เผยแพร่ |
---|
รวมแหล่งเรียนฟรี Business Model สอนวางแผนธุรกิจที่ SMEs ควรรู้
แม้จะเป็นแค่พ่อค้าแม่ค้าตัวเล็กๆ ก็ไม่ได้แปลว่าเราจะไม่มีความรู้ เพราะว่าจะสามารถพากิจการให้รุ่งเรืองได้ ต้องใช้ทั้งพลังกาย พลังใจ รวมถึงเวลาที่มีทุ่มตัวลงไปสุดแรงกับธุรกิจของเรา และบ่อยครั้งก็อาจก้าวพลาดเกือบพาธุรกิจหายไปได้
วันนี้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ จะพามาทำความรู้จัก Business Model หรือโมเดลในการทำธุรกิจ ตัวช่วยที่ทำให้ธุรกิจและแบรนด์ของเหล่า SMEs แข็งแกร่ง และสามารถอยู่ต่อได้อย่างยั่งยืน
Business Model หรือโมเดลในการทำธุรกิจ เป็นสิ่งที่ทำให้เราเห็นภาพรวมของธุรกิจเราว่าจะมีทิศทาง และรูปแบบอย่างไรต่อตัวแบรนด์ ซึ่งการที่เราจะรู้ภาพรวมได้ ต้องอาศัย Business Model Canvas หรือ BMC ตัวช่วยที่ทำให้เราเห็นภาพรวมภายในกระดาษแผ่นเดียวในหลายๆ มิติ
สำหรับผู้ที่คิดค้นแนวคิด BMC นี้คือ “Alexander Osterwalder” (อเล็กซานเดอร์ ออสเทอร์วัลเดอร์) นักคิดด้านการบริหารจัดการที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก ซึ่งเป็นผู้เขียนหนังสือชื่อดัง Business Model Generation และ Value Proposition Design
ตัว Business Model Canvas นี้ มีจุดประสงค์เพื่อเป็นตัวช่วยให้เจ้าของธุรกิจตอบคำถามสำคัญของธุรกิจ 4 เรื่อง
- WHO = ทำสินค้าหรือบริการให้ใคร
- WHAT = ทำอะไร
- HOW = ทำอย่างไร
- MONEY = ทำแล้วคุ้มค่าหรือไม่
การตอบคำถาม 4 เรื่องหลักนี้ จะแบ่งย่อยออกเป็น 9 องค์ประกอบสำคัญอยู่ในกระดาษแผ่นเดียว ดังต่อไปนี้
- ลูกค้าคือใคร (Customer Segments) การทำธุรกิจต้องระบุให้ได้ว่าใครคือกลุ่มเป้าหมาย ระบุให้ชัดเจน ยิ่งลึกยิ่งดี เพราะจะได้นำเสนอคุณค่าของสินค้าได้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายที่สุด
- คุณค่าของสินค้าหรือบริการคืออะไร (Value Proposition) ต้องมั่นใจและหาให้ได้ว่าคุณค่าของสินค้าบริการ ที่ส่งมอบให้ลูกค้า ตอบโจทย์ความต้องการ หรือแก้ปัญหาให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้
- ขายผ่านช่องทางไหน (Channels) ต้องวิเคราะห์ให้ออกว่าช่องทางการสื่อสาร และช่องทางการส่งมอบสินค้า ช่องทางแบบไหนที่เหมาะกับกลุ่มเป้าหมาย และมีประสิทธิภาพมากที่สุด
- สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างไร (Customer Relationships) วิธีในการสร้างและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าอย่างไร ให้เกิดการใช้บริการต่อเนื่อง รวมถึงบอกต่อ
- มีโครงสร้างรายได้อย่างไร (Revenue Streams) โมเดลรายได้ของธุรกิจสตาร์ตอัป มีหลากหลายรูปแบบ จึงต้องมองให้ออกว่าเราจะสร้างรายได้ด้วยวิธีการใด เช่น จากส่วนแบ่งจากค่าสินค้าบริการ จากค่าสมาชิก หรือจากค่าโฆษณา เป็นต้น
- ทรัพยากรของบริษัทคืออะไร (Key Resources) เงินลงทุน เทคโนโลยีต่างๆ รวมถึงทรัพยากรบุคคล ซึ่งธุรกิจจำเป็นต้องรู้ว่าบริษัทมี KR ที่เหมาะสมหรือเพียงพอต่อการทำธุรกิจหรือไม่
- กิจกรรมที่ขับเคลื่อนธุรกิจคืออะไร (Key Activities) คือการมองว่างานหลักของธุรกิจคืออะไร เทียบกับคู่แข่งเป็นอย่างไร จะสามารถสร้างกิจกรรม หรือ Solutions ใหม่ๆ ให้ลูกค้าได้อย่างไรบ้าง
- คู่ค้าคือใคร (Key Partners) หุ้นส่วนทางธุรกิจเป็นใครได้บ้าง ที่จะมาช่วยส่งเสริม หรือเติมเต็มให้ธุรกิจมีความแข็งแกร่งมากขึ้น
- ค่าใช้จ่ายหลักของธุรกิจคืออะไร (Cost Structure) คือค่าใช้จ่ายทั้งรายจ่ายคงที่และไม่คงที่ เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงาน รวมถึงค่าใช้จ่ายทางด้านการตลาด เมื่อนำรายจ่ายเหล่านี้ไปลบกับรายได้แล้ว ผลลัพธ์ที่ได้คือผลตอบแทนที่กิจการจะได้รับกลับมา
ทั้งนี้ทั้งนั้น ในองค์ประกอบย่อย 9 ข้อนี้ ยังมีรายละเอียดเพิ่มเติมอีกเยอะว่าเราจะสามารถนับมาปรับใช้ คือคิดเผื่อต่อยอดธุรกิจให้กว้าง และรอบคอบมากยิ่งขึ้น
หากอ่านมาถึงตรงนี้แล้วคิดว่ายังไม่เข้าใจหรือไม่สามารถเริ่มวางแผนธุรกิจได้ เส้นทางเศรษฐีออนไลน์ขอเป็นตัวช่วยในการหาพื้นที่เรียนออนไลน์เพิ่มเติมเกี่ยวกับ BMC เพื่อให้ SMEs อย่างเราต่อยอดได้ง่ายยิ่งขึ้น
แหล่งเรียนออนไลน์ฟรี