ผู้เขียน | เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
เปิดลิสต์ แฟรนไชส์ร้านกาแฟ น่าลงทุน คืนทุนไว จะมีแบรนด์ไหนบ้าง?
ธุรกิจร้านกาแฟ ยังคงเป็นธุรกิจที่คนให้ความสนใจและอยากจับจองเป็นเจ้าของกันอยู่เสมอๆ โดยเฉพาะตามปั๊มน้ำมัน ที่มักมีคนแวะเวียนเข้ามาใช้บริการ แต่การจะผุดแบรนด์ของตัวเองขึ้นมาก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย ดังนั้นแล้ว แฟรนไชส์ จึงเป็นอีกทางเลือกที่ตอบโจทย์ให้กับผู้ที่สนใจ
เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ ได้รวบรวม แฟรนไชส์ร้านกาแฟ แบรนด์ยอดฮิตต่างๆ ที่มีสาขาในปั๊มและสถานที่ขนส่งทั่วประเทศ ซึ่งแต่ละแบรนด์ที่คัดสรรมาเป็นแบรนด์ที่ได้มารตราฐานและมีระบบการจัดการ ระบบบริหารแฟรนไชส์ที่เป็นระบบชัดเจน จึงเหมาะให้กับผู้ที่สนใจได้พิจารณาและเตรียมตัวลงทุน ดังนี้
1. คาเฟ่ อเมซอน (Cafe Amazon)
ร้านกาแฟ Cafe Amazon ถือกำเนิดขึ้นครั้งแรกในปี 2545 จากวิสัยทัศน์ของผู้บริหาร บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ที่เล็งเห็นถึงโอกาสในการเพิ่มศักยภาพทางการตลาดของสถานีบริการน้ำมัน ปตท. จึงได้วางแนวคิดให้เป็นธุรกิจหนึ่งในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ที่สร้างรายได้ให้กับสถานีฯ และตอบสนองต่อไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคและคนเดินทางได้มากขึ้น
ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ร้าน CafeAmazon ถูกพัฒนาให้เป็นจุดนัดพบ แหล่งพักผ่อน สำหรับคนเดินทาง ตกแต่งด้วยโทนสีเขียว นำเสนอภาพลักษณ์แนวธรรมชาติ โดยใช้สวนหย่อมและน้ำพุเพื่อสร้างบรรยากาศ ร่มรื่น เย็นสบาย ความรู้สึกผ่อนคลาย ซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์ของร้าน Cafe Amazon เสมือนเป็นโอเอซิสของคนเดินทาง และด้วยเอกลักษณ์รสชาติเครื่องดื่มกาแฟที่เข้มข้น จึงกลายมาเป็นสโลแกนที่ว่า “Taste of Nature”
โดยรูปแบบ café Amazon มี 2 ประเภท คือ ในตัวอาคาร (Shop เช่น อาคารพาณิชย์ อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล ฯลฯ) มีการใช้พื้นที่ 30 ตร.ม. ขึ้นไป และ นอกตัวอาคาร (Stand Alone หรือ พื้นที่เปล่า) มีใช้พื้นที่ 100 ตร.ม. ขึ้นไป (*ทั้งนี้พื้นที่จะต้องอยู่นอกสถานีบริการน้ำมัน เท่านั้น)
- มีค่า Royalty Fee หรือค่าตอบแทนที่ต้องจ่ายอย่างต่อเนื่องตามสัดส่วนของผลการดำเนินงาน โดยคิดเป็น 3% ต่อเดือน จากยอดขายเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว
- ค่า Marketing Fee คือ เป็นค่าใช้จ่ายที่ทางบริษัทฯ เรียกเก็บจากแฟรนไชซี เพื่อเป็นเงินสมทบในงบประมาณด้านการตลาด โดยนำไปใช้ในเรื่อง การโฆษณา และประชาสัมพันธ์ต่างๆ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โดยคิดเป็น 3% ต่อเดือน จากยอดขายเครื่องดื่มเพียงอย่างเดียว
- ใช้งบลงทุน เริ่มต้นที่ 2,389,000 บาท ถึง 4,229,000 บาท
โดย รายละเอียดและประเภทของร้าน เพิ่มเติม มีดังนี้
รายละเอียดการสมัครแฟรนไชส์ ที่นี่
2. อินทนิล (inthanin)
ธุรกิจอินทนิล ได้รับความไว้วางใจในการส่งมอบความสุขในการดื่มกาแฟให้กับลูกค้ามาร่วม 10 ปี ปัจจุบันมีสาขามากกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ พิถีพิถันในการคัดสรรวัตถุดิบเกรดพรีเมียมเพื่อให้ผู้ที่รักการดื่มกาแฟและรักสุขภาพได้สัมผัสถึงรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ เพราะใช้กาแฟออร์แกนิกที่เพาะปลูก ดูแล และเก็บเกี่ยวตามธรรมชาติ ทำให้ทุกเมล็ดที่ได้มีคุณภาพ ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพ และยังช่วยให้ชาวไร่กาแฟสามารถเลี้ยงชีพไปพร้อมกับการดูแลรักษาผืนป่า
โดยรูปแบบ มี 3 ขนาด คือ S (7.20 ตร.ม.) M (25-40 ตร.ม.) และ L (40 ตร.ม. ขึ้นไป)
ข้อมูลการลงทุน ดังนี้
ค่าธรรมเนียมแรกเข้า | 150,000 บาท |
ค่าดำเนินการ | 50,000 บาท |
เงินค้ำประกันการบริหารร้าน | 100,000 บาท |
ค่าบริการระบบ Point Of Sale (POS) | 162,000 บาท |
ค่าออกแบบและจัดทำแบบก่อสร้าง | เริ่มต้น 50,000 บาท |
เงินลงทุนค่าอุปกรณ์การขายและวัตถุดิบครั้งแรก | 400,000 บาท |
*หมายเหตุ งบการลงทุนดังกล่าวไม่รวมค่าก่อสร้าง และ ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม
รายละเอียดการสมัครแฟรนไชส์ ที่นี่
3. กาแฟพันธุ์ไทย
จุดเริ่มต้น กาแฟพันธุ์ไทย ก่อกำเนิดสาขาแรกที่ สาขาบางปะหัน เมื่อวันที่ 19 เดือนกันยายน 2555 กาแฟพันธุ์ไทย ถูกกำหนดและออกแบบ ขึ้นภายใต้แนวคิดที่สร้างความเป็นแบรนด์กาแฟที่มีต้นกำเนิดจากความประทับใจในจิตวิญญาณ และความมีเสน่ห์ของเอกลักษณ์ไทย ผสมผสานกลมกลืนเข้ากับความทันสมัยแต่เรียบง่าย ความเป็นสากลและไลฟ์สไตล์ของสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว
โดยแฟรนไชส์ กาแฟพันธุ์ไทย มีดังนี้
รายละเอียดเพิ่มเติม ที่นี่
หมายเหตุ : เผยแพร่ครั้งแรกเดือนมีนาคม 2023