รวม 100 เมนูเจ ต้อนรับเทศกาลกินเจ 2566 รับรองไม่จำเจ

รวม 100 เมนูเจ ต้อนรับเทศกาลกินเจ 2566 รับรองไม่จำเจ

ใกล้เข้ามาทุกทีแล้วสำหรับเทศกาลกินเจปี 2566 อยากกินเจแต่ไม่รู้จะกินอะไรดี บางทีก็มีแต่เมนูซ้ำๆ อย่าง ผัดหมี่ซั่วเจ ต้มจับฉ่ายเจ เต้าหู้ทอดเจ แต่รู้หรือไม่ว่า จริงๆ แล้วยังมีอีกหลากหลายเมนูเจให้เราได้เลือก ทั้งเมนูต้ม ผัด แกง ทอด ขนม หรือแม้แต่เมนูเครื่องดื่ม บอกเลยว่ายังมีเมนูเจที่รังสรรค์ออกมาได้คล้ายกับอาหารทั่วไปอีกด้วย

ใครที่เป็นสายบุญก็เตรียมล้างท้องจากเนื้อสัตว์ไว้เลย เพราะปีนี้เราจะมากินเจกันแบบเต็มอิ่ม 9 วัน 9 คืน จุกๆ ไปเลย โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 15-23 ตุลาคม แต่ถ้าใครอยากเตรียมพร้อมก่อน ก็เริ่มก่อนได้ตั้งแต่มื้อเย็นของวันที่ 14 ตุลาคมกันไปเลย

ส่วนใครที่กำลังคิดว่าเจปีนี้กินอะไรดี ไม่ต้องกลัวอีกต่อไป เพราะเราคิดมาให้แล้ว วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะมารวบรวมเมนูเจ เพื่อเป็นทางเลือกที่หลากหลายให้กับสายบุญในปีนี้ มีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย  

ก่อนที่จะไปดู 100 เมนู มาดูสูตร 5 เมนูสุดฮิต ไม่ว่าจะเป็นเมนู ต้ม ผัด แกง ทอด และขนม เราได้รวบรวมขั้นต้อนการทำมาไว้ให้แล้ว คือ พะโล้เจ หน่อไม้ผัดพริกสดเจ แกงเทโพเจ หมูกรอบทอดเจ และขนมเค้กกล้วยหอมเจ เพื่อให้ทุกท่านได้ลองนำสูตรเหล่านี้ไปใช้ ที่จะทำให้การกินเจไม่น่าเบื่ออีกต่อไป

5 เมนู สุดฮิต

1. พะโล้เจ

วัตถุดิบ

1. เครื่องพะโล้ 2 ซอง 

2. ผงพะโล้ 2 ช้อนชา

3. เม็ดพริกไทยดำ 2 ช้อนชา 

4. เต้าหู้พวง ครึ่งพวง 

5. เต้าหู้แข็ง 1 ก้อน 

6. น้ำตาลปี๊บ 2 ช้อนโต๊ะ 

7. เห็ดหอม 

8. ซอสเห็ดหอม 

9. ซีอิ๊วเห็ดหอม 

10. ซุปเห็ดหอมชนิดก้อน 2 ก้อน 

วิธีทำ 

1. นำเห็ดหอมที่แช่น้ำแล้วบีบน้ำออก (น้ำอย่าเพิ่งทิ้งเอาไว้ใส่ตอนผัด) นำเห็ดหอมมาคลุกกับซอสเห็ดหอมและซีอิ๊วขาว 

2. ตั้งกระทะใส่น้ำมันพืชหลังจากน้ำมันร้อนนำเห็ดหอมลงไปผัด ให้พองเพื่อเพิ่มความหอมจากนั้นตามด้วยผงพะโล้น้ำตาลปี๊บและเครื่องพะโล้ผัดให้เข้ากันระหว่างนี้คอยเติมน้ำที่แช่เห็ดหอมลงไปทีละนิด 

3. เมื่อน้ำตาลปี๊บละลายแล้วใส่เต้าหู้พวงลงไปผัดเพื่อลดกลิ่นหืนของเต้าหู้และให้น้ำของเครื่องพะโล้ซึมเข้าไปในเนื้อเต้าหู้หลังจากผัดเข้ากันดีแล้ว เติมน้ำเคี่ยวไปสักพักจนเดือดยกลง 

4. เปลี่ยนหม้อเคี่ยวจนเดือดแล้วจึงใส่เต้าหู้ขาวจากนั้นชิมและปรุงรสตามชอบ

2. หน่อไม้ผัดพริกสดเจ

วัตถุดิบ

1. หน่อไม้สดลวก 2 ชาม

2. พริกชี้ฟ้าปั่นหยาบ (ขึ้นอยู่ว่าชอบเผ็ดไหม) 10-15 เม็ด

3. ใบมะกรูด 10-15 ใบ

4. โหระพา 2 ก้าน

5. น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ

6. เกลือ 1 ช้อนชา

7. ซีอิ๊ว 2 ช้อนโต๊ะ

วิธีทำ

1. นำหน่อไม้สดที่ลวกไว้แล้วมาหั่นเป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำไปต้มอีกครั้ง ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย เพื่อล้างพิษ เมื่อหน่อไม้เดือดตักขึ้นล้างน้ำสะอาด 2 ครั้ง พักไว้

2. นำพริกชี้ฟ้ามาปั่นพอหยาบ หรือจะตำก็ได้ พักไว้

3. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเล็กน้อย นำพริกที่ปั่นลงไปผัดให้หอม เติมหน่อไม้ลงไปผัด

4. ปรุงรสด้วย เกลือ น้ำตาล ซีอิ้ว ผัดให้เข้ากัน ชิมรสตามชอบ

5. ใส่ใบมะกรูด โหระพาลงไปผัด เมื่อทุกอย่างเข้ากัน ตักขึ้นพร้อมเสิร์ฟ

3. แกงเทโพเจ

วัตถุดิบ

ผักบุ้งแก้ว 2 กำ 

เห็ดฟาง 165 กรัม

เต้าหู้ขาว (หั่นชิ้นทอด) 1 ก้อน

กุ้งเจ 8 ตัว

น้ำตาลโตนด 60 กรัม

น้ำส้มมะขาม 40 กรัม

กะทิคั้นสด 1/2 กิโลกรัม

พริกแกงเจ 3 1/2 ช้อนโต๊ะ

ซีอิ๊วขาว 4 ช้อนโต๊ะ

ใบมะกรูด 4-5 ใบ

พริกชี้ฟ้าเขียว-แดง 4 เม็ด

น้ำเปล่า 2 ถ้วย

วิธีทำ

1. ตั้งหม้อ เปิดไฟกลางค่อนอ่อน ใส่กะทิลงไปเล็กน้อย ตามด้วยพริกแกง ยีให้พริกแกงละลายกับกะทิ ผัดไปเรื่อยๆ จนกระทั่งแตกมันเล็กน้อย แล้วเติมกะทิทั้งหมดลงไป คนให้ละลายเข้ากัน

2. ใส่น้ำตาล ซีอิ๊วขาว และน้ำมะขาม คนให้น้ำตาลละลาย

3. ใส่เต้าหู้ลงไป แล้วเติมน้ำเปล่าประมาณ 2 ถ้วย เพื่อคลายความข้นของกะทิ แล้วรอให้เดือด ใส่เห็ดฟาง ผักบุ้ง แล้วคนคลุกเคล้าให้ทั่ว พอเดือดดี เบาไฟ แล้วเคี่ยวสักครู่ เพื่อให้ผักบุ้งนุ่ม

4. เคี่ยวได้ที่ ใส่กุ้ง พริกสด ใบมะกรูด

5. สุดท้าย บีบน้ำมะกรูด แล้วใส่เปลือกแช่ไว้ในแกง เพื่อให้มีกลิ่นหอม พร้อมเสิร์ฟ

4. หมูกรอบทอดเจ

วัตถุดิบ

1. โปรตีนเกษตรแบบแผ่น 15 แผ่น

2. แป้งข้าวเจ้า 60 กรัม

3. แป้งสาลี 60 กรัม

4. แป้งหมี่กึง/แป้งอเนกประสงค์ถุงเขียว 30 กรัม

5. น้ำเปล่า 120 มิลลิลิตร

6. ดอกเกลือ 1 ช้อนชา

วิธีทำ

1. นำโปรตีนเกษตรแช่น้ำให้นุ่มแล้วบีบน้ำให้แห้งเตรียมพักไว้

2. นำแป้งข้าวเจ้า แป้งสาลี แป้งหมี่กึง/แป้งอเนกประสงค์ถุงเขียว ตามด้วยดอกเกลือ คลุกเคล้าให้เข้ากัน เสร็จแล้วเติมน้ำเปล่าลงไปกวนให้แป้งละลายเป็นเนื้อเดียวกัน เตรียมพักไว้

3. นำแผ่นโปรตีนที่เตรียมไว้แล้วนำแป้งที่ผสมเสร็จแล้วมาทาลงบนแผ่นโปรตีนแล้วนำโปรตีนแผ่นที่ 2 มาวางสลับด้านกันทาแป้งอีกครั้งหนึ่ง นำโปรตีนมาวางไว้ด้านบนเสร็จเรียบร้อย

4. แล้วนำไปนึ่งในน้ำเดือด (ใช้ไฟกลาง) ประมาณ 20 นาที เสร็จแล้วเอามาพักไว้ให้เย็น นำใส่ถุงแช่ช่องแข็งประมาณ 2 ชม. แล้วนำมาหั่นเป็นชิ้นพอประมาณ เตรียมพักไว้

5. ตั้งกระทะใส่น้ำมันเยอะพอประมาณ รอจนน้ำมันร้อน ใส่โปรตีนที่หั่นไว้แล้วลงไปทอดให้มีกลิ่นหอมเหลืองกรอบ ตักขึ้นให้เสร็จน้ำมัน จัดใส่จานพร้อมทาน

5. เค้กกล้วยหอมเจ

วัตถุดิบ

1. แป้งเค้ก 200 กรัม

2. ผงฟู 1 ช้อนชา

3. เบกกิ้งโซดา 1 ช้อนชา

4. เกลือ 1/4 ช้อนชา

5. น้ำตาลทราย 100 กรัม

6. นมถั่วเหลืองสูตรเจ รสจืด หรือนมอัลมอนด์ 150 กรัม

7. น้ำมันรำข้าว หรือ น้ำมันคาโนล่า 100 กรัม

8. กล้วยหอมงอมๆ บด 300 กรัม

9. น้ำมะนาวสด 1/4 ช้อนชา

10. อัลมอนด์สไลซ์ (สำหรับตกแต่งหน้า)

11. แครนเบอร์รีอบแห้ง (สำหรับตกแต่งหน้า)

วิธีทำ

1. นำกล้วยหอม มาบดให้ละเอียดด้วยส้อม ใส่น้ำมะนาวลงไปแล้วคนให้เข้ากัน

2. นำกล้วยหอมมาพักไว้

3. นำน้ำตาลทรายมาผสมกับนมถั่วเหลือง คนจนน้ำตาลละลายดี

4. ร่อนแป้งเค้ก เกลือ ผงฟู และเบกกิ้งโซดาเข้าด้วยกัน

5. เทนมถั่วเหลืองลงบนแป้ง แล้วคนผสมด้วยตะกร้อมือจนส่วนผสมเข้ากันดี

6. ใส่น้ำมันและกล้วยบด ตามลงไป แล้วใช้พายผสมให้เข้ากันดี

7. ตักส่วนผสมใส่พิมพ์ ให้ได้ประมาณ 3/4 ของพิมพ์

8. โรยหน้าด้วยอัลมอนด์สไลซ์ และแครนเบอร์รีอบแห้ง ตามชอบ

9. วอร์มเตาอบประมาณ 10 นาที แล้วนำเค้กกล้วยหอมเข้าเตาอบ ใช้ไฟบนล่าง อุณหภูมิ 180 องศา ประมาณ 15-20 นาที (แล้วแต่พิมพ์)

10. ครบเวลาเอาเค้กออกจากเตาอบ มาพักให้คลายร้อนแล้วนำเค้กออกจากพิมพ์ (ทิ้งข้ามคืนเนื้อเค้กจะฉ่ำขึ้น) พร้อมทาน

นอกจาก 5 เมนูสุดฮิตแล้วนั้น ยังมีเมนูเจที่เราได้รวบรวมมาไว้ให้ทุกท่านอีกถึง 100 เมนู เอาไปเป็นตัวเลือกในวันกินเจกันได้เลย 

เมนูต้ม

  1. ต้มจืดเต้าหู้
  2. กะหล่ำปลีต้มเห็ดหอม
  3. ต้มจับฉ่าย
  4. ต้มยำน้ำข้น
  5. ต้มยำน้ำใส
  6. ราดหน้า
  7. ข้าวต้ม
  8. ต้มจืดมะระ
  9. ต้มจืดหน่อไม้
  10. ซุปเห็ดหอม
  11. กระเพาะปลา
  12. ต้มข่าเห็ด
  13. ต้มผักกาดดอง

เมนูผัด

  1. ผัดถั่วงอก
  2. ยากิโซบะผัดซอสมะเขือเทศ
  3. ไวไวมาม่าผัดขี้เมา
  4. ผัดยากิโซบะสูตร
  5. ข้าวผัด
  6. ผัดกะเพรา
  7. ข้าวผัดเต้าหู้
  8. ผัดผัก
  9. ผัดซีอิ๊ว
  10. ผัดไทย
  11. ผัดหมี่ซั่ว
  12. ผัดกะหล่ำปลี
  13. ผัดผักบุ้ง
  14. ผัดคะน้าหมูกรอบ
  15. ผัดมะเขือยาว
  16. หน่อไม้ผัดพริกแกง
  17. ผัดมะเขือเต้าหู้
  18. ผัดฟักทอง
  19. ผัดพริกขิงถั่วฝักยาว
  20. เห็ดผัดพริกเผา
  21. ผัดฉ่า

เมนูแกง

  1. แกงเทโพ
  2. แกงเผ็ด
  3. แกงเห็ด
  4. พะแนงเต้าหู้
  5. แกงเขียวหวานหน่อไม้
  6. แกงเผ็ดเห็ดและสับปะรด
  7. แกงกะหรี่
  8. แกงเลียง
  9. แกงคั่ว
  10. แกงป่า
  11. แกงส้ม

เมนูทอด

  1. เต้าหู้ทอด
  2. ปอเปี๊ยะ
  3. หมูทอด
  4. เผือกทอด
  5. เห็ดทอด
  6. เกี๊ยวซ่าทอด
  7. ไข่เจียว
  8. โปรตีนเกษตรทอดกรอบ
  9. ข้าวโพดทอด
  10. หมูกรอบเจทอด
  11. มันฝรั่งทอด
  12. ทอดมันเห็ด 
  13. ไก่ทอดเจ
  14. หมูทอดเจราดซอสทงคัตสึ
  15. ปลาเค็มเจทอด
  16. ทอดมันหัวปลี

ขนม

  1. สังขยาใบเตย
  2. เค้กกล้วยหอม
  3. ขนมถ้วยโบราณ
  4. ขนมชั้น
  5. ข้าวเหนียวมะม่วง
  6. กล้วยทอด
  7. เปียกปูนกะทิสด
  8. วุ้นมะพร้าว
  9. ข้าวต้มมัด
  10. บัวลอย
  11. ข้าวเหนียวเปียกลำไย
  12. ข้าวหลาม
  13. ข้าวเหนียวทุเรียน
  14. ขนมตาล
  15. สาคูมะพร้าวอ่อน
  16. กล้วยบวชชี
  17. ขนมกล้วยมะพร้าวอ่อน
  18. เต้าทึงน้ำลำไย
  19. บ้าบิ่นมะพร้าวอ่อน
  20. ขนมงาทอด

เครื่องดื่ม 

  1. อเมริกาโน่เย็น
  2. เอสเพรสโซ่เย็น
  3. ลาเต้เย็น
  4. คาปูชิโน่เย็น
  5. มอคค่าเย็น
  6. ชาเย็น
  7. ชาไทย
  8. ชาเขียว
  9. ชาเขียวนม
  10. โกโก้
  11. น้ำเต้าหู้
  12. น้ำเต้าหู้ใบเตย
  13. นมสดสตรอเบอร์รี
  14. นมข้าวโพด
  15. น้ำเก๊กฮวย
  16. น้ำลำไย
  17. น้ำมะตูม
  18. น้ำใบบัวบก
  19. น้ำอัญชันมะนาว

และนี่ก็เป็น 100 เมนูเจ สำหรับใครที่ยังนึกไม่ออกว่าเจปีนี้กินอะไรดี ก็สามารถนำ 100 เมนูที่เราได้รวบรวมมาไว้ให้ ไปลองหาซื้อ หรือจะลองทำกินเองก็ย่อมได้ รับรองว่า กินเจปีนี้จะไม่จำเจอีกต่อไป เริ่มเลย