เผยแพร่ |
---|
ขายออนไลน์ต้องรู้! เปิดวิธีเลือก สินค้า แบบไหนมาขาย ให้ได้ยอดปังๆ
ในยุคสมัยที่ผู้บริโภคสามารถซื้อของช้อปปิ้งผ่านได้ตลอด 24 ชั่วโมง อีกทั้งมีการจูงใจด้วยโปรโมชั่นเด็ดๆ ทั้งลดราคา และลดค่าส่ง ทำให้ตลาด E-Commerce เป็นตลาดที่ใหญ่และเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง
คำถามสำคัญที่ตามมาคือ หากเราจะเริ่มต้นขายออนไลน์บ้าง ควรจะขายอะไรดี เว็บไซต์ POSTFAMILY มีคำตอบในเชิงวิธีคิดที่สามารถนำไปปรับใช้ได้ ดังต่อไปนี้
1. หา Niche Market
จนถึงทุกวันนี้ สินค้าเดิมๆ กับผลิตภัณฑ์เดิมๆ เริ่มมีเกลื่อนตลาดออนไลน์แล้ว สุดท้ายก็มาฟาดฟันราคากันเองจนกำไรเหลือเพียงหยิบมือหรืออาจเข้าเนื้อไปโดยไม่ทันรู้ตัว ทางแก้คือ ต้องพยายามหาผลิตภัณฑ์ที่แปลกใหม่ มีเอกลักษณ์ ตอบโจทย์การแก้ปัญหา หรือเป็นผลิตภัณฑ์เฉพาะกลุ่มมาขาย
สำหรับแนวคิดนี้ Seth Godin นักเขียนและนักการตลาดที่มีชื่อเสียงในอเมริกา ได้ให้ความเห็นสนับสนุนเรื่องนี้ภายใต้บล็อกส่วนตัวไว้ว่า “จับตลาดที่เล็กสุดที่คุณจินตนาการได้” นั่นก็เพราะ
- ตลาดขนาดเล็ก แต่กำลังซื้อไม่เล็ก สามารถสนับสนุนคุณได้ โดยผลิตภัณฑ์ไม่จำเป็นต้องแพง แต่ให้เน้นไปที่ความคุ้มค่าสำหรับผู้ซื้อ
- สามารถให้บริการหรือขายสินค้ากับลูกค้าได้อย่างเพียงพอ เพราะผลิตภัณฑ์ไม่ใช่แบบ Mass
- คู่แข่งน้อยกว่า มีโอกาสสร้างฐานลูกค้าให้แข็งแรง และเหนียวแน่นได้ก่อนคู่แข่งจะมาเปิดตลาดเป็นรายถัดไป
แนวคิดนี้อาจขัดกับความรู้จากระบบทุนนิยมแบบเดิมๆ แต่เชื่อเถอะ คุณไม่อยากเป็นใครก็ได้ในโลกออนไลน์แน่นอน เพราะฉะนั้น หากคุณมองหาตลาดเฉพาะสไตล์ Niche พบ ผู้ซื้อจะคอยค้ำจุนผลิตภัณฑ์ของคุณเอง
2. ตอบสนองความต้องการ
เจ้าของธุรกิจต้องรู้ก่อนว่า ผลิตภัณฑ์ของเราสามารถแก้ไขปัญหาหรือตอบสนองความต้องการให้กับลูกค้าได้หรือเปล่า ถ้าทุกวันนี้คุณทำงานอยู่ในส่วนงานใดที่มีความเฉพาะทาง มีงานอดิเรกที่ชื่นชอบ
นั่นนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการพูดคุยกับใครหลายๆ คนเพื่อรับฟังความคิดเห็น รับฟังปัญหา แล้วนำมาวิเคราะห์เพื่อเลือกผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมกับการนำไปขายบนโลกออนไลน์
3. ตรวจสอบ Market Trend
หากมาถึงจุดนี้แล้วยังไม่รู้จริงๆ ว่าจะเริ่มต้นขายอะไร แนะนำให้ลองเปิดดูเว็บไซต์หรือแอพพลิเคชั่นที่ขายของผ่านโลกออนไลน์ ตั้งแต่ Lazada, Shopee, Facebook, Amazon, eBay และแพลตฟอร์มอื่นๆ อีกมากมาย แล้วเริ่มต้นสังเกตพร้อมกับวิเคาะห์ว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ใดที่กำลังขายดี หรือมีแนวโน้มว่าจะขายดี
ถ้าเราค้นพบผลิตภัณฑ์ที่ขายดีในทุกๆ แพลตฟอร์มแล้ว เมื่อได้ข้อมูลแล้วค่อยเริ่มต้นค้นหาแบรนด์ และผลิตภัณฑ์ที่เราจะรับสินค้ามาจำหน่าย ซึ่งผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มขายดี ไม่ใช่สินค้าแนวแฟชั่นที่เหมือนลมพัดวูบเดียวแล้วจากไป

แต่ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่จะสามารถอยู่ในกระแสได้อย่างยาวนาน และเราต้องสร้างความแตกต่าง หรือหยิบจุดเด่นมาสร้างเป็นจุดขายเพื่อให้แตกต่างกับผู้ค้ารายอื่น หรือตอบสนองความต้องการในรูปแบบ Service เช่น รับประกันส่งภายใน 1 วัน หรือรับประกันสินค้าชำรุดภายใต้เงื่อนไข เป็นต้น