เผยแพร่ |
---|
ตามหลักในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/34(7) ที่ว่าด้วยเรื่องสิทธิเรียกร้องของผู้ประกอบธุรกิจที่มีลักษณะออกทดรองเงินไปก่อน ให้มีกำหนดอายุความ 2 ปี
ซึ่งการใช้บัตรเครดิตก็เป็นกรณีที่ สถาบันการเงิน ได้ออกทดรองเงินไปก่อนให้กับลูกหนี้บัตรเครดิต จึงมีอายุความ 2 ปี นับจากวันที่ครบกำหนดชำระหนี้ (ในใบแจ้งหนี้)
เช่น คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5384/2551 “หนี้จากการใช้บัตรเครดิตไม่ว่าจะเป็นหนี้จากการซื้อสินค้าและบริการต่างๆ หรือหนี้จากการถอนเงินสด ล้วนเป็นหนี้อันเกิดจากการใช้บัตรเครดิตด้วยกัน จึงมีอายุความ 2 ปี ตาม ป.พ.พ. มาตรา 193/34 (7) ไม่อาจแยกบังคับนับอายุความแตกต่างกันได้”
นอกจากนี้ก็มีคำพิพากษาฎีกาที่ 2456/2551 และ 8051/2551 มาในแนวทางเดียวกันที่ว่าหนี้จากการใช้บัตรเครดิตมีอายุความ 2 ปี
ทั้งนี้ หากมีกรณีที่หนี้ขาดอายุความแล้ว และ ข้อต่อสู้เรื่องขาดอายุความ เป็นเรื่องที่ลูกหนี้ หรือจำเลย ต้องยกขึ้นมาต่อสู้โจทก์หรือเจ้าหนี้ เนื่องจากศาลไม่อาจนำขึ้นมาพิจารณาเองได้
ดังนั้น หากลูกหนี้บัตรเครดิตรายใด ถูกฟ้องให้ชำระหนี้บัตรเครดิต และได้รับหมายศาล จึงมีข้อแนะนำว่าต้องไปศาล และยื่นคำให้การว่า หนี้ขาดอายุความแล้วเพราะหากไม่ไปศาล ก็จะถูกพิพากษาให้ชำระหนี้ จนถึงขั้นบังคับคดี นอกจากนี้ การไปศาล ยังอาจเจรจากับเจ้าหนี้ขอลดค่าดอกเบี้ย และค่าธรรมเนียมต่างๆลงได้อีก