ส่งออกเรื่องเล็ก “เอสเอ็มอีชิปปิ้ง” โลจิสติกส์สัญชาติไทย พัฒนาระบบ ช่วย SMEs ทำธุรกิจให้ง่าย

ส่งออกเรื่องเล็ก “เอสเอ็มอีชิปปิ้ง” โลจิสติกส์สัญชาติไทย พัฒนาระบบ ช่วย SMEs ทำธุรกิจให้ง่าย

แข่งขันกันแรงขึ้นสำหรับธุรกิจโลจิสติกส์ หรือธุรกิจการขนส่ง จากเดิมที่มีเพียงไม่กี่บริษัท แต่ปัจจุบันมีคู่แข่งเพิ่มขึ้นหลายราย

smeshipping (เอสเอ็มอีชิปปิ้ง) โลจิสติกส์สัญชาติไทยให้บริการขนส่งสินค้าครบวงจรทั้งในไทยและต่างประเทศกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ผ่านบริษัทขนส่งชั้นนำ อาทิ ดีเอชแอล เอ๊กซ์เพรส เฟดเอกซ์ ทีเอ็นที เอ็กซเพรส ปัจจุบันมีลูกค้าที่เป็นผู้ประกอบการกว่า 600 ราย ปี 62 ชูยุทธศาสตร์บิ๊กดาต้า เอสเอ็มอี 4.0 นำระบบแชทบอทเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจ ตอบคำถามลูกค้าได้ทันท่วงที มีจุดเด่นราคาถูก ปลอดภัย ขนส่งตรงเวลา พร้อมขยายสาขาให้ครอบคลุมทุกภูมิภาคภายในปีนี้

คุณธวิทย์ เรืองรองปัญญา กรรมการผู้จัดการบริษัท เอสเอ็มอีชิปปิ้ง จำกัด เผยว่า ในอดีตตนเองเคยขายของออนไลน์ เคยเจอปัญหาเรื่องค่าขนส่งสินค้าที่ค่อนข้างสูง ทำให้ได้กำไรน้อย จึงเกิดความคิดอยากลดต้นทุนเรื่องการขนส่ง รวมถึงมองเห็นโอกาสสร้างธุรกิจขนส่งสินค้า

“ผมก่อตั้ง บริษัท เอสเอ็มอีชิปปิ้ง เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ให้บริการขนส่งสินค้าตั้งแต่การค้าขายออนไลน์ยังไม่เติบโตเท่าทุกวันนี้ โดยจับมือกับบริษัทขนส่ง อาทิ  ดีเอชแอล เฟดเอกซ์ และ ทีเอ็นที”

“เอสเอ็มอีชิปปิ้ง” นับเป็นบริษัทโลจิสติกส์สัญชาติไทยรายแรกๆ ผู้บริหาร ระบุว่า เน้นลูกค้ากลุ่มเอสเอ็มอี โดยอำนวยความสะดวกทุกขึ้นตอน อาทิ แพ็กสินค้าให้ ดำเนินเอกสารให้กรมศุลกากร  มีบริการประกันภัยสินค้าลดความเสี่ยงสินค้าชำรุด หรือสูญหาย ครอบคลุมทุกการขนส่งทั้งแบบทางอากาศ ทางบก ทางทะเล ยังมีบริการนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศ โดยทางบริษัทจะไปรับจากโรงงานมาส่งถึงมือลูกค้า ไม่มีจำนวนขั้นต่ำ ภายใต้งบประมาณที่กำหนดได้”

ผู้บริหารให้ข้อมูลเพิ่มว่า ที่ผ่านมาลูกค้าเอสเอ็มอี 70 เปอร์เซ็นต์ จะจัดส่งสินค้าน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม และเลือกใช้บริการจัดส่งสินค้าทางเครื่องบินมากถึง 90 เปอร์เซ็นต์ กรณีต้องการส่งสินค้าถึงหน้าบ้าน ไม่มีจำนวนขั้นต่ำ แต่สินค้าชนิดนั้นต้องมีน้ำหนักไม่เกิน 300 กิโลกรัม

หน้า www.smeshipping.com

สำหรับการจัดส่งสินค้าไปต่างประเทศ บริษัทเอสเอ็มอีชิปปิ้งมีความถนัดในการส่งสินค้าไปยังสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย และประเทศในแถบยุโรป และเอเชีย ยกตัวอย่าง ส่งสินค้าไปประเทศสิงคโปร์จะใช้เวลาเพียง 1 วัน ส่งไปสหรัฐอเมริกาไม่เกิน 5 วันทำการ สินค้าส่วนใหญ่ที่จัดส่ง คุณธวิทย์ เผยว่า เป็นประเภทเครื่องสำอาง อาหาร และสินค้าตัวอย่าง

อย่างไรก็ตามทางบริษัทฯ จะไม่ส่งของผิดกฎหมาย หรืออาวุธเทียมที่เป็นของเล่นเด็ก เช่น ปืนเด็กเล่น  หรือสินค้าที่ต้องผ่านการควบคุมอุณหภูมิ เช่น อาหารแช่แข็ง สินค้าที่มีชีวิต รวมถึงต้นไม้ ทั้งนี้เพื่อต้องการลดความเสียหายสินค้าก่อนไปถึงมือผู้บริโภค

ปัจจุบันธุรกิจอีคอมเมิร์ซไทยเติบโตต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่ดีจากนักช้อปออนไลน์ ส่งผลให้ โลจิสติกส์สัญชาติไทยรายนี้นำเรื่องเทคโนโลยี 4.0 เข้ามาใช้พัฒนาระบบการขนส่ง เพิ่มความรวดเร็วในการให้บริการ  ภายใต้แนวนโยบาย Big Data SME Shipping 4.0 บิ๊กดาต้า เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง 4.0

“บิ๊กดาต้า เอสเอ็มอี ชิปปิ้ง 4.0 จะเก็บข้อมูลและแบ่งกลุ่มลูกค้าแต่ละกลุ่มเพื่อการบริการที่ตรงใจ เช่น กลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยระดับไมโครเอสเอ็มอี ผู้ประกอบการระดับกลาง ผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้ประกอบการสตาร์ทอัพ ลดขั้นตอนด้านต่างๆ เพียงลูกค้าแจ้งชื่อนามสกุล หรือเบอร์โทรก็สามารถรับบริการได้ง่ายๆ อย่างรวดเร็ว แนวทางนี้ตอบโจทย์ผู้ประกอบการยุคใหม่ที่ขายสินค้าออนไลน์ผ่านมาร์เก็ตเพลส อาทิ อีเบย์ อาลีบาบา อะเมซอน”

นอกจากจะลงทุนด้านเทคโนโลยีแล้ว ทางบริษัทฯ วางแผนขยายสาขาอีก 5 แห่งทั่วประเทศ วัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นจุดรับสินค้า รวมถึงทำแอพพลิเคชั่นใช้งานสะดวก สามารถติดตามสินค้าได้ มีการนำระบบแชทบ็อท (Chat Bot) เข้ามาใช้สื่อสารกับลูกค้า และจับมือกับธนาคารไทยพาณิชย์ จัดอบรมนักธุรกิจหน้าใหม่ โดยเอสเอ็มอีชิปปิ้งจะไปสอนเทคนิคเกี่ยวกับการขนส่งสินค้า

ด้านรายได้ ผู้บริหารตั้งเป้าว่า ปีนี้จะทะลุ 100 ล้านบาท จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 80 ล้านบาท ซึ่งกลยุทธ์ที่วางไว้ บวกกับความไม่เคยหยุดนิ่ง เพิ่มบริการที่ทันสมัยสอดรับกับเทรนด์โลกตลอด เชื่อว่าจะเข้าถึงลูกค้าทุกกลุ่มอย่างแน่นอน

สนใจใช้บริการ สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.smeshipping.com หรือโทร
(02) 105 – 7777 หรือเข้าไปสอบถามด้วยตนเองได้ที่ 46-48 ซอยรัชดาภิเษก 16 ถนนรัชดาภิเษก แขวงวัดท่าพระ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ