ในขณะที่โลกใบนี้ยังไม่ยอมหยุดหมุน โลกของความงามดูเหมือนจะไม่หยุดนิ่งด้วยเช่นกัน เพราะในทุกช่วงมีการค้นพบสิ่งใหม่ๆ เพื่อนำมาใช้บำรุงเรือนร่างให้ดูเปล่งปลั่งสดใส แถมยังเป็นการเสริมสร้างช่วยการชะลอวัยอีก

ครั้นเมื่อเข้าสู่ยุคดิจิตอล ใครจะไปคิดว่ากาแฟกับความงามสามารถเป็นสิ่งเคียงคู่กัน เพราะคุณสมบัติที่มีในกาแฟสร้างความสวยงามบนเรือนร่างของคุณได้ ฉะนั้น ตอนนี้รสชาติ และความหอมของกลิ่นกาแฟไม่ได้เพียงสร้างความสุขแก่นักดื่ม แต่ยังเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยทำให้คุณมีเสน่ห์แลดูอ่อนเยาว์อีกด้วย

จากข้อมูลพบว่า กาแฟเป็นตัวชำระล้างและดับกลิ่นได้เป็นอย่างดี พร้อมไปด้วยคาเฟอีนที่ช่วยกระชับผิวทำให้ ผิวเนียนเรียบ ส่วนเมล็ดกาแฟมีสารแอนตี้ออกซิแดนต์อยู่มากด้วย ปัจจุบันตลาดความงามจึงนิยมนำกาแฟมาใช้ทำสครับขัดผิวเพื่อให้เกิดการขจัดเซลลูไลต์ ทำให้ผิวเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ไม่แห้งตึง

นอกจากนั้นแล้ว คุณสมบัติเฉพาะของกาแฟยังช่วยดูดซับสารพิษและทำความสะอาดสิ่งที่ตกค้างบนผิวกายและใบหน้า ลดการอักเสบของรูขุมขนที่เป็นสาเหตุสำคัญของสิวอักเสบได้ จึงเป็นที่มาของการผลิตสบู่กาแฟ ที่อุดมไปด้วยคุณค่าของกาแฟ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย และทุกสภาพผิว

“Suthasinee Bath Gel” เป็นแบรนด์น้องใหม่ที่นำกาแฟมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อความงาม อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการตั้งร้านกาแฟของน้องสาวเมื่อ 3 ปีที่ผ่านมา

คุณสุธาสินี ภูมิสีธนา หรือ คุณสุ เจ้าของผลิตภัณฑ์ Suthasinee Bath Gel แล้ว ยังเป็นเจ้าของร้านถ่ายภาพชื่อ “ในฝัน” ย่านถนนโชคชัย 4 ถือเป็นห้องภาพชื่อดังที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ

คุณสุ เล่าถึงความเป็นมาว่า ความจริงแล้วผลิตภัณฑ์เกิดมาจากความคิดของคุณพ่อคือ คุณปกรณ์ สิงหพงศ์ ที่สนใจและต้องการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เป็นของตัวเอง ขณะเดียวกัน ได้รับรู้มาว่าคุณสมบัติในกาแฟมีสรรพคุณที่ดีต่อผิวพรรณด้วย

จากนั้น จึงศึกษาลงในรายละเอียดแล้วพบว่า กาแฟมีประโยชน์ต่อผิวพรรณ คือช่วยกระชับรูขุมขน คาเฟอีนช่วยลดริ้วรอย และกลิ่นกาแฟยังช่วยให้เกิดความสดชื่น ช่วยลดอาการเมื่อยล้า ส่วนเมล็ดกาแฟบดสามารถนำไปทำสครับขัดผิว เพื่อขัดเซลลูไลต์ เพิ่มการหมุนเวียนของเลือด และลดความอ้วนได้อีก

คุณปกรณ์ได้ศึกษาวิธีการและขั้นตอนการผลิตสครับและสบู่มาช่วงเวลาหนึ่ง ระหว่างนั้นเจอทั้งปัญหาและอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นส่วนผสมที่ต้องการเลี่ยงสารเคมีเพื่อนำความปลอดภัยต่อผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม หรือการเลือกกลุ่มลูกค้าเพื่อให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง

จนในที่สุดก็ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างสูตรส่วนผสมได้เป็นของตัวเอง โดยผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็นสครับและสบู่ก้อนกับสบู่เหลว ทั้งนี้ สบู่เหลวจะมี 2 ผลิตภัณฑ์ คือกลิ่นกาแฟ กลิ่นธรรมชาติ และกลิ่นดอกไม้ (สำหรับผู้ที่ไม่ชอบกลิ่นกาแฟ) ทั้งนี้ ผลิตภัณฑ์ชนิดล่าสุดคือ แชมพูกาแฟ

คุณสุ เผยว่า ผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดมีคุณสมบัติที่ต่างกัน อย่าง สบู่เหลว ภายหลังจากที่ใช้แล้วจะพบว่าผิวนุ่มเนียน มีความชุ่มชื่น จึงเป็นที่นิยมของลูกค้าโดยเฉพาะคุณผู้หญิงจะชอบชนิดนี้มาก ส่วนสบู่ก้อน ใช้แล้วเกลี้ยงเกลา  เหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวมัน พอใช้แล้วผิวกลับนุ่ม กระชับรูขุมขน อันมาจากคุณสมบัติของน้ำกาแฟเข้มข้นที่ใส่เข้าไป

หรือแม้กระทั่ง สครับ ที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความโดดเด่น เนื่องจากใช้กาแฟคั่วสดบดแทนกากกาแฟ เพราะฉะนั้น  จะมีน้ำมันธรรมชาติแท้ของกาแฟที่ผสมด้วยวิตามินยังอยู่อย่างสมบูรณ์ ตลอดจนแชมพูกาแฟที่ผสมมะกรูดลงไปเพื่อช่วยเพิ่มความนิ่มและความเงางามลงในเส้นผม ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถือเป็นจุดเด่นของ Suthasinee Bath Gel

ผลิตภัณฑ์ Suthasinee Bath Gel ทุกชนิดผลิตขึ้นแบบแฮนด์เมด แล้วในแต่ละครั้งจะผลิตจำนวนไม่มากเพราะไม่ต้องการให้มีสินค้าค้างไว้นาน แต่ต้องการเน้นที่ความสด ใหม่จากธรรมชาติอย่างแท้จริง

ดังนั้น ความเป็นสินค้าแฮนด์เมดจึงทำให้ต้องพิถีพิถันกับการผลิตในแต่ละขั้นตอน อย่างสบู่ที่ต้องลงทุนใส่กาแฟสดประมาณ 1 ช็อต แม้จะทำให้ต้นทุนสูง ขายยังไม่ได้มาก หรือต้องขายในราคาที่ไม่แพงก็เพื่อต้องการให้ลูกค้าได้เข้าถึงผลิตภัณฑ์และเป็นที่ยอมรับ ตลอดจนเพื่อให้ได้สินค้าที่ถูกใจและไว้วางใจของลูกค้า

การเป็นสินค้าน้องใหม่จึงทำให้ผลิตภัณฑ์ Suthasinee Bath Gel ยังไม่วางจำหน่ายทั่วไป แต่จะมีจำหน่ายทางออนไลน์ หรือมีการบอกต่อกัน ส่วนหน้าร้านประจำยังไม่มี แต่จะมีวางจำหน่ายตามสถานที่บางแห่งก่อน ไม่ว่าจะเป็นหน้าร้านกาแฟปัจจัตตัง, ร้านถ่ายรูปสุธาสินี (ซอยโชคชัย 4), ร้านถ่ายรูปในฝัน (ซอยโชคชัย 4) และตามตัวแทนที่นำไปวางขายทางภาคใต้บางแห่ง เช่นที่นครศรีธรรมราช ภูเก็ต เป็นต้น

โดยกำหนดราคาขายแต่ละชนิดมีทั้งแบบปลีก/ส่ง ดังนี้ สบู่เหลว ราคา 50 บาท และ 80 บาท, สบู่ก้อน ราคา 35 บาท และ 50 บาท, แชมพู ราคา 50 บาท และราคา 80 บาท, สครับ ราคา 180 บาท และราคา 250 บาท

สอบถามรายละเอียดผลิตภัณฑ์ Suthasinee Bath Gel เพิ่มเติมได้ที่ คุณสุ โทรศัพท์ (086) 016-1990