  เมื่อจบการศึกษามา ก็เข้าทำงานออฟฟิศ ตำแหน่งพนักงานประสานงาน ที่สถาบันรับรองมาตรฐาน ISO อยู่นาน 2-3 ปี

เมื่อถามว่ามาเริ่มจับธุรกิจชุดไทยได้อย่างไรนั้น คุณบี เล่าว่า ในขณะที่ทำงานออฟฟิศอยู่นั้น มีช่วงหนึ่งที่มีการรณรงค์ให้พนักงานใส่ชุดไทยไปทำงาน ความรู้สึกของคนรุ่นใหม่อย่างคุณบี ไม่รู้ว่าจะประยุกต์หรือแต่งชุดไทยอย่างไร เพราะชุดไทยแต่ละชุดทำให้ดูแก่กว่าวัย ราคาแพง หาซื้อยากอีกต่างหาก

“ตอนนั้นเกิดไอเดียอยากจะทำผ้าไทยให้เป็นเสื้อผ้าแฟชั่นที่วัยรุ่นสามารถใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน” คุณบี กล่าว

กระทั่งช่วงต้นปี 2556 ได้ลาออกจากงานประจำ และเตรียมตัวเพื่อสมัครงานใหม่ ซึ่งใกล้กับเทศกาลสงกรานต์พอดี  ไอเดียที่เคยคิดว่าอยากจะทำชุดไทยให้คนรุ่นใหม่สวมใส่ เริ่มกลับมาอีกครั้ง เทศกาลสงกรานต์เป็นที่รู้กันอยู่แล้วว่าสีสันต้องมาก่อน คุณบี เลยออกแบบชุดไทยสีสันน่ารัก ราคาไม่แพง เพราะเน้นกลุ่มวัยรุ่น ได้ใส่ชุดไทยสาดน้ำ ร่วมอนุรักษ์ความเป็นไทยอย่างรื่นเริงบันเทิงใจ

ซึ่งในครั้งนี้ คุณบี คิดแล้วลงมือทำทันที ปรากฏว่าได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด ยิ่งทำให้มั่นใจมากขึ้นว่าธุรกิจนี้สามารถไปต่อได้ จึงนึกย้อนกลับไปความคิดแรกที่ว่า อยากนำผ้าไทยมาประยุกต์ให้เป็นเสื้อผ้าแฟชั่น สามารถสวมใส่ได้ตลอดปี ไม่ใช่แค่ช่วงเทศกาลไทยเท่านั้น ทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นจุดกำเนิดร้าน  April’s (เอพริล’ส) ในปัจจุบัน

“เสื้อผ้าแบรนด์เอพริล’ส มีดีไซน์ที่แตกต่างจากชุดไทยเดิมๆ เน้นดูทันสมัย สามารถหยิบมาสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน “สีและลายของผ้า เราจะเน้นโทนสีหวาน ดอกเล็ก เพื่อทำให้ดูเหมาะกับวัยรุ่นมากขึ้น ในบางแบบเราเลือกที่จะดีไซน์โดยนำความโดดเด่นของผ้าไทยมาผสมกับผ้าแฟชั่น นอกจากที่จะทำให้สวย อย่างแตกต่างแล้ว ยังช่วยลดต้นทุนของผ้าไทยที่มีราคาสูง ให้สามารถซื้อขายได้ในราคาที่ไม่แตกต่างจากแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นในท้องตลาด” คุณบี พูดถึงลักษณะเด่นของผลงาน

ส่วนราคาขายที่เน้นย้ำว่าขายไม่แพงนั้น มีตั้งแต่ราคา 390 บาท ถึง 690 บาท หากเทียบกับราคาเสื้อผ้าแฟชั่นตามท้องตลาดช่วงราคานี้ถือว่าเท่าเทียมกับเสื้อผ้าแฟชั่นที่วางขายอยู่ทั่วไป

โดยกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ เป็นกลุ่มวัยทำงาน อายุตั้งแต่ 22 ปี ถึง 32 ปี เนื่องจากกลุ่มคนเหล่านี้คลุกคลีกับโซเชียลมาก เอพริล’ส จึงทำการตลาดออนไลน์ผ่านเฟซบุ๊ก เพื่อเข้าถึงกลุ่มนี้ได้อย่างทั่วถึงและเป็นการโปรโมทร้านไปในตัว

ในด้านยอดขาย ชุดไทยเอพริล’ส ดีไซน์โดดเด่นที่ลงตัว สร้างรายได้เฉลี่ย 150,000 บาทต่อเดือน แก่คุณบีเจ้าของแนวคิด อย่างไรก็ตามยอดขายที่ดีไม่ได้บ่งบอกว่าธุรกิจจะไม่พบเจออุปสรรคหรือปัญหา

“ผ้าที่เราใช้ค่อนข้างมีข้อจำกัด จะไม่สามารถผลิตได้เหมือนผ้าแฟชั่นทั่วไป ลักษณะส่วนใหญ่เป็นผืน ลายและสีส่วนใหญ่จะผลิตออกมาในจำนวนไม่มาก รวมถึงไม่ผลิตซ้ำหรือค่อนข้างใช้ระยะเวลานานในการผลิต” คุณบี เผยถึงปัญหาการดำเนินธุรกิจ

และว่า ผ้าที่นำมาใช้นั้น ได้แก่ ผ้าพิมพ์ลาย ผ้าไหมเทียม ผ้าไหมแพรวา ผ้าฝ้าย เป็นต้น เพื่อเน้นความหลากหลายของชุดไทยแต่ละคอลเล็กชั่น โดยเธอจะสร้างสรรค์ แบบใหม่ๆออกมาทุกเดือน โดยในอนาคตคาดว่าจะนำผ้าไทยชนิดอื่นๆมาประยุกต์ใช้ผลิตชุดคอลเล็กชั่นต่อๆไป

“ในตอนนี้คนที่นิยมใส่ผ้าไทยยังคงเป็นเฉพาะกลุ่ม เช่น ผู้ใหญ่ หรือ ผู้ที่มีกำลังทรัพย์ในการซื้อผ้าไทยมาใส่ ซึ่งเป้าหมายของเอพริล’ส คือต้องการสร้างสรรค์สินค้าที่เป็นผ้าไทย ขยายกลุ่มเป้าหมายให้มีความหลากหลายมากขึ้น เน้น กลุ่มสาวนักศึกษา สาววัยทำงาน ให้เปลี่ยนความคิดที่มีต่อผ้าไทย เล็งเห็นคุณค่า และหันมาใส่ผ้าไทยในแบบฉบับของแบรนด์เอพริล’ส และขยายธุรกิจส่งออกสินค้าไปยังต่างประเทศต่อไป” คุณบี เผยเป้าหมาย

สนใจหรือสั่งซื้อเสื้อผ้าคอลเล็กชั่นใหม่ของเอพริล’ส ได้ทาง Facebook : April’s ใส่ชุดไทย..แล้วไปกัน ( Instagram : @aprilsthai และ Line : @aprilsthai